|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"วิเศษ" มั่นใจตรึงราคาดีเซลต่อได้อีก 6 เดือน หลังราคาตลาดโลกเริ่มลด แต่หากผันผวนอีกคงต้องกลับมาดูอีกครั้ง เลื่อนส่งแพกเกจส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนเข้าครม.วันนี้ ส่วนการใช้หนี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะออกบอนด์ล็อตแรก 2 หมื่นล้านบาท พร้อมสั่งสกัดเข้มป้องกันลักลอบส่งออกน้ำมัน ปตท.อั้นไม่ไหวขึ้นเบนซินตามเจ้าอื่นอีกลิตรละ 40 สตางค์ ผู้ประกอบการสุโขทัย-อุตรดิตถ์ประท้วงคลังจ่ายน้ำมันไม่เต็มโควตา
นายวิเศษ จูภิบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงความชัดเจนในเรื่องการปรับขึ้น ราคาน้ำมันดีเซลว่า ขณะนี้กระทรวง พลังงานได้ติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด โดยในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบและดีเซลในตลาดโลกได้ปรับตัวลง โดยