ปิโตรเคมีแห่งชาติเตรียมผุดโรงอีเทนแครกเกอร์ล้านตัน และปิโตรเคมีขั้นกลาง-ปลาย ใช้เงินลงทุนประมาณ 4 หมื่นล้านบาท หลัง ปตท.ยืนยันจัดหาก๊าซอีเทนจากโรงแยกฯ 6 ให้เพียงพอ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ภายในไตรมาสแรกปี 2552 พร้อมประกาศจ่ายปันผลหุ้นละ 9 บาท โดยจ่ายวันที่ 17 พฤษภาคมนี้

นายวิโรจน์ มาวิจักขณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปิโตรเคมีแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (NPC) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัทฯเมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา เห็นชอบในโครงการอีเทนแครกเกอร์ ขนาดกำลังการผลิตเอทิลีน 1 ล้านตัน ใช้เงินลงทุนประมาณ 761 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 30,440 ล้านบาท โดยปตท. และ NPC จะถือหุ้นในสัดส่วนเท่ากันคือ 50 : 50 ในนามบริษัท พีทีที โพลีเอทิลีน จำกัด คาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ไตรมาสแรกของปี 2552 โครงการอีเทนแครกเกอร์นี้ ได้ขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากเดิมที่บริษัทฯมีแผนลงทุนไว้ 4.1 แสนตัน เป็น 1 ล้านตันต่อปี

เนื่องจากปตท.ในฐานะผู้ร่วมทุนโครงการดังกล่าว ยืนยันว่ามีปริมาณอีเทนจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติ 6 เพียงพอที่จะป้อนให้โครงการดังกล่าวได้ ซึ่งโครงการนี้จะแล้วเสร็จภายหลังจากโรงแยกฯเปิดดำเนินการผลิตได้ปลายปี 2551

ส่วนแหล่งเงินทุนนี้จะมาจากเงินทุนของผู้ร่วมทุน และการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน โดยมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 50:50 คาดว่า NPC จะใช้เงินลงทุนประมาณ 192 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 7,680 ล้านบาท โดยบริษัทฯจะจัดหาเงินจากกำไรจากการดำเนินงานและการกู้ยืมสถาบันการเงิน

นายวิโรจน์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการลงทุนปิโตรเคมีขั้นกลางและขั้นปลาย ต่อเนื่องจากโครงการเอทิลีนแครกเกอร์นั้น ทางบริษัทฯ จะลงทุนโครงการผลิตเม็ดพลาสติกโพลีเอทิลีนชนิดความหนาแน่นต่ำ (LDPE) ขนาดกำลังการผลิต 3 แสนตันต่อปี ซึ่งจะเป็นการร่วมทุนกับปตท.ในนามบริษัท พีทีที โพลีเอทิลีน จำกัด

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะทำโครงการผลิตเอทิลีน ไวนิล อะซิเตท (EVA) ขนาดกำลังการผลิต 1.2 แสนตันต่อปี ใช้เงินลงทุนประมาณ 199 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่ง NPC จะถือหุ้นในโครงการนี้ 100% ส่วนโครงการผลิตเอทิลีนโพรพิลีน ไดอีน โมโนเมอร์ (EPDM) ขนาดกำลังการผลิต 3.5 หมื่นตัน/ปี ยังไม่ได้นำโครงการนี้เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งนี้

โครงการ EVA จะใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตพื้นรองเท้า ของเล่น ถุงมือแพทย์ สายยางที่ใช้ในการแพทย์ เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันโครงการดังกล่าวยังไม่มีการผลิตในประเทศไทย โดยเบื้องต้นผลิตภัณฑ์ EVA จะส่งออกไปยังต่างประเทศคิดเป็น 50% แต่เมื่อความต้องการใช้ภายในประเทศเพิ่มขึ้นก็จะลดการส่งออกลง

"การลงทุนโครงการอีเทนแครกเกอร์ล้านตันและโครงการต่อเนื่อง คาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวมทั้งสิ้นประมาณ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนจาก NPC บางส่วน อย่างไรก็ตาม แหล่งเงินทุนที่ใช้นั้นส่วนหนึ่งคงต้องมาจากการกู้ยืมเงินสถาบันการเงินหรือออกหุ้นกู้ และบางส่วนจะมาจากเงินทุนหมุนเวียน โดยล่าสุดผู้ถือหุ้นของบริษัทอนุมัติให้นำกำไรงวดปี 2547 จำนวน 1.8 พันล้านบาท มาใช้ในการขยายการลงทุนด้วย"

แหล่งข่าวจาก NPC เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2548 ว่า บริษัทฯคาดว่าจะมีรายได้รวมกว่า 4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 4.5 พันล้านบาท เนื่องจากราคาโอเลฟินส์ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 750 เหรียญสหรัฐต่อตัน ดีกว่าช่วงเดียวกันของปี 2547 ที่ราคาโอเลฟินส์เฉลี่ยอยู่ที่ 400 กว่าเหรียญสหรัฐต่อตัน

พร้อมกันนี้ บอร์ด NPC ยังมีมติจัดสรรผลกำไรสุทธิประจำปี 47 อัตราหุ้นละ 9 บาท ให้กับผู้ถือหุ้นที่มีรายชื่อ ณ วันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นวันที่ 5 เมษายน 2548 เวลา 12.00 น. และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 17 พฤษภาคม 2548 และให้จัดสรรเป็นเงินทุนสำรองสำหรับการขยายงาน จำนวน 1,850 ล้านบาท