Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน19 เมษายน 2548
“มิสทิน”ชี้ขายตรงไตรมาสแรกเฉามวยรองซุ่มแผนเด็ดบุกครึ่งปีหลัง             
 


   
www resources

Avon (Thailand) Homepage
โฮมเพจ บริษัท เบทเตอร์เวย์ (มิสทิน) จำกัด

   
search resources

เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย), บจก.
ยูสตาร์ (ประเทศไทย)
เอวอน คอสเมติคส์ (ประเทศไทย)
Commercial and business




ตลาดรวมขายตรงชั้นเดียวในช่วงไตรมาสแรกไม่คึกคัก หลังไทยเจอปัจจัยลบรุมเร้า เหตุเจ้าตลาดรุกหนักรายเดียว ส่วนอันดับรองนิ่งเงียบ เผยมิสทินเดินหน้าไม่หยุด ยอดขายไตรมาสแรกโต 8% เตรียมลุยหนักขึ้นในไตรมาส 2 ด้านเอวอนก็ไม่น้อยหน้าเตรียมรุกบีโลว์ เดอะ ไลน์ ส่วนยู สตาร์ภายใต้ผู้บริหารคนใหม่เตรียมเดินหน้ารุกตลาดหนักขึ้น หวังแซงเอวอนขึ้นแท่นอันดับ 2

การแข่งขันของธุรกิจขายตรงชั้นเดียวในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ไม่คึกคักเหมือนทุกปีที่ผ่านมาที่แต่ละค่ายผู้นำตลาดอย่างมิสทิน เอวอน และยู สตาร์ต่างเดินเกมแลกหมัดกันอย่างดุเดือดแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน แต่ปีนี้ผ่านมาแค่ 3 เดือน การแข่งขันของตลาดขายตรงชั้นเดียวกลับไม่รุนแรงตามที่หลายคนคาดการณ์ไว้ หนึ่งในเหตุผลสำคัญเกิดจากการที่ไทยโดนมรสุมและปัจจัยลบรุมเร้า ทั้งราคาน้ำมันที่แพงขึ้นและเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในภาคใต้ หรือแม้กระทั่งภาพรวมของเศรษฐกิจในบ้านเรา เป็นต้น ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคในเวลานี้ชะลอตัวและดูนิ่งๆไป หากเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่มีกำลังซื้อสูงกว่า

การที่ตลาดขายตรงชั้นเดียวปีนี้ดูเงียบเหงาไป เหตุผลหนึ่งเป็นเพราะพระรองเบอร์2 และ 3 อย่างเอวอนและยู สตาร์ไม่เดินหน้ารุกตลาดเท่าที่ควร จึงไม่ทำให้ผู้นำตลาดอย่างมิสทินต้องหนักใจกับคู่แข่งและทางมิสทินเองก็เน้นแข่งขันกับตัวเองมากกว่า โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมาเอวอนและยู สตาร์ปล่อยให้มิสทินเดินเกมแต่ฝ่ายเดียว ด้วยการทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาท เปลี่ยนลุคของนางเอกสาวเบอร์ 1 แห่งวิกหมอชิต “กบ สุวนันท์ คงยิ่ง” ในบทบาทใหม่ในมาดนักร้องกับอัลบั้มแรก “วันฟ้าใส” พร้อมกับเปิดตัวผลิตภัณฑ์ป้องกันแดดซันสต๊อปรับลมร้อนเป็นครั้งแรก ซึ่งก็ไม่ทำให้มิสทินผิดหวัง เพราะหลังจากที่เปิดตัวไปได้ไม่นาน ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าโดยมียอดสั่งซื้อสินค้าสูงถึง 1 ล้านชิ้น

นายดนัย ดีโรจน์วงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอางขายตรง “มิสทิน” เปิดเผยกับ “ผู้จัดการรายวัน” ว่า ไตรมาสแรกที่ผ่านมายอดรายได้ของมิสทินโตขึ้น 8% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว จากการที่บริษัทฯ เปิดตัวสินค้าใหม่ 2 รายการในหมวดสกินแคร์ คือ ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดซันสต๊อปและชุดกระชับผิวหน้าและรอบดวงตา โดยมียอดสั่งซื้อชุดนี้ถึง 5-6 แสนชิ้น

