|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ทีโอทีเดินหน้าเข้าตลาดไตรมาส 4 ตามหลัง กสทที่คาด ว่าจะเข้าไตรมาส 3 ประธานบอร์ดทีโอ ทีย้ำเร่งสรุปแผนธุรกิจ พร้อมไม่แปร สัญญาเพื่อความชัดเจนในการประเมิน มูลค่าหุ้น เตรียมแผนสร้างแบรนด์หลังปรับภาพลักษณ์องค์กรใหม่
นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การนำทีโอที เข้าจดทะเบียนและกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คาดว่าจะเป็นช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ และไม่น่าจะมีการเลื่อนเวลาออกไปอีก โดยที่บอร์ดทีโอทีเร่งข้อสรุปปัจจัยในทุกๆ ด้านให้เกิดความชัดเจน และจะ แยกออกมาให้กลุ่มนักลงทุนเกิดความ เข้าใจและเห็นภาพที่ชัดเจนเป็นเรื่องๆ ไม่ว่าจะเป็นแผนธุรกิจในระยะเวลา 5 ปี รูปแบบการให้บริการ, การสร้างรายได้เพื่อส่งผลต่อการตีมูลค่าหุ้นให้สมบูรณ์และมีราคาที่เกิดแรงจูงใจต่อการซื้อขายกับนักลงทุน รวมถึงความชัดเจนในเรื่องการแปรสัญญา "ทีโอทีต้องทำให้นักลงทุนมีความเข้าใจธุรกิจทีโอทีให้มากที่สุด"
ส่วนผลกระทบด้านเศรษฐกิจไม่ว่าจะเป็นราคา น้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ปัญหาความไม่สงบและการก่อการร้ายในภาคใต้นั้น ทีโอทีไม่มีความกังวลแต่อย่างใด เพราะเชื่อว่าหุ้นของทีโอทีจะได้รับความสนใจและความเชื่อมั่นจากนักลงทุน โดยที่เป้าหมาย ของทีโอทีต้องการให้หุ้นกระจายอยู่ในมือประชาชนมากที่สุด หรือต้องการให้ทีโอทีเป็นบริษัทของประชาชน
สำหรับในเรื่องสัญญาร่วมการงานนั้น จุดยืนของทีโอทีคือการไม่แปรสัญญาที่มีอยู่กับเอกชนมากกว่า 20 สัญญา เนื่องจากจะทำให้สถานการณ์ของ ทีโอทีอยู่ในภาวะที่นิ่งที่สุด เพียงแต่ต้องมีข้อมูลเปิดเผยทั้งหมดถึงโอกาสในอนาคต ซึ่งอาจมีทั้งการเพิ่มหรือลดมูลค่า หากมีการเปลี่ยนแปลงซึ่งจะเป็นข้อมูล ที่ชัดเจนเพียงพอ สำหรับการประเมินการลงทุนของนักลงทุน
ในส่วนของโครงสร้างธุรกิจปัจจุบันของทีโอทีวางตำแหน่งเป็น Telecom Supermarket ที่มีสินค้าและบริการครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์พื้นฐาน, บริการด้านสื่อสารข้อมูล, บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ, บริการโทรศัพท์มือถือและบริการไร้สาย, ธุรกิจคอนเทนต์มัลติมีเดียที่อยู่ระหว่างดำเนินการร่วมทุนกับไซเบอร์แพลนเน็ต และ อิเมจิแม็กซ์
โดยที่ยุทธศาสตร์ของการเป็นเทเลคอม ซูเปอร์ มาร์เกตคือการให้บริการผ่านโครงข่าย 3 ระดับคือ
1. ในกรุงเทพฯ ปริมณฑลหรือหัวเมืองใหญ่ที่เป็นลักษณะชุมชน จะให้บริการผ่านโครงข่ายโทรศัพท์พื้นฐาน (Wire Line) ที่มีอยู่
2. ถ้าหากอยู่นอกเหนือข่ายสายที่วางไว้หรืออยู่ในพื้นที่ห่างไกล ก็จะให้บริการผ่านระบบไร้สายในลักษณะ Wireless Local Loop
