Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ สิงหาคม 2543








 
นิตยสารผู้จัดการ สิงหาคม 2543
สมบูรณ์ ครบธีรนนท์ "คู่แข่งวีซ่าคือเงินสด"             
 


   
search resources

วีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย)
สมบูรณ์ ครบธีรนนท์
Credit Card




นับตั้งแต่สมบูรณ์ ครบธีรนนท์ ขึ้นดำรงตำแหน่ง ผู้จัดการวีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนลประจำประเทศไทย แทนริชาร์ด ชาง ที่ย้ายไปเป็นผู้บริหารในจีน ดูเหมือนจะเป็นสถานการณ์ ที่หนักพอสมควร

1 ปีก่อน ที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ เป็นช่วง ที่สมบูรณ์ถูกโปรโมตให้ขึ้นดำรงตำแหน่งสำคัญในวีซ่าผู้นำธุรกิจ เพื่อการชำระเงินชั้นนำของโลก ถือได้ว่าเป็นบทพิสูจน์ครั้งสำคัญในฐานะแม่ทัพของวีซ่าในประเทศไทย

หลายคนมองว่าบัตรเครดิตดูเหมือนจะเป็นที่พึ่งในยามยากได้ดีในสถานการณ์เช่นนี้ แต่หาเป็นเช่นนั้น ไม่ เพราะบรรดาธนาคารเจ้าของบัตร ซึ่งกำลังตกอยู่ในฝันร้ายถูกมรสุมหนี้เสียกระหน่ำจนตั้งตัวแทบไม่อยู่ ต่างพยายาม ที่จะจำกัดสินเชื่อ เพื่อการบริโภคประเภทนี้ตามคำสั่งของแบงก์ชาติ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันปัญหาหนี้เสีย ที่อาจเกิดขึ้น

เป็นอันว่าในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ ธุรกิจบัตรเครดิตต้องหดตัวตามสภาพเศรษฐกิจ แม้แต่วีซ่าเจ้าของแบรนด์บัตรพลาสติกระดับโลกยังต้องปรับกลยุทธ์ตามหลังจาก ที่ตัวเลขการเติบโตของบัตรเครดิต เริ่มปรากฏให้เห็นว่า หดตัวลงอย่างชัดเจน แม้ว่าจะได้ความสำเร็จจากการได้ยอดบัตรเครดิตครบ 1 ล้านใบไปแล้วก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันสถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจ เริ่มคลี่คลายไประดับหนึ่งแล้ว น่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจวีซ่า และการทำงานของสมบูรณ์มากขึ้น หลังจาก ที่ประคับประคองมาได้ระยะหนึ่ง

สิ่งที่สมบูรณ์สนใจ และให้ความสำคัญเกี่ยวกับธุรกิจบัตรเครดิต คือ ทำอย่างไร ที่จะให้คนไทยหันมาชำระเงินผ่านบัตรพลาสติกมากขึ้น เพราะขณะนี้ประเทศไทยเป็นสังคม ที่ใช้เงินสดเป็นส่วนใหญ่ สังเกตได้จากปี 2536 เงินสดครองสัดส่วน 91% ของการใช้จ่าย เพื่อการบริโภคส่วนบุคคล ขณะที่การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตมีเพียง 5% ปี 2541 89% ก็ยังเป็นสัดส่วนเงินสดอยู่ ส่วนบัตรเครดิตเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ ที่ระดับ 5.48%

นี่คือ ปัญหาหลักของธุรกิจวีซ่า ที่จะต้องพยายามทำให้คนไทยเห็นบทบาทสำคัญของบัตรชำระเงิน โดยเฉพาะการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ถ้าทำได้ย่อมหมายถึงรายได้ของวีซ่า ที่จะเพิ่มขึ้น

"เราต้องการให้คนไทยหันมาใช้บัตรเครดิต เพื่อการชำระเงินแทนเงินสดให้มากที่สุด ดังนั้น ผมจึงมองว่าเงินสดคือ คู่แข่งของวีซ่า" สมบูรณ์กล่าว

ดังนั้น แผนการดำเนินธุรกิจของวีซ่าในอีก 3 ปีข้างหน้า จึงมุ่งไปด้านส่งเสริมการใช้บัตรวีซ่า เพื่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และเพิ่มจำนวนร้านค้าผู้รับบัตร "เราจะขยายฐานร้านค้าผู้รับบัตรไปสู่ตลาดใหม่ ที่มีศักยภาพสูง เช่นสถานีน้ำมัน ทางด่วน ประกันภัย ธุรกิจการศึกษา หน่วยงานราชการ" สมบูรณ์บอก

