Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน19 เมษายน 2548
อสมท.ปรับผังสี่ทุ่มทำช่องท่องเที่ยวรูปแบบเรียลลิตี้             
 


   
www resources

โฮมเพจ อสมท.
โฮมเพจ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

   
search resources

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
Tourism
TV
อสมท, บมจ.




โครงการทัวร์ริสต์แชนแนลคืบหน้า อสมท.ยกช่วงไพร์มไทม์ให้สัปดาห์ละ 1 วัน พร้อมปรับผังรายการ แทรกรายการของททท.เข้าไป คาดเป็นรูปแบบเรียลลิตี้โชว์ เผยสงกรานต์ไทย เงินสะพัดกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท คนไทย-เทศแห่เที่ยวกว่า 4.5 ล้านคน

นายสุรพล เศวตเศรนี รองผู้ว่าการฝ่ายเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำทัวร์ริสต์แชนแนล ตามที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มอบนโยบายไว้ให้ว่า ล่าสุดได้ประชุมร่วมกับนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) สรุปเบื้องต้นว่า อสมท.จะจัดเวลาให้ในช่วงซูเปอร์ไพร์มไทม์ หรือประมาณ 22.00 น. ออกอากาศสัปดาห์ละ 1 วัน ใช้เวลาครั้งละ 1-2 ชั่วโมง ซึ่งรูปแบบรายการจะเป็นการผสมผสานเรียลลิตี้โชว์เข้าไปด้วย

วิธีดำเนินงาน อสมท จะไปดูเรื่องของการปรับผังรายการ เพื่อแทรกรายการของ ททท.เข้าไป และดูเรื่องการทำสัญญา กับคำนวณค่าใช้จ่ายในการทำรายการดังกล่าว สำหรับ ททท. จะไปพิจารณาปรับลดบางรายการที่มีอยู่ปัจจุบันที่คล้ายคลึงกันออกไป นอกจากนั้นททท.คงจะต้องจัดหาเอกชนมาเป็นผู้สนับสนุนรายการใหม่นี้ เพราะช่วง 4 ทุ่ม จัดเป็นช่วงไพร์มไทม์ที่ผู้ชมให้ความสนใจสูง

“รายการใหม่ที่จะเกิดขึ้นนี้ ททท.จะเป็นผู้กำกับดูแลเรื่องข้อมูลและแหล่งท่องเที่ยว แต่ในเรื่องของวิธีการนำเสนอคงต้องว่าจ้างให้เอกชนที่มีความชำนาญในการผลิตรายการแนวนี้เป็นผู้ผลิต ซึ่งหากทางช่อง9 สามารถทำได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดี ททท.ก็จะเป็นผู้ว่าจ้าง”

สำหรับในส่วนของการนำรายการสารคดีท่องเที่ยวในประเทศไทยไปออกอากาศในสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นคือ CCTV ของประเทศจีน , NHK ของประเทศญี่ปุ่น และ KBS ประเทศเกาหลี ซึ่งจะเป็นไปตามสัญญาแลกเปลี่ยนรายการที่ อสมท.ได้ทำไว้แล้ว ซึ่งททท.มีหน้าที่ซัปพอร์ตเรื่องของข้อมูล ส่วนการผลิตจะเป็นหน้าที่ของช่อง 9 สำหรับข้อมูลที่นำเสนอ จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวในไทยและวัฒนธรรมประเพณี อย่างไรก็ตามทั้งหมดที่กล่าวมาจะมีการประชุมเพื่อหาข้อสรุปอีกครั้งในสัปดาห์นี้

คนไทยแห่เที่ยวเชียงใหม่ครองแชมป์

นายสุรพลกล่าวถึงผลการจัดกิจกรรมมหาสงกรานต์ 11 จังหวัด ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาว่า เฉพาะช่วงวันที่ 9-15 เมษายน 48 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางประมาณ 4.5 ล้านคน แบ่งเป็น คนไทย 3.75 ล้านคน และต่างชาติ 7.5 แสนคน มีเงินสะพัดประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท สูงกว่าที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะมีเงินสะพัดที่ 2.5 หมื่นล้านบาท โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครมีเงินสะพัดถึง 1.8 หมื่นล้านบาท โดยตัวเลขนักท่องเที่ยวและจำนวนเงินสะพัด จะสรุปได้แน่นอนอีกครั้งหลังวันที่ 24 เม.ย. ซึ่งเป็นวันจัดงานสงกรานต์พระประแดง จ.สมุทรปราการ

