Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กันยายน 2526








 
นิตยสารผู้จัดการ กันยายน 2526
ทหาร-สถาบันการเงินเพื่อนคู่คิดมิตรคู่ปรับ 2 สุ+1 สุ ที่ไม่ใช่ 3 สุ             
 


   
search resources

สุระ จันทร์ศรีชวาลา
สุธี นพคุณ
สุจินดา คราประยูร, พล อ.




ในแวดวงเงินๆ ทองๆ ค้าๆ ขายๆ คำว่า “3 สุ” นั้นย่อมหมายถึงจ้าวยุทธจักรแห่งยุค 3 คน คือ สุพจน์ เดชสกุลธร สุระ จันทรศรีชวาลา และสุธี นพคุณ แต่ที่นั่งแป้นเคียงแขนกันใกล้ชิดบนโต๊ะกิตติมาศักดิ์ในงานเลี้ยงสังสรรค์ พร้อมอภิปรายแกล้มรายการของสมาคมไทยเงินทุนในวันนั้น ถึงแม้จะประกอบด้วย 3 สุ ด้วยกัน แต่เพียง 2 สุ เท่านั้น คือ สุธีกับสุระ อีก 1 สุ มาจากสีเขียว เจ้ากรมยุทธการทหารบก-พลตรี สุจินดา คราประยูร ในฐานะผู้ได้รับเชิญมาอภิปรายหัวข้อ “สถาบันการเงินในสายตาทหาร”

กำหนดการเดิมผู้อภิปรายวันนี้ไม่ใช่ “สุ” แต่คือ “ ชะ” พลโทชวลิต ยงใจยุทธ ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายยุทธการ แต่เมื่อ “ชะ” ต้องมีอัน “ติดราชการ” กะทันหัน “สุ” จากสีเขียว จึงกลายเป็นผู้มาบวกอีกหนึ่งกับ 2 สุ

...หมายกำหนดการที่พลโทชวลิตจะมาร่ายเองนั้น ทำให้งานเลี้ยงสังสรรค์ในวันนั้นอุดมไปด้วยผู้สื่อข่าวถึงเกือบ 1 ใน 3 ของคนในแวดวงเงินๆ ทองๆ ที่มากัน 100 คนเศษๆ ผู้สื่อข่าวที่มากันวันนี้ชนกันจากแทบทุกสายก็ว่าได้ ทั้งสายเศรษฐกิจ สายการเมือง สายการเมืองก็แบ่งแยกย่อยเป็นสายจากสภาฯ ทำเนียบ สายทหาร ฝ่ายเจาะพิเศษเลยทีเดียวเชียว ที่มากันคับคั่งจนเจ้าภาพอาจแอบตกใจครั้งนี้ก็ด้วยเหตุความสำคัญของเจ้าตัวผู้ต้องมาอภิปรายตามหมายกำหนดการนั่นแหละ

รู้ๆ กันอยู่ว่ากองทัพบกไทยในยุคหลังๆ พลโทชวลิต ยงใจยุทธ หรือ “บิ๊กจิ๋ว” คนนี้คือมันสมองคนสำคัญ.. .อันดับหนึ่งก็ว่าได้ นักข่าวการเมืองหลายๆ คนถึงกล้าพูดว่าปราดเปรื่องที่สุดในยุทธจักรวงการทหาร อันเกี่ยวกับการเมือง เท่าที่ประเทศไทยเคยมีมา เพราะฉะนั้นเมื่อจะมองทิศทางความคิดเห็นเป็นชิ้นเป็นอันของกองทัพก็มักจะทั้งมองและฟัง จาก “บิ๊กจิ๋ว” และหลายคนเช่นกันที่ให้สมญาจ้าวยุทธจักรคนนี้ว่า “เสนาธิการนายกรัฐมนตรี”

ถ้าให้ “ผู้จัดการ” คอมเมนต์ถึงบุคคลผู้นี้ก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่ต้องว่ากันยืดยาว แต่หากเอากันสั้นๆ ก็กล่าวว่าเรื่องราวของคำสั่ง 66/23 อะไรต่ออะไรที่คนในกองทัพหลายส่วนยึดถือเป็นคัมภีร์ปฏิบัติที่สำคัญสุดยอด ก็ “ บิ๊กจิ๋ว” คนนี้นี่แหละเป็นผู้รู้ดี เรื่องผลักดันให้มีการแก้รัฐธรรมนูญที่ฮือฮากันเมื่อ 3-4 เดือนก่อน ก็จากคนนี้เช่นเดียวกันปลายปีที่แล้วได้รับเชิญให้พูดเรื่องยึดหรือไม่ยึดแบงก์

ว่ากันไปแล้ว “มวยแทน” อย่างพลตรีสุจินดา คราประยูร ก็ไม่ใช่เล่นเช่นกัน จะกล่าวให้หมดก็ยืดยาว ถ้าเอากันสั้นๆ ก็ต้องสรุปว่า เจ้ากรมยุทธฯ ผู้นี้คือหัวหอกคนสำคัญของ จปร.รุ่น 5 ซึ่งนักข่าวสายการเมืองสรุปว่า “จปร.รุ่น 5 คือฐานแน่นเหนียวของเตรียม ทบ.รุ่น 5” และหัวหอกสำคัญสุดยอดของเตรียม ทบ.รุ่น 5 ก็คือคนชื่ออาทิตย์ กำลังเอก ยศพลเอกนั่นแหละ

“ผู้จัดการ” ไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าในฐานะ “มวยแทน” พลตรีสุจินดาแอบน้อยใจบ้างหรือเปล่า ที่ดูเหมือนคนโนเนม สำหรับเวทีแห่งนี้ แม้โฆษกของรายการก็ยังเรียกชื่อไม่ถูก “ท่านพลตรี” โฆษกเรียกเช่นนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า เมื่อกล่าวถึงเจ้ากรมฯ

อย่างไรก็ตาม “มวยแทน” ก็ปล่อยลูกเล่นนำร่องให้หัวร่องอหงายหลายคราก่อนเข้าสู่ประเด็น “ท่านที่มาในที่นี้ เพียงมองดูใบหน้าก็รู้ได้ทันทีว่าราศรีจับใบหน้ากันทุกคน อิ่มเอิบ ขาวผ่อง แม้แต่คุณสุระ จันทรศรีชวาลา ผู้ซึ่งผมได้ยินแต่ชื่อและดูจากรูปถ่าย ไม่เคยคิดว่าจะเป็นเช่นนี้ ที่ไหนได้ใบหน้าท่านกลับขาวผ่อง ขาวยิ่งกว่าผมเสียอีก...” หรือ “ตอนแรกที่พี่จิ๋วบอกว่า คุณสุธีเขาเชิญ ก็ไม่รู้ว่าสุธีไหน แล้วบอกว่ามาที่ห้องพาโนรามา โรงแรมรามา ก็ไม่รู้ว่า รามาทาวเวอร์หรือรามาการ์เด้นส์ เพื่อนๆ บอกว่าพาโนรามาอยู่ที่รามาทาวเวอร์ ผมก็เอะใจ เอ๊ ถ้าเป็นคุณสุธี นพคุณ ก็น่าจะเป็นรามาการ์เด้นส์ เพราะรามาทาวเวอร์ คุณสุธีก็ขายไปแล้วนี่นา...”

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทั้งชื่อเสียงในด้านกว้างและลีลาการพูดของเจ้ากรมฯ ยังดึงดูดผู้สนใจได้น้อยกว่ามวยจริงที่เตรียมการกันตั้งแต่เริ่ม ทำให้บรรยากาศไม่คึกคักเท่าที่ควร ครั้งนั้นเมื่อทัศนะสั้นๆ และกว้างๆ จบลง ผู้ร่วมสังสรรค์ ไม่น้อยก็เริ่มทยอยออกจากพาโนรามา อีกประการที่ทำให้บรรยากาศไม่คึกคักก็เห็นจะเป็นไปตามคอมเมนต์ของนักข่าวสายเศรษฐกิจที่ว่า “มากันระดับบริษัทเล็กๆ เท่านั้น หรือที่ดูใหญ่ๆ ก็ไม่รู้ใหญ่จริงหรือเปล่า พวกทิสโก้ สินเอเซีย บีฟิท ไม่เห็นโผล่กัน เลยดูๆ เหงาๆ ยังไงก็ไม่รู้” คำตอบของบรรยากาศนี้สำหรับนักข่าวสายเศรษฐกิจ ก็คือ “ความขัดแย้งในหมู่บริษัทเงินทุนยังมิจบสิ้น”

อ้อ-พูดกันเล่นๆ ว่าที่นั่งเคียงข้างเจ้ากรมฯ สุจินดา นั้น มีทิศทางธุรกิจที่สวนกันชัดเจน ข้างขวา-เป็นนักขายแห่งยุค ที่ขายทุกอย่างที่มีอยู่ ด้านขวานั้นเล่า เขาก็คือนักซื้อผู้ลือนาม ที่ซื้อทุกอย่างที่ขวาง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us