|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ กันยายน 2526
|
|
คำสั่งศาลห้ามอัมรินทร์ พลาซ่า ใช้เครื่องจักรกลดีเซลตอกเสาเข็มนั้น ในกรณีที่โรงเรียนมาแตร์เดอีเป็นโจทก์ มีจุดสำคัญน่าสนใจนอกเหนือประเด็นหลักอยู่ประการหนึ่ง นั่นคือตอนหนึ่งของคำสั่งศาลมีว่า “...ยิ่งกว่านั้น กรุงเทพมหานครยังไม่ได้อนุญาตให้จำเลยใช้เหล็กเป็นเสาเข็ม และเจ้าหน้าที่ได้สั่งห้ามไม่ให้จำเลยตอกเสาเข็มแล้ว แต่จำเลยฝ่าฝืนเป็นการทำผิดกฎหมาย...”
“นี้เป็นเรื่องเข้าใจผิดของทนายโจทก์ครับ เขาโค้ดข้อมูลจุดนี้ไม่ถูกต้อง” คนของอัมรินทร์ พลาซ่า ซึ่งมีฐานะที่ต้องพูดต่อสาธารณชน แต่ปิดปากเงียบ กล่าวกับ “ผู้จัดการ” พร้อมขอสงวนชื่อเสียงเรียงนาม
“เมื่อเป็นเรื่องไม่จริง ทำไมจึงไม่โต้ในศาลและทำไมศาลจึงปล่อยให้ออกมาอย่างนี้” คำถามนี้ติดตามมาทันทีขณะเดียวกัน กอปรกับอีกบางคนของอัมรินทร์ พลาซ่า ได้แสดงท่าทีต่อประเด็นนี้อย่างแบ่งรับแบ่งสู้ “มันก็พูดยากนะครับ” เขาว่า “เรื่องอย่างนี้ โอเค มันมีการพลิกแพลงเปลี่ยนแปลงกันได้ครับ ผมว่าทั้งนั้นแหละ ที่ก่อสร้างกันหลายสิ่งหลายอย่าง เมื่อทำกันจริงๆ ก็ย่อมมีการเปลี่ยนแปลง”
ถึงตอนนี้เห็นทีต้องสรุปกันตามคำพูดและเรื่องที่รู้กันของคนในวงการก่อสร้างที่ว่า “ก็เรื่องลักไก่มันก็ต้องมีบ้าง แหละครับ จะเอาอะไรกันนักหนา”
อีกเรื่อง- เปิดเผยจากคนที่น่าจะเปิดเผยอะไรได้มากจากค่ายอัมรินทร์ พลาซ่า เช่นเดียวกัน...ว่าเครื่องจักรไอน้ำตอกเสาเข็มที่นำมาใช้แทนเครื่องดีเซลเจ้าปัญหานั้น ไม่ได้เป็นเครื่องที่ขนมาใหม่หรอก ความจริงอัมรินทร์ พลาซ่า ใช้เครื่องจักรไอน้ำก่อนใช้เครื่องดีเซลเสียอีก แต่นัยว่าไม่ทันอกทันใจ เรี่ยวแรงแข็งขันสู้เจ้าเครื่องดีเซลไม่ได้ จึงเอาเครื่องดีเซลเข้ามาแทน และเครื่องไอน้ำก็หวนกลับมาอีก วันแรกที่เครื่องไอน้ำอุ่นเครื่อง เป็นคำรบสอง “ผู้จัดการ” ได้รับการเปิดเผยพอเป็นกระสายจากคนของอัมรินทร์ พลาซ่าคนเดิม ว่า “ต่อไปเราก็จะสั่งเอาเครื่องตอกดีเซลมาช่วยอีกแรงหนึ่ง เพื่อให้รวดเร็วยิ่งขึ้น” คำถามของ “ผู้จัดการ” ก็คือเอาเครื่องดีเซลมาอีกไม่มีปัญหาทางกฎหมาย หรือ คำตอบก็คือ “คงไม่มีครับ” เครื่องดีเซลที่จะเอามาเสริมอีกเป็นเครื่องแบบเดิมหรือไม่ ที่ว่าไม่มีปัญหานั้นไม่มีอย่างไร เป็นคำตอบที่ยังไม่มีคำตอบ ก็บอกแล้วว่าเรื่องนี้ยังเป็นการเปิดเผยพอเป็นกระสาย
ข้อน่าคิด-หนึ่ง-เครื่องจักรดีเซลจะหวนกลับเป็นคำรบสองเช่นเดียวกับเครื่องไอน้ำหรือไม่- สอง-คำสั่งศาลสรุปว่า “ห้ามมิให้จำเลยใช้เครื่องจักรดีเซลอย่างที่ใช้อยู่ขณะนี้ตอกเสาเข็มอีกต่อไป”...ถ้าหากเป็นเครื่องจักรดีเซลแบบอื่นล่ะ จะว่ากันอย่างไร คงต้องฟ้องร้องกันหรือไม่
