Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน26 เมษายน 2548
TOA ปั๊มยอดขายสีต่างประเทศ 5 ปี โกย 5,000 ล.หวังเบียดตลาดสีไอซีไอ-นิปปอนเพนต์             
 


   
www resources

โฮมเพจ ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด

   
search resources

ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย), บจก.




ทีโอเอเดินเครื่องเต็มลูกสูบเร่งขยายฐานตลาดต่างประเทศ ตั้งเป้าภายใน 5 ปี ต้องทำยอดขายให้ได้ 5,000 ล้านบาท หรือครึ่งหนึ่งของยอดขายในประเทศ เจาะประเทศตลาดใหม่ส่งเครื่องผสมสี TOA Color World วางประเทศในอาเซียน ประเดิม 50 เครื่อง ทุ่มเงิน 15 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายโรงงานในเวียดนามควบคู่เป็นงบทำการตลาด คาดทั้งปียอดขายโต 20% หรือ 8,400 ล้านบาท ยอมรับน้ำมันขึ้นกระทบต้นทุนเพิ่ม 20% พร้อมงัดแผนรับมือเศรษฐกิจชะลอตัว

นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการรับผิดชอบสายงานต่างประเทศ บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2548 บริษัทพร้อมที่จะเข้าไปขยายตลาดต่างประเทศอย่างเต็มที่ หลังจากก่อนหน้านี้เริ่มเข้าไปทดสอบตลาดและมีช่องทางที่บริษัทจะเติบโตในตลาดต่างประเทศได้เห็นได้จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากระดับ 300 ล้านบาท ในปี 2546 เป็น 1,000 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา และคาดว่าในปีนี้จะมียอดขายประมาณ 1,000 ล้านบาท และได้กำหนดแผนระยะยาวภายใน 5 ปี ต้องสามารถสร้างยอดขายให้ได้ 5,000 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามแผนที่วางไว้

โดยกำหนดกลยุทธ์ไว้หลายแนวทาง คือ 1.การสร้างแบรนด์ของผลิตภัณฑ์ในประเทศตลาดใหม่ใช้ผลิตภัณฑ์สีที่เป็นดาวเด่น (Star Product) ของบริษัทคือ Super Shield ,Super Shield Dur Aclean และ Shield All 2.การนำเครื่องผสมสี TOA Color World ซึ่งเป็นนวัตกรรมของการเลือกสีของทีโอเอไปติดตั้งในต่างประเทศอย่างเต็มที่ในเบื้องต้นประมาณ 50 เครื่อง เช่น เวียดนาม, จีน, มาเลเซีย พม่า และอยู่ระหว่างการตัดสินใจวางในประเทศกัมพูชา ซึ่งก่อนหน้านี้ได้วางเครื่องผสมสีเพียง 2-3 เครื่อง ในประเทศจีน เวียดนาม เป็นต้น และ 3.เตรียมงบไว้ 15 ล้านเหรียญสหรัฐ ในการขยายตลาด แบ่งเป็น 7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มส่วนต่อขยายโรงงานในประเทศเวียดนาม คาดว่าก่อนสิ้นปีจะแล้วเสร็จและที่เหลือจะใช้ไปกับแผนการตลาด

"ตลาดต่างประเทศที่ทีโอเอเข้าไปหาก มีคู่แข่งอย่างบริษัท สีไอซีไอ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท นิปปอน เพนต์ (ประเทศไทย) จำกัด จะเข้าไปแข่งเพื่อแย่งส่วนแบ่งตลาดมาให้ได้แทนที่จะไปประเทศที่ไม่รู้จักคู่แข่ง ทำให้ตรงนี้ไม่สามารถประเมินกำลังของคู่แข่งได้ ขณะที่การส่งออกสีก็ยังเติบโตแต่การทำตลาดหลักๆในต่างประเทศ จะใช้ฐานในประเทศนั้นๆ ทำการตลาดมากกว่าซึ่งในปีจะเพิ่มตลาดส่งออกจาก 43 ประเทศเป็น 80 ประเทศ อย่างไรก็ตามพฤติกรรมของลูกค้าในแต่ละประเทศจะมีความแตกต่างกันในการบริโภคทำให้ต้องปรับแผนใหม่หมดเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละกลุ่ม อีกทั้งการบริโภคสีในต่างประเทศยังสูง เช่นประเทศพัฒนาจะมีการบริโภคสีถึง 20-40 กิโลกรัมต่อคนต่อปี ขณะที่ของไทยประมาณ 5 กิโลกรัมต่อคนต่อปี" วนรัชต์ กล่าว

นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ กรรมการผู้จัดการรับผิดชอบสายงานในประเทศกล่าวถึงทิศทางของยอดขายในปีนี้ว่า ได้ตั้งเป้าปิดการขายประมาณ 8,400 ล้านบาท หรือเติบโตจากปี 2547 ประมาณ 20% จากที่ปิดการขายได้ 7,000 ล้านบาท ขณะที่ปี 2546 ปิดการขายได้ 5,400 ล้านบาท ส่วนแบ่งตลาดในปีนี้คาดจะเพิ่มเป็น 50% ของมูลค่าตลาดสีทาอาคารที่คาดว่าจะเติบโตประมาณ 12% จาก 10,000 ล้านบาท เพิ่มเป็น 11,200 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายของสีพรีเมียมเกรดเอของทีโอเอในปีที่ผ่านมามีมูลค่าถึง 1,000 ล้านบาท สูงถึง 10 เท่านับตั้งแต่ปี 2544 สำหรับยอดขายสีที่ผลิตจากศูนย์ผสมสีระบบคอมพิวเตอร์ TOAColor World ในปีที่ผ่านประมาณ 650 ล้านบาท และกว่า 50% เป็นสีระดับพรีเมียมเกรดนอกจากนี้บริษัทเตรียมที่จะเพิ่มเครื่องผสมสีจากที่มีอยู่ 450 เครื่องเป็น 600 เครื่อง ภายในปีนี้กระจายไปทั่วประเทศ

นายจตุภัทร์ กล่าวว่า ล่าสุดบริษัทได้ลงทุนซื้อโปรแกรมออกแบบสีบ้าน Ide@Color จากประเทศออสเตรเลีย ในส่วนนี้จะช่วยให้ลูกค้าสามารถประหยัดเวลา ในการเลือกซื้อสีได้รวดเร็วและเหมาะกับรูปแบบบ้านที่ลูกค้าต้องการ โดยบริษัทจะนำโปรแกรมเข้าไปเสริมในเครื่องผสมสีที่มีขณะนี้คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 13 ล้านบาท หรือ 30,000 บาท ต่อโปรแกรมสำหรับภาพรวมตลาดสีในประเทศคาดว่ายังเติบโตได้อย่างต่อเนื่องซึ่งฐานลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่เกือบ 90% จะเป็นรายย่อย ที่เหลือกระจายไปยังโครงการ ทั้งนี้ยอมรับว่าต้นทุนของบริษัทได้เพิ่มขึ้นตามทิศทางของราคาน้ำมันขณะนี้เฉลี่ย 20% โดยในช่วงเดือนมีนาคม 48 บริษัทได้ปรับราคาขายสีขึ้นอีก 5% เพื่อให้บริษัทและร้านค้าอยู่รอด แต่เป็นการปรับขึ้นไม่ครอบคลุมของต้นทุนที่เพิ่มขึ้นทั้งหมด

ปรับองค์กรให้กระชับ ลดต้นทุน-เพิ่มกำไร

นายประวิทย์ อนันตวราศิลป์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า ปัจจัยเรื่องของราคา น้ำมันเป็นเรื่องที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้และบริษัทได้เตรียมความพร้อมมาตั้งแต่กลางปี 2547 แล้วโดยทำแผนการปรับโครงสร้างองค์กรให้กระชับเพื่อให้ง่ายต่อการบริหารจัดการภายใน หาวิธีที่จะประหยัดต้นทุนเพื่อให้สามารถรับมือกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวได้ และออกโปรแกรมแมเนจเมนต์ เทรนดิ้ง กับผู้บริหารรุ่นใหม่เป็นการวางรากฐานของผู้บริหารในอนาคต โดยคาดว่าจะมีผู้บริหารเข้ามาฝึกอบรม 12 คน ในเดือนมิ.ย.นี้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us