Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤศจิกายน 2537








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤศจิกายน 2537
ความสำคัญของโครงการโทรศัพท์ 1.1 ล้านเลขหมาย             

โดย ขุนทอง ลอเสรีวานิช
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน)
โฮมเพจ องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย

   
search resources

เทเลคอมเอเซีย, บมจ.
องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย-TOT
ทีทีแอนด์ที, บมจ.
กระทรวงคมนาคม
Telecommunications




ความคิดขององค์การโทรศัพท์ (ทศท.) และกระทรวงคมนาคม ในการผลักดันโครงการติดตั้งโทรศัพท์เพิ่มขึ้นอีก 1.1 ล้านเลขหมาย นอกเหนือจาก 3 ล้านเลขหมายที่อยู่ในระหว่างดำเนินการโดยบริษัทเทเลคอม เอเซียและบริษัทไทยเทเลโฟน แอนด์ เทเลคอมมิวนิเคชั่นหรือทีทีแอนด์ทีนั้น ก็เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 7 ที่คาดหวังว่า เมื่อสิ้นสุดแผนในปี 2539 ประชาชนไทยจะมีโทรศัพท์ใช้ในอัตราส่วน 10 คนต่อ 1 เลขหมาย

แนวทางการดำเนินการมีข้อขัดแย้งกันอยู่ระหว่างวิธีที่จะให้เทเลคอม เอเซียและทีทีแอนด์ ที่เจ้าของสัมปทานสามล้านเลขหมายพ่วงเอา 1.1 ล้านเลขหมายเข้าไปด้วย โดยทศท.ร่วมทุนกับสองรายนี้ตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมา

วิธีการที่สองคือ ทศท.ลงทุนเอง โดยตั้งบริษัทร่วมทุนกับหน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐบาล

วิธีการที่สามคือ การเปิดประมูลโดยเสรี ให้เอกชนรายใหม่เข้ามาติดตั้งเหมือนกับเทเลคอม เอเซียและทีทีแอนด์ที

สองแนวทางหลังนั้น มีปัญหาตรงที่ว่า ในสัญญาสัมปทาน 2 ล้านเลขหมายของเทเลคอม เอเซีย กับ 1ล้านเลขหมายของทีทีแอนด์ทีนั้น ทศท.จะให้สัมปทานกับเอกชนรายอื่น ๆ มาติดตั้งโทรศัพท์ใหม่ไม่ได้ จนกว่าจะถึงปี 2540 ซึ่งทั้งสองรายนี้ติดตั้งโทรศัพท์ 3 ล้านเลขหมายเสร็จเรียบร้อยแล้ว เว้นแต่จะแก้ไขสัญญา ซึ่งมีความเป็นไปได้น้อยมาก และถ้าเปิดประมูลใหม่โดยไม่สนใจเรื่องสัญญา ทศท.จะ เสี่ยงต่อการถูกฟ้อง

นอกจากนั้นแล้ว การเปิดประมูลใหม่จะใช้เวลานานไม่ทันการเพิ่มเลขหมายโทรศัพท์ให้เป็นไปตามแผน 7 แน่นอน

ดังนั้น จึงมีแนวโน้มว่า กระทรวงคมนาคมในสมัยของพันเอกวินัย สมพงษ์ จะเสนอวิธีแรก ซึ่งสามารถทำได้รวดเร็ว เพราะมีโครงข่ายสายโทรศัพท์พื้นฐานอยู่แล้วเพียงแต่เพิ่มตู้ชุมสายก็สามารถขยายหมายเลขได้ เนื่องจากสายเคเบิ้ล ใยแก้วของเทเลคอมเอเซียและทีทีแอนด์ที ยังมีช่องสัญญาณสำหรับโทรศัพท์ได้อีกหลายล้านเลขหมาย

แต่แล้วพลตรีจำลอง ศรีเมือง หัวหน้าพรรคพลังธรรมก็ขอให้คณะรัฐมนตรีระงับการพิจารณาโครงการนี้ไว้ก่อนรอให้รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมคนใหม่ตัดสินใจเอง