เรื่องที่สาม- เรื่องนี้ไม่รู้ว่า เป็นความเจ็บปวดของค่ายอัมรินทร์ พลาซ่า มากน้อยแค่ไหน ก่อนเรื่องถึงโรงถึงศาล การเจรจาเพื่อหาวิธีป้องกันให้คู่กรณีมีมาไม่หยุดหย่อน เช่นกรณีโรงเรียนมาแตร์เดอี อัมรินทร์ พลาซ่า เสนอติดตั้งเครื่องปรับอากาศให้กับโรงเรียนเพื่อป้องกันไอเสีย และเสียงรบกวน กรณีโรงแรมเอราวัณก็ใช้ผ้าใบกั้นไว้สูง เพื่อป้องกันควันเสีย เมื่อประนีประนอมกันไม่ได้ เรื่องก็ถึงศาล และคำสั่งศาลกล่าวถึงมาตรการป้องกันเหล่านี้ เป็นเสมือนหอกที่หันมาทิ่มแทงตัวเอง กรณีโรงแรมเอราวัณ ศาลสั่งตอนหนึ่งว่า “การที่จำเลยได้หาวิธีการป้องกันให้โจทก์ โดยจะไปติดตั้งเครื่องปรับอากาศ จะกั้นห้องกระจกให้แก่โจทก์ และใช้ผ้าใบกั้นสูง เป็นการยอมรับว่า ควันและเสียงไปก่อความเดือดร้อนให้แก่โจทก์ อันเป็นการละเมิดต่อโจทก์..” และกรณีโรงเรียนมาแตร์เดอี ศาลสั่งตอนหนึ่งว่า “...การทีจำเลยได้หาทางป้องกันโดยวิธีไปติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ในห้องเรียนให้แก่โจทก์ เป็นการยอมรับว่า ควันที่เกิดจากเครื่องจักรดีเซลของจำเลยเป็นเหตุให้โจทก์และนักเรียนของโจทก์เจ็บป่วย เป็นอันตรายแก่สุขภาพ อันเป็นละเมิดต่อโจทก์..
เรื่องที่สี่-อัมรินทร์ พลาซ่า เป็นโครงการมหึมาที่ร่วมทุนและร่วมแรงแข็งขันระหว่าง 3 ตระกูล เก่าแก่ของคนจีนในไทย ดังนั้นความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับแผ่นดินใหญ่จึงมีไม่มากไม่น้อย เมื่อเร็วๆ นี้ “ว่องกุศลกิจ” 1 ใน 3 ตระกูลก็ตัดสินใจร่วมทุนกับจีน เพื่ออุตสาหกรรมแร่ถ่านหินในไทย ขณะนี้กำลังสำรวจแหล่งถ่านหินกันอยู่ การร่วมทุนครั้งนี้ ฝ่ายไทย นำโดย ชนินทร์ ว่องกุศลกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัทแร่ลิกไนต์ จำกัด สำหรับอัมรินทร์ พล่าซา ก็เกี่ยวพันกันไม่น้อยเช่นกัน เครื่องจักรดีเซลเจ้าปัญหานั้นขนข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากเซี่ยงไฮ้ เครื่องไอน้ำก็เช่นเดียวกัน ที่ขาดไม่ได้พร้อมๆ กับเครื่องจักร คือช่างเทคนิคจากจีน ในวันที่ “ผู้จัดการ” เตร็ดเตร่เหมือนคนไม่มีญาติ ไปชมวิวบริเวณที่กำลังตอกเสาเข็มกัน ก็เห็นช่างเทคนิคจากแผ่นดินใหญ่ ยืนคุมงานอุ่นเครื่องเครื่องจักรไอน้ำกันสลอน