สำหรับในช่วงไตรมาส 2 นี้ นายดนัย กล่าวด้วยว่า มิสทินเตรียมรุกตลาดหนักขึ้นกว่าช่วงไตรมาสแรก ด้วยการเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 2 รายการ ได้แก่ น้ำยาอนามัย สูตรน้ำนม จะออกช่วงหลังสงกรานต์นี้พร้อมด้วยภาพยนตร์โฆษณาที่ยังไม่ใช้ตัวพรีเซ็นเตอร์โปรโมท ขณะที่ต้นเดือนพฤษภาคม เตรียมออกแป้งหอมบำรุงผิว พร้อมด้วยภาพยนตร์โฆษณาที่มี “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” เป็นพรีเซ็นเตอร์

ทั้งนี้ พรีเซ็นเตอร์ของมิสทินปีนี้ยังคงเป็น 2 ดาราดังจากช่อง 7 คือ กบ สุวนันท์ คงยิ่ง ที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ในกลุ่มสกินแคร์ ส่วนอั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กลุ่มเพอร์ซัลแนล แคร์ ซึ่งการใช้พรีเซ็นเตอร์ในภาพยนตร์โฆษณานั้นเป็นแนวโน้มในการทำตลาดยุคนี้ที่บรรดาเจ้าของสินค้าหรือผู้ประกอบการต่างนิยมใช้ภาพยนตร์โฆษณาในการสื่อสารและแข่งขัน เพราะจะทำให้สินค้านั้นเป็นที่จดจำได้ง่าย ในส่วนของมิสทินเองพรีเซ็นเตอร์ก็เป็นเอกลักษณ์หนึ่งที่เหนือคู่แข่งอย่างเอวอนและยู สตาร์

ขณะที่งบทางการตลาดของมิสทินปีนี้ตั้งไว้สูงถึง 400 ล้านบาท ซึ่งมากขึ้นกว่าปีที่แล้วที่ใช้งบ 370 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10% ส่วนยอดรายได้คาดว่าจะโตขึ้น 13% จากการที่ออกสินค้าใหม่ๆอย่างต่อเนื่องและจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้น

เอวอนอัดกิจกรรมปีนี้หนัก

ด้านความเคลื่อนไหวของเอวอนเบอร์ 2 ในตลาดขายตรงชั้นเดียว ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาได้มีการปรับโฉมผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและภายใน เพื่อให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามกระแสแฟชั่น โดยช่วงไตรมาสแรกของปีเอวอนได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “เอวอน คัลเลอร์” 5 รายการ ได้แก่ ลิปสติก,พาวเดอร์,มาสคาร่า,บลัช ดูโอและอายเชโด้ และเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์อีก 9 รายการในกลุ่มคัลเลอร์

แหล่งข่าวจากบริษัทเอวอน คอสเมติคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ “ผู้จัดการรายวัน” ว่า ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาผลประกอบการของเอวอนโตเกินเป้าที่วางไว้ ขณะที่แผนการทำตลาดของเอวอนในปีนี้จะเน้นการทำกิจกรรมบีโลว์ เดอะ ไลน์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ส่วนพรีเซ็นเตอร์เอวอนจะใช้นักแสดงระดับโกลบอล “ซัลม่า ฮาเย็ค” ในการสื่อสารทางการตลาด ซึ่งสามารถใช้ได้ทุกประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วยที่ดาราอินเตอร์ในการสื่อโฆษณาผ่านทางนิยตสารและโบว์ชัวร์

ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าในระยะหลังเอวอนจะไม่ทุ่มงบโฆษณาผ่านสื่อทีวี เนื่องจากสื่อดังกล่าวใช้งบประมาณสูงและไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายหลักของเอวอนได้มากเท่ากับการโฆษณาผ่านนิตยสารต่างๆที่เกี่ยวกับผู้หญิงหรือสื่ออื่นๆ เป็นต้น และที่ผ่านมาเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วเอวอนเคยใช้พรีเซ็นเตอร์เป็นคนไทย คือ “แหม่ม คัทลียา แมคอินทอช” ในการสื่อผ่านภาพยนตร์โฆษณา รวมถึงยังมีมิสไทยแลนด์เวิลด์เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้เอวอนอีกด้วย

ยู สตาร์ยุคผลัดใบผู้บริหารใหม่

ด้านยู สตาร์ปีนี้กลับเงียบไม่ค่อยคึกคักเหมือนกับช่วงแรกๆที่เปิดตัว ที่มีการทุ่มงบประมาณจำนวนมากผ่านสื่อโฆษณาและการทำตลาด เพื่อสร้างแบรนด์ยู สตาร์ให้เป็นที่รู้จักแก่ผู้บริโภคคนไทย โดยได้มีการดึงสตาร์ดังจากแกรมมี่มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ไม่ขาดสาย อาทิ เบิร์ด ธงไชย,นัท มีเรีย , จินตรา พูนลาภ เป็นต้น

