ในบรรดาสินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ยาสีฟัน คือตัวหนึ่งที่มีการฟาดฟันกันอย่างเข้มข้น ทั้งกลยุทธ์การตลาดและการโฆษณา กระะทั่งมีข่าวกระซิบกระซาบเล็ดลอดออกมาจากคนในวงการแต่ละบริษัทที่ขับเคี่ยวกันนั้นได้มีการตกลงกันอย่างไม่เป็นทางการ 3 ประเด็นด้วยกัน คือจะไม่ขโมยตัวพนักงานของกันและกันจะไม่ขายสินค้าตัดราคากันจนน่าเกลียดและจะไม่มีการโฆษณาโดยการโจมตีผลิตภัณฑ์คู่แข่ง แต่นี่ก็เป็นเพียงข่าวกระซิบกระซาบกันเท่านั้น บนสนามการแข่งขันกลับยิ่งเพิ่มความเข้มข้น

คอลเกตนั้น เป็นเจ้ายุทธจักรสำหรับสนามต่างจังหวัด แต่ในเมืองหลวงยังไม่สามารถพิชิตดาร์กี้ได้สำเร็จ ซ้ำร้ายในแถบชายแดนภาคใต้ อุดมไปด้วยชาวมุสลิม คอลเกตได้เผชิญคลื่นลมที่ไม่รู้บ่อเกิดสาดซัดอย่างหนักหน่วง ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา นั่นคือ มีข่าวลือหนาหูในพื้นที่นั้นว่า คอลเกตเป็นยาสีฟัน ที่มีส่วนผสมของน้ำมันหมู แน่นอน เป็นที่แตะต้องไม่ได้สำหรับชาวมุสลิม ข่าวเช่นนี้มีบ่อเกิดจากแหล่งใด ไม่มีใครล่วงรู้ และยืนยันได้มั่นเหมาะ แต่ย่อมส่งผลสะเทือนต่อคอลเกต โดยมิอาจปฏิเสธ กระทั่งไม่นานมานี้ คอลเกตต้องเชิญแขกพิเศษคือบรรดาผู้นำมุสลิมจากจังหวัดดภาคใต้เข้าชมการผลิตคอลเกตในโรงงานกันเลยทีเดียว และบริษัท ประชาสัมพันธ์ เพรสโก้ ทำการแพร่ภาพการมาเยือนครั้งนี้ ให้หนังสือพิมพ์ฉบับต่างๆ อย่างทั่วถึง แม้จะไม่ได้ชี้ชัดว่าคอลเกตนำผู้นำมุสลิม เข้าชมโรงงานครั้งนี้เพื่อพิสูจน์ตัวเองก็ตาม แต่การครั้งนี้เป็นไปอย่างที่คิดเป็นอื่นไม่ได้

เป็นที่รู้กันในหมู่นักการตลาดสินค้าตัวนี้ว่า คอลเกตพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะครองความเป็นเจ้ายุทธจักรในสนามต่างจังหวัด ด้วยกลยุทธ์การตลาดที่เหนือกว่าจนสามารถเบียดผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ตกเวทีลงไปตัวแล้วตัวเล่า และในสนามเมืองหลวงคอลเกตก็พยายามที่จะพิชิตดาร์กี้ให้จนได้ ในช่วงที่ดาร์กี้เปลี่ยนมือเอเย่นต์จำหน่ายในเมืองไทยจากไทยทาโก้ มาสู่ ซีพี คอนซูเมอร์ โปรดักชั่น เมื่อเร็วๆ นี้ ทำให้ดาร์กี้ต้องขลุกขลักในสนามการตลาดเป็นเวลาเกือบ 2 เดือนนั้น คอลเกตได้โหมด้านการตลาดด้วยการผลิตคอลเกตใหม่ "Ice Cool" ออกมาประกบ พร้อมการแนะนำแบบ door to door และแจกคอลเกตรสใหม่ขนาด 100 กรัมให้ใช้พรี แต่กระนั้นก็ตาม ข้อมูลการตลาดของบริษัท มีเดียโฟกัส สรุปว่า ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา คือหลังจากที่คอลเกตออกสินค้าตัวใหม่ประมาณ 1 เดือน ดาร์กี้ก็ยังครองมาร์เก็ตแชร์ ในกรุงเทพฯ เพิ่มจาก 33 เปอร์เซ็นต์ เป็น 35 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่คอลเกตจาก 30 กว่าเปอร์เซ็นต์ ลงมาอยู่ 28 เปอร์เซ็นต์

ด้านการโฆษณา...คอลเกตโปรโมตตัวเองด้วยการชี้ว่ามีส่วนผสมของสารฟลูโอไรด์มาช้านานแล้ว แต่นั่นก็ไม่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ครึกโครมขึ้นมาเพราะไม่มีการกระทบกระทั่งคู่ต่อสู้ตัวใดโดยตรง กระทั่งต้นเดือนกรกฎาคมที่ผานมา คอลเกต ได้เปิดฉากสงครามการโฆษณาขึ้นในเมืองไทยอย่างโจ่งแจ้ง ด้วยการนำสินค้าอีก 3 ตัว คือดาร์กี้ ใกล้ชิด และวาว มาลงตีพิมพ์โฆษณา ชี้ว่า ยาสีฟันทั้ง 3 ยี่ห้อนี้ไม่มีฟลูโอไรด์ ในขณะนี้เอาคอลเกตลงตีพิมพ์เปรียบเทียบและชี้ว่า มี เอ็ม.เอฟ.ฟลูโอไรด์

แคมเปญระลอกนี้ปรากฏออกมาหลังจากคอลเกตได้ให้สรรพคุณของสารฟลูโอไรด์กระจายไปทั่วแล้ว

แน่นอน แคมเปญระลอกนี้ไม่เพียงตะลึงกันเฉพาะในหมู่คู่แข่งขันของคอลเกตเท่านั้น ยังรวมถึงวงการโฆษณา และผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกมากมาย

- โจทก์ได้ยื่นคำร้องขอให้ห้ามไม่ให้จำเลยกระทำการโฆษณาในหนังสือพิมพ์ต่างๆ หรือโดยวิธีอื่นๆ ตามฟ้อง ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และศาลได้มีคำสั่งอนุญาตตามขอแล้ว เพราะฉะนั้นห้ามไม่ให้บริษัทคอลเกต ปาล์มโอลีฟ(ประเทศไทย)จำกัด จำเลย กระทำการดังที่กล่าวมาข้างต้น นับตั้งแต่วันได้รับหมายนี้....และนี่คือสาระสำคัญของหมายห้ามชั่วคราว ลงวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา ห้ามคอลเกตลงโฆษณาชิ้นนี้หลังจากที่คัวซ่าลอร์ ออฟฟิศ ฝ่ายกฎหมายของดาร์กี้ได้ยื่นฟ้องทันควัน

"คุณนิพนธ์บอกว่าตอนนี้ยังไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ค่ะ เอาไว้พร้อมเมื่อไหร่ แล้วจะแจ้งให้ทราบนะคะ" เลขานุการของนิพนธ์ สัจจาวุธ แห่งบริษัทโฆษณาเท็ตเบท ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำโฆษณาชิ้นนี้ให้กับคอลเกต แจ้งต่อ "ผู้จัดการ"

"ผู้จัดการ" พยายามติดต่อเพื่อขอความเห็นในเรื่องนี้จาก เกรียง กิตติโยทยาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.พี. คอนซูเมอร์ โปรดัคชั่น ผู้จัดจำหน่ายดาร์กี้ในเมืองไทย แต่เป็นวันที่ผู้จัดการเกรียงติดพันภารกิจทั้งวัน ประกอบกับศึกครั้งนี้ เกิดขึ้นกระชั้นชิดกับการปิดต้นฉบับ "ผู้จัดการ" การรอคอยจึงไม่อาจเป็นไปได้ แต่ที่แน่นอนนั้น การฟ้องร้องของดาร์กี้ครั้งนี้ เป็นการดำเนินการภายใต้การตัดสินใจของบริษัทแม่จากต่างประเทศ โดยตรง

เช่นเดียวกัน ช่วงเวลาที่กระชั้นชิด ความพยายามที่จะขอความเห็นจากบุคคลในวงการโฆษณา "ผู้จัดการ" ต้องพบกับภารกิจที่ยุ่งเหยิงของบุคคลในวงการนี้แทบทั้งหมด และรวมถึง วิโรจน์ ภู่ตระกุล แห่งบริษัท ลีเวอร์บราเดอร์ เจ้าของยาสีฟันใกล้ชิด หนึ่งในสามยี่ห้อที่โดนคอลเกตนำไปเปรียบเทียบ

"เรื่องนี้ต้องพูดกันยาวนะครับ ผมน่ะพูดได้ แต่อยากให้คุณขออนุญาตคุณลู พอล์คเกอร์ ก่อนคงจะดีกว่า" กิติเฉลิม ฝ่ายกฎหมายของบริษัท คอลเกต ชี้แจงต่อ "ผู้จัดการ" สายจาก "ผู้จัดการ" จึงถูกหมุนถึง ลู พอล์คเกอร์ ผู้จัดการใหญ่บริษัทคอลเกตปาล์มโอลีฟ ติดตามมา "ดิฉันเรียนคุณพอล์คเกอร์แล้วค่ะ ท่านบอกว่าตอนนี้ยังไม่มีความเห็นอะไร" เลขานุการ ลู พอล์คเกอร์ แจ้งต่อ "ผู้จัดการ"

เพราะฉะนั้น รายงานข่าวด้วยช่วงเวลาที่จำกัด ชิ้นนี้ จึงมีเฉพาะความเห็นของเภา มรรคเจริญวุฒิ หัวหน้าสำนักงาน คัวซ่าลอว์ ออฟฟิค และมานิตย์ แย้มอุทัย ผู้ทำคดีนี้โดยตรง มาตีพิมพ์ เป็นเนื้อเป็นหนัง...และ...เรื่องนี้ยังไม่จบ