กลุ่มสามารถปัดกวาดบ้านในโอกาสครบรอบ 50 ปี ให้ทุกอย่างต้องเดินไปพร้อมกัน เพื่อดันรายได้ให้เป็นไปตามเป้าปีนี้ 2 หมื่นล้านบาท ส่วนโครงการที่จะทำรวมกับเอ็ม-ลิงค์ เร่งหาพาร์ตเนอร์อีก 2 ราย ย้ำเป็นกึ่งธุรกิจสื่อสาร ปลายปีนี้เห็นความชัดเจน ด้านการประมูลโครงการไม่เน้นใหญ่ เพราะกำไรต่ำ แข่งขันสูง

นายธวัชชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ในวาระครบรอบ 50 ปีของการดำเนินกิจการของกลุ่มสามารถ ปีนี้มุ่งเน้น 3 เรื่องหลักคือ 1.โปรโมชัน เพื่อโปรโมตแคมเปญ 50 ปี และดันยอดขายให้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 2 หมื่นล้านบาท จากรายได้รวมทั้งกลุ่มของปีที่ผ่านมา 1.4 หมื่นล้านบาท 2.ด้านการช่วยเหลือสังคม ยังจะคงทำต่อเนื่อง ทั้งเรื่องของการให้ทุนการศึกษา การสร้างโรงพยาบาล รวมถึงการสร้างศูนย์ออกกำลังลังกายให้พนักงานและคู่ค้าด้วย 3.ภาพลักษณ์หรืออิเมจ ซึ่งในวันที่ 20 พ.ค.นี้ จะมีการจัดประชุมและปาร์ตี้ใหญ่ให้กับคู่ค้าทั่วประเทศที่ห้องบางกอกคอนเวนชัน เซ็นทรัล พลาซา เพื่อเป็นการขอบคุณกับความช่วยเหลือกลุ่มสามารถในระยะเวลาที่ผ่านมา

จากแผนงานดังกล่าวจะมีการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ โดยใช้งบประมาณ 30 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังจะมีการฝึกอบรมให้กับพนักงานและคู่ค้า เกี่ยวกับการบริหารจัดการ เพราะผู้บริหารหรือพนักงานส่วนใหญ่จะมาจากสายวิศวกรหรือเซลส์แมน ที่ไม่เน้นเพียงเรื่องของการขายและการตลาดเพียงอย่างเดียว

พร้อมกันนี้ ยังมีแผนจะปรับเปลี่ยนระบบไอทีเป็นแบบรวมศูนย์ หรือไอที เซ็นเตอร์ เพื่อให้เป็นแบบเดียวกันทั้งหมด เพราะที่ผ่านแต่ส่วน แต่ละบริษัทมีการใช้ซอฟต์แวร์หรืออุปกรณ์ไอทีแตกต่างกัน ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดประมูลโครงการ และคาดว่าจะใช้ประมาณ 100 ล้านบาท หลังจากมีศูนย์ไอทีแล้วเชื่อว่าจะสามารถดำเนินการเกี่ยวกับธุรกรรมต่างๆ ได้เร็วขึ้น เช่น แจ้งผลประกอบการกับตลาดหลักทรัพย์ หรือกำไรของผู้ถือหุ้นได้เร็ว เป็นต้น

สำหรับการดำเนินธุรกิจของกลุ่มสามารถ มีสามารถคอร์ปอเรชั่นเป็นแกนนำ มีการแบ่งธุรกิจออกเป็น 4 สาย ประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจมือถือและสื่ออินเตอร์แอ็คทีฟ, ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม, ธุรกิจสื่อสารไอที และธุรกิจอื่นๆ โดยแต่ละสายธุรกิจจะเน้นการนำเสนอสินค้าและบริการที่แตกต่างกัน มีแผนขยายธุรกิจและการเติบโตของตัวเอง แต่ทั้งหมดจะต้องสนับสนุนธุรกิจซึ่งกันและกัน

“เราต้องพัฒนาไปพร้อมๆ กันทุกด้าน ซึ่งไม่ใช่แค่การขายหรือการตลาดเพียงอย่างเดียว”

ด้านรายได้กลุ่มธุรกิจมือถือและสื่ออินเตอร์แอ็คทีฟ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ทำรายได้สูงคิดเป็นสัดส่วน 69% รอบปีนี้มีแผนจะเปิดตัวเครื่องลูกข่ายรุ่นพิเศษ และคอนเทนต์รูปแบบใหม่สู่ตลาดอีกจำนวนมาก โดยมีเป้าหมายให้สามารถเพิ่มรายได้อีก 20% และในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้เฉพาะมือถือที่เป็นแบรนด์ของสามารถขายได้ 2 แสนเครื่อง

ธุรกิจด้านโทรคมนาคม จะเน้นการรุกธุรกิจระบบสื่อสารภายในองค์กรมากขึ้น โดยตั้งเป้ารายได้เพิ่มขึ้น 30%

ธุรกิจสื่อสารไอที ซึ่งขณะนี้มีสัญญาคู่ค้าที่ตกลงกันแล้วคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,400 ล้านบาท รวมถึงโครงการติดตั้งระบบบริหารข้อมูลและสารสนเทศของท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้เพิ่มเป็นเท่าตัว และภายในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้จากการประมูลโครงการต่างๆ ประมาณ 2,000 ล้านบาท หรือโต 100% จากปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 1,000 ล้านบาท

“การประมูลโครงการเราไม่เน้นโครงการขนาดใหญ่ เพราะมาร์จิ้นต่ำแข่งขันกันสูง คงเข้าประมูลโครงการที่มีมูลค่าประมาณ 500-600 ล้านบาท”

ส่วนสายธุรกิจอื่นๆ ซึ่งประกอบด้วยการผลิตและขายเสาอากาศและจานดาวเทียม ธุรกิจมือถือ และธุรกิจศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศที่ประเทศกัมพูชา คาดว่าปีนี้จะมีรายได้เพิ่มขึ้น 17%

ขณะเดียวกันกลุ่มสามารถก็มีแผนจะออกแคมเปญกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง แคมเปญแรกที่จะออกสู่ตลาดจากบริษัท สามารถ วิศวกรรม โดยจะออกเสาอากาศเวอร์ชันพิเศษ รุ่น 999 compete set ที่สามารถชมรายการโทรทัศน์ได้ถึง 9 ช่อง และได้รับรองการจัดสิทธิบัตรตามกฎหมายด้วย โดยจะมีการจัดรายการพิเศษตตั้งแต่ 10 พ.ค.-30 มิ.ย.นี้

นายธวัชชัยกล่าวถึงการเจรจาเพื่อร่วมดำเนินธุรกิจกับเอ็ม-ลิ้งค์ว่า ยังไม่ล้มเลิกการเจรจา แต่อยู่ระหว่างการหาพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่ไม่เกี่ยวกับธุรกิจโทรคมนาคมอีก 2 ราย เนื่องจากเป็นโครงการที่มีมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท และไม่ใช่ธุรกิจโทรคมนาคมเพรียวๆ แต่เป็นกึ่งโทรคมนาคม การเจรจากดังกล่าวคาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในสิ้นปีนี้