เหตุผลที่ว่า โครงการนี้เป็นโครงการใหญ่ ควรจะให้ผู้ที่มารับหน้าที่คนใหม่รับผิดชอบพอจะ ฟังขึ้น แต่ถ้ามองลึกลงไปถึงทิศทางธุรกิจโทรคมนาคมแล้ว มีนัยสำคัญที่ต้องวิเคราะห์กันให้ลึกซึ้ง

ผลประโยชน์ที่เห็นกันชัด ๆ สำหรับผู้ที่ได้เป็นเจ้าของสัมปทานใหม่ 1.1ล้านเลขหมายที่เห็นกันชัด ๆ คือรายได้จากค่าบริการ แต่สิ่งที่มีความหมายสำคัญที่สุดคือการได้สิทธิเป็นผู้บริหารเครือข่ายเคเบิ้ล ใยแก้วซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดที่สามารถสร้างธุรกิจการสื่อสารโทรคมนาคมได้อย่างมากมาย ที่เรียกกันว่า บริการเสริมอย่างที่เทเลคอม เอเซียกำลังเริ่มทำอยู่ในปัจจุบัน ทั้งวิดีโอเท็กซ์ และเคเบิ้ลทีวี

สื่อในการส่งสารที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยในปัจจุบันมีทั้งสายโทรศัพท์พื้นฐาน คลื่นวิทยุและ ดาวเทียม ซึ่งเป็นส่วนเสริมซึ่งกันและกัน แต่ก็มีขอบเขตและประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์ต่างกัน

คลื่นวิทยุใช้สำหรับโทรศัพท์ไร้สายเป็นส่วนใหญ่ดาวเทียมเหมาะสำหรับการส่งสัญญาณจาก ต้นทางจุดเดียวไปยังผู้รับหลาย ๆจุดพร้อมกัน ในบริเวณกว้าง ๆ และห่างไกล ในขณะที่โทรศัพท์มีข้อจำกัดในการเข้าถึงพื้นที่ได้ไม่ทั่วถึง แต่มีความได้เปรียบที่สื่อแบบอื่น ๆ ไม่มีคือควบคุมและกำหนด รูปแบบการสื่อสารได้ เพราะเป็นสื่อที่ใส่ "สมอง" คือระบบคอมพิวเตอร์ที่ศูนย์กลางหรือชุมสายได้ ซึ่งสามารถพัฒนาให้เกิดเป็นบริการใหม่ ๆ ได้มากมายกว่าคลื่นวิทยุ และดาวเทียม

ที่สำคัญการเป็นเจ้าของสื่อดาวเทียมปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยาก มีดาวเทียมมากมายหลายสิบดวงบนอวกาศที่มีเทคโนโลยีทัดเทียมกัน และเจ้าของพร้อมจะให้เช่าช่องสัญญาณ ส่วนเครือข่ายสายโทรศัพท์แบบเคเบิ้ล ใยแก้วในประเทศไทยมีอยู่เพียงสองราย

เจ้าของเครือข่ายเคเบิ้ล ใยแก้วสามารถหาช่องสัญญาณดาวเทียมได้ทั่วไป ส่วนเจ้าของดาวเทียมก็เช่าสายใยแก้วได้ไม่ยากนักเช่นกัน แต่จะใช้ประโยชน์ได้มากมายเพียงใด และช้าเร็วแค่ไหน อยู่ที่ "สมอง" ของเครือข่ายใยแก้ว ซึ่งผู้กำหนดคือ ผู้บริหารเครือข่ายไม่ใช่ผู้เช่า

นี่คือความสำคัญที่แท้จริงของโครงการ 1 ล้านเลขหมาย จนพลตรีจำลองต้องดึงเรื่องรอรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมชื่อวิชิต สุรพงษ์ชัย ที่มาจากพรรคเดียวกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศชื่อทักษิณ ชินวัตร เจ้าของธุรกิจสื่อสารที่มีสัมปทานคลื่นวิทยุ และดาวเทียมแล้วยังขาดอยู่แต่เครือข่ายโทรศัพท์บนพื้นดินเท่านั้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us