3. หากห่างไกลมากขึ้นกว่านั้น ในพื้นที่ทุรกันดาร ป่าเขา หรือพื้นที่ปิดก็จะให้บริการผ่าน ระบบดาวเทียมซึ่ง ทศท มีแผนที่จะร่วมมือกับเอกชนที่มีศักยภาพในการให้บริการ เนื่องจากในอนาคตทศท ยังต้องคงบทบาทการเป็นผู้ให้บริการสาธารณะในพื้นที่ห่างไกลหรือ Universal Service Obligation
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเตรียมตัวเข้าตลาด หลักทรัพย์ทีโอทีได้ปรับภาพลักษณ์องค์กรโดยเฉพาะการเปลี่ยนชื่อจากบริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น มาเป็นทีโอที ซึ่งย่อมาจาก Telecom of Thailand (TOT) เพื่อให้เกิดความชัดเจนและสะดวกต่อการจดจำของนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ
ส่วนในด้านการตลาดนั้น ในชื่อของบริการต่างๆ ภายในเดือนหน้าคาดว่าจะได้ข้อสรุปว่าจะใช้ชื่อในลักษณะใดบ้าง โดยบอร์ดทีโอทีได้มอบหมายให้ฝ่ายบริหารวางแผนด้านการตลาดและการสร้างแบรนด์ ว่าต้องการงบประมาณมากน้อยแค่ไหน เพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มเป้าหมายต่างๆทั้งประชาชน ลูกค้า นักลงทุน ให้เกิดความเข้าใจและรับรู้แบรนด์และบริการต่างๆของทีโอทีมากขึ้น
สำหรับที่ปรึกษาการเงินนั้น ทีโอทีเลือกบริษัท ในประเทศ 2 รายและบริษัทต่างประเทศ 2 รายคือ บล.ภัทร และ บมจ.ไทยพาณิชย์, เครดิตสวิสเฟิร์ส บอสตัน และมอร์แกน แสตนเลย์
นายสถิตย์ กล่าวว่า ส่วนการควบรวมองค์กรระหว่าง บริษัท กสท โทรคมนาคม กับ ทีโอที ว่าขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลว่าจะรวมกันก่อนหรือหลังเข้าตลาดหลักทรัพย์รวมทั้งในกรณีที่ต่างฝ่ายต่างเข้าตลาดหลักทรัพย์ด้วย
ด้านนายวิทิต สัจจพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กสท โทรคมนาคม กล่าวถึงความพร้อมในการนำ กสท เข้ากระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ขณะนี้ในภาพรวมไม่มีปัญหา ทุกอย่างมีความชัดเจนและเป็นไปตามช่วงเวลาที่วางไว้คือประมาณไตรมาสที่ 3 ซึ่งขณะนี้ที่ปรึกษาทั้ง 3 ราย คือ บล.กิมเอ็ง บล.ฟินันซ่า และ ดอยช์แบงก์ เข้ามาประชุมเตรียมการ ร่วมกับ กสท ที่ได้เริ่มมีการจัดทำเตรียมข้อมูลในทุกๆด้าน แล้วอย่างการวางแผน การแบ่งสัดส่วนหุ้น การประเมินทรัพย์สิน เพื่อให้ทันตามแผนที่กำหนดไว้
สำหรับปัญหาที่ทุกฝ่ายกังวลและเกรงว่ามีผลต่อการเข้าตลาดหลักทรัพย์ ทั้งการแปรสัญญาร่วมการงาน รวมถึงการควบรวมกิจการกับทีโอทีนั้นจะไม่นำเข้ามาพิจารณาในการนำกสทเข้าตลาดหลักทรัพย์ โดยจะแยกในส่วนนี้ออกมาให้เห็นชัดเจนและถือว่าเป็นคนละเรื่องกัน โดยเฉพาะการควบรวมกับทีโอทีถือเป็นนโยบายของรัฐบาลถึงแม้จะได้มีการพูดคุยบางส่วนกับกระทรวงการคลังแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่เกิดความชัดเจนแต่อย่างใด
"แปรสัญญาต้องพักไว้ก่อน ถึงแม้จะมีคนคิดว่าจะนำมาใช้ประเมินมูลค่าทรัพย์สิน แต่เรื่องนี้เป็นคนละเรื่องกัน ซึ่งเราต้องทำให้นักลงทุนเกิดความเข้าใจ"
|
|
|
|
|