สำหรับปีนี้ จังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวสูงสุดคือเชียงใหม่ โดยโรงแรมที่พักมีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 90-95% ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ขณะที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งเมื่อปีก่อนโรงแรมมีอัตราเข้าพักในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ 85% ปีนี้ลดมาอยู่ที่ 45-50% ขณะที่ อ.เบตง และสุไหงโกลก โรงแรมมีอัตราเข้าพักที่ 70-75% ส่วนจังหวัดอื่นๆ ที่มีการจัดงาน เช่น อยุธยา สุราษฎร์ นครศรีธรรมราช นครราชศรีมา ขอนแก่น หนองคาย นครพนม เป็นต้น โรงแรมมีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 70-80% การจัดงานมหาสงกรานต์ครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ และจะกระตุ้นเรื่องของโครงการเที่ยววันธรรมดาต่อไป ส่วนกิจกรรมใหญ่ๆ ที่จะจัด ก็จะมีเรื่องของแห่เทียนเข้าพรรษา จ.อุบลราชธานี และเทศกาลลอยกระทง

นายสุเทพ เกื้อสังข์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคใต้ เขต 1 เปิดเผยว่า การจัดงาน "หาดใหญ่มิดไนท์สงกรานต์ 2005"ระหว่างวันที่ 11-13 เม.ย.ที่ผ่านมาได้ผลเกินความคาดหมายโรงแรมที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหาดใหญ่ มีนักท่องเที่ยวเข้าพักกว่า 90% ยกเว้นโรงแรมที่มีตัวอาคารสูงซึ่งมีนักท่องเที่ยวเข้าพักไม่มากนัก เพราะยังผวากับเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ขณะนี้ ททท.ได้ปรับแผนการตลาดจากเดิมที่จะมีการจัดโรดโชว์ในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อดึงดูดให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาภายในเขตพื้นที่รับผิดชอบ เป็นการเชิญบริษัทนำเที่ยวจากประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ เข้ามาดูพื้นที่ในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ว่า มีความพร้อมรองรับธุรกิจการท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้าน

"หลังจากนี้เราจะมีกิจกรรมกระตุ้นธุรกิจการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องทั้งการประชุมสโมสรโรตารี่ประเทศไทยใน พ.ค.-มิ.ย.งานประชุมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย เป็นต้น ชูจุดขายเดิมให้โรงแรมลดค่าเซอร์ชาร์จเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ตามที่ผู้ว่าฯได้เสนอแนะเอาไว้และให้ใช้มาตรการนี้ตลอดทั้งปี ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามาตรการการลดค่าเซอร์ชาร์จของสมาคมโรงแรม อ.หาดใหญ่ สามารถจูงใจนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาใน อ.หาดใหญ่ได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะยังคงมีบางโรงแรมที่ไม่เห็นด้วยก็ตาม คาดว่าตลอดทั้งปีนี้การท่องเที่ยวใน จ.สงขลาจะเติบโตขึ้นจากปีที่แล้ว 3% และมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 3% เช่นเดียวกันคาดว่าจะมีรายได้ตลอดทั้งปีไม่ตำกว่า 14,000 ล้านบาท"

นางสุวลัย ปิ่นประดับ ผู้อำนวยการ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคใต้เขต 4 กล่าวสรุปถึงการท่องเที่ยวของภูเก็ตในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาว่า มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาภูเก็ตมากพอสมควร แต่ก็ไม่ดีเหมือนกับปีที่ผ่านมา โดยมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประมาณ 50% สร้างรายได้ให้กับจังหวัดภูเก็ตประมาณ 500 ล้านบาท

"นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ นักท่องเที่ยวกลุ่มคนไทยเดินทางเข้ามาเที่ยวน้อยมาก จากที่ไม่มั่นใจข่าวเรื่องสึนามิ การก่อเหตุร้ายในพื้นที่ภาคใต้ ข่าวลือเกี่ยวกับระเบิดในพื้นที่ภูเก็ต และเรื่องของน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นทำให้คนไทยชะลอการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวโดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทยที่เดินทางเข้ามาทางรถพบว่ามีจำนวนน้อยมาก”   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us