สำหรับความเคลื่อนไหวของยู สตาร์ขณะนี้ถือว่าน่าจับตามองมากเพราะกำลังอยู่ในช่วงผลัดใบหรือปรับเปลี่ยนผู้บริหารคนใหม่อยู่ โดยทาง “อากู๋ ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม” ได้ดึงตัว “ภัทรา ทรัพยะประภา” ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าวมาเป็นผู้กุมบังเหียนแบรนด์ยู สตาร์แทนนางฐิติมา โอภาสวงการ เมื่อวันที่ 1 เมษายนนี้เป็นต้นไปในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดบริษัท ยู สตาร์ (ประเทศไทย) จำกัด

ประเดิมงานแรกของผู้บริหารคนใหม่เริ่มต้นเมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มป้องกันแสงแดด “ยู สตาร์ โซลาร์ ชิลด์” 9 รายการ พร้อมทั้งได้จัดกิจกรรมโรดโชว์ที่หน้าสยามเซ็นเตอร์ในคอนเซ็ปต์ “ยู สตาร์ สวยท้ายูวี : อาบแดดกลางกรุง” โดยได้นำนักแสดงสาวฮอตแห่งปี “กระแต ศุภักษร ไชยมงคล” มาเป็นนางแบบท้าพิสูจน์ประสิทธิภาพของโลชั่นกันแดดของยู สตาร์ว่าได้สามารถทนแดดทนฝนได้ดีแค่ไหน โดยได้มีการแจกสินค้าทดลองกว่า 1 หมื่นชิ้นตามสำนักงานในเขตกรุงเทพฯ และได้ตั้งเป้ายอดขายสินค้าในกลุ่มนี้ไว้ที่ 200 ล้านบาท

ภายหลังจากนี้ยู สตาร์เตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่อีก 5-6 รายการในกลุ่มสกินแคร์ ผม และน้ำหอม ซึ่งในเดือนพฤษภาคมนี้คาดว่าจะเปิดตัวสินค้าที่เกี่ยวกับผม เช่น เซรั่มบำรุงผม โดยปัจจุบันยูสตาร์มีสินค้ากว่า 200 รายการใน 3 กลุ่ม

สำหรับผลประกอบการปี 2547 ที่ผ่านมายู สตาร์มียอดรวมกว่า 900 ล้านบาทและมีอัตราการเติบโต 100% โดยแบ่งเป็นกลุ่มสกินแคร์ 35% กลุ่มคอสเมติคส์หรือเครื่องสำอาง 35% และน้ำหอม 30% ปีนี้ตั้งเป้ายอดรายได้โตขึ้น 60% โดยปีนี้จะเน้นที่กลุ่มสกินแคร์ที่คาดว่าจะเพิ่มสัดส่วนอีก10% รวมเป็น 45% ขณะที่คอสเมติคส์ 35% และน้ำหอม 20%

ทั้งนี้ เป้าหมายหนึ่งของยู สตาร์ปีนี้คือ ต้องการล้มอันดับ 2 อย่างเอวอน ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะขณะนี้ส่วนแบ่งทางการตลาดของทั้งสองก็ใกล้เคียงกัน และทางเอวอนเองก็ไม่รุกตลาดอย่างหนักเหมือนมิสทิน ดังนั้นในปีนี้ยู สตาร์จึงตั้งเป้าเพิ่มยอดขายและสมาชิก ด้วยการขายแฟรนไชส์ยู ชอป , การฝึกอบรมพนักงานขายและเน้นการจัดกิจกรรมมากขึ้น เพื่อขึ้นแท่นอันดับ 2 ของธุรกิจขายตรงชั้นเดียว

เป็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างมากสำหรับพระรองอย่างเอวอนและยู สตาร์ว่าปีนี้จะมีไฮไลต์เด็ดอะไรบ้างที่มาแข่งกันในการรักษาหรือช่วงชิงตำแหน่งอันดับ 2 ของธุรกิจขายตรงชั้นเดียว หรือการที่พระรองจะทำอะไรให้เจ้าตลาดอย่างมิสทินต้องเหลียวหลังมาดูหรือตำแหน่งแชมป์ต้องสั่นสะเทือนก็เป็นที่ต้องติดตามกันต่อไป   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us