อีกทั้งยังจะขยายฐาน และส่งเสริมบัตรวีซ่า อิเลคตรอนให้กลายเป็นสัญลักษณ์บัตรเดบิตของประเทศ ปัจจุบันจำนวนผู้ถือบัตรเดบิตเกิน 1 ล้าน ใบเช่นเดียวกับบัตรเครดิตแล้ว

"ตลาดบัตรเดบิตของเราจะเติบโตเป็น 100% เพราะเป็นตลาดใหม่ และยังไม่มีคู่แข่ง"

นอกจากนี้ยังขยายการใช้ผลิตภัณฑ์บัตรพาณิชย์ของวีซ่า บัตร วีซ่า คอร์ปอเรท วีซ่า เพอร์เชสซิ่ง และวีซ่า บิซิเนส เพื่อเจาะตลาดที่มีศักยภาพ อาทิ การชำระเงิน เพื่อการค้าโดยบริษัทขนาดใหญ่ รวมถึงธุรกิจขนาดเล็ก และขนาดกลาง

ปัจจุบันวีซ่ามีส่วนแบ่งตลาดบัตรเครดิต 55% และบัตรเดบิตระหว่าง ประเทศ 80% ล่าสุดได้เปิดตัววีซ่า แคช ซึ่งเป็นการตอกย้ำ และกระตุ้นการใช้เงินอิเล็กทรอนิกส์ในไทย "ตลอดจนผลักดันเศรษฐกิจให้ก้าวหน้าไปสู่สังคมปลอดเงินสดอีกขั้นหนึ่ง" สมบูรณ์กล่าว

คงจะต้องติดตามกันต่อไปว่ากลยุทธ์ของวีซ่าในไทยจะสำเร็จมากน้อยเพียงใด รวมถึงวีซ่า แคช เพราะใน อดีตเคยมีผู้ออกบัตรประเภทเดียวกันออกมาชื่อ ไมโคร แคช แต่ก็ล้มเหลวใน เชิงธุรกิจ

สำหรับอนาคตของระบบการชำระเงินในศตวรรษหน้าของไทยกำลังก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมปลอดเงินสด สอดคล้องกับแนวโน้มของทั่วโลก ที่จะมีการใช้บัตรชำระเงินประเภทต่างๆ แทนเงินสด และเช็ค

ธุรกิจการชำระเงินของไทยได้วิวัฒนาการจากเดิม ที่ประกอบด้วยบัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิต และบัตรเดบิตไปเป็นตลาดที่มีบัตรหลากประเภทแตกเซ็กเมนต์มากขึ้น อาทิ บัตรสมาร์ทการ์ด อเนกประสงค์ ที่ใช้เทคโนโลยีสูง

จากนี้ไปตลาดบัตรเดบิตจะเติบโตขึ้นในอัตรา ที่เร็วกว่าบัตรเครดิต เนื่องจากประชากร ที่มีบัญชีเงินฝาก ซึ่งมีอยู่ประมาณ 13 ล้านคน เปรียบเทียบกับผู้ที่มีคุณสมบัติเป็นผู้ถือบัตรเครดิต ที่มีอยู่เพียง 1.9 ล้านคน

จากปริมาณยอดขายผ่านบัตรวีซ่าทั่วโลก 70% มาจากบัตรเครดิต และ 30% มาจากบัตรเดบิต อย่างไรก็ตามสัดส่วนยอดขายจากบัตรเครดิตได้รับการคาดหมายว่าจะลดลงเหลือเพียง 30% สวนทางกับสัดส่วนยอดขายผ่านบัตรเดบิต ที่จะก้าวขึ้นมามีสัดส่วน 70% แทนในระยะยาว

ธุรกิจชำระเงินมีการแข่งขันกันสูงขึ้น โดยกิจกรรมการตลาดที่ใช้จะมุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์ในระยะยาวให้กับลูกค้า และการให้ข้อเสนอพิเศษ สิ่งเหล่านี้จะมีผลในการกำหนดว่าผู้บริโภคจะเลือกใช้บัตรของใคร

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us