เรื่องที่ห้า- ปัญหาเกี่ยวเนื่องในประเด็นความสัมพันธ์กับองค์กรรอบข้างของอัมรินทร์ พลาซ่า นั้น ครั้งนี้มิใช่ครั้งแรกที่อัมรินทร์ พลาซ่า ต้องหัวเสีย ถึงแม้จุดนั้นทำเลจะดีเยี่ยม แต่ข้อเสียอันร้ายกาจตกอยู่ที่การเจรจาติดขัดชะมัดยาด เพราะฉะนั้นแรกเริ่มโครงการอัมรินทร์ พลาซ่าจึงพยายามติดต่อกับโรงแรมเอราวัณ และสมาคมศิษย์เก่า เทพศิรินทร์ ซึ่งมีพื้นที่อยู่บริเวณนั้น เพื่อขอตัดถนนเชื่อมถนนเพลินจิตกับราชดำเนิน โดยผ่านด้านหลังอัมรินทร์ พลาซ่า แต่ติดปัญหาเรื่องงบประมาณที่มากมายเกินไป เรื่องจึงจบเกม
เรื่องที่หก- เรียกว่า กำกงกำเกวียนจะได้หรือเปล่า ไม่มั่นใจนัก เอาเป็นว่าคนวงนอกไม่น้อยเลยที่มองสถานการณ์ทำนองนี้ในลักษณะ “ทีใครทีมัน” ไม่เฉพาะระหว่างอัมรินทร์ พลาซ่า กับเอราวัณหรอก ตึกสูงๆ ที่ผุดแต่ละที่ และมีปัญหากับตึกรอบข้างก็เช่นกัน สำหรับอัมรินทร์ พลาซ่า กับเอราวัณนั้น ว่ากันว่าครั้งนี้อัมรินทร์ พลาซ่า ต้องกล้ำกลืน แต่เมื่อดูแล้วเอราวัณก็เก่าแก่มิใช่เล่น ธรรมชาติแห่งความเติบโตทางธุรกิจ ทำให้ที่ดินตรงนั้นต้องเปลี่ยนโฉมเป็นตึกระฟ้าในไม่นานเกินรอหรอก แล้วอีกอย่าง แว่วข่าวว่า ที่ดินตรงสมาคมศิษย์เก่า เทพศิรินทร์ ยังได้รับการผนวกเข้ากับที่เก่าของเอราวัณอีก เพราะฉะนั้นหากมีโครงการใหม่เกิดขึ้น ตรงจุดนี้ก็ย่อมยิ่งใหญ่ไม่ใช่เล่น เมื่อถึงวันนั้น เอราวัณต้องระวังกันล่ะ ตอกเสาเข็มยังไงเพื่อไม่ให้ระคายผิด อัมรินทร์ พลาซ่า อะฮ่า
เรื่องที่เจ็ด- ถึงแม้ว่าทำเลดี ทำให้อัมรินทร์ พลาซ่า มีผู้จองไม่เลวเลย แต่จะพูดว่า เทน้ำเทท่าคงไม่ได้หรอก อันเป็นไปตามธรรมชาติของสินค้าที่มิใช่ราคาบาทสองบาท และอีกอย่างก็คือ-คู่แข่ง ผุดขึ้นมามากมายเหลือเกิน
“ตอนนี้เราพยายามปรับปรุงตลาดต่างประเทศครับ” คนของอัมรินทร์ พล่าซ่า กระซิบเบาๆ อีกเปลาะ
เรื่องที่แปด-ถามว่า อัมรินทร์ พลาซ่า ต้องตอกเสาเข็มกี่ต้น และตอนนี้เสร็จสิ้นไปแล้วเท่าไหร่ คำตอบของคนจากโครงการนี้อีกเปลาะที่ “ผู้จัดการ” ยังไม่กล้ายืนยัน มีใจความว่า “ทั้งหมดต้องตอก 1,450 กว่าต้น ตอนนี้เสร็จไปแล้วเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์ ครับ”
และอีกเรื่อง- เรื่องนี้ ยังไม่มีเสียงครึกโครมยืนยันเป็นมั่นเหมาะ เพียงแว่วๆ มาว่า ขณะนี้มิใช่เฉพาะอัมรินทร์ พลาซ่าหรอกที่มีปัญหา อีหรอบเดียวกับมาบุญครอง เซ็นเตอร์ คอมเพล็กซ์มโหฬารอีกแห่งหนึ่ง ตรงสี่แยกปทุมวันก็โดนเหมือนกัน เป็นปัญหาที่กระทบกระทั่งกับกรมพลศึกษา เพื่อใกล้ชิดสนิทแดนจนถึงขั้นมาบุญครองอาจต้องเปลี่ยนวิธีตอกเสาเข็มก็ได้
อย่างนี้ต้องเรียกว่าเป็นเหตุการณ์ทันสมัยในยุคคอมเพล็กซ์เฟื่องฟูถึงจะเหมาะ
|
|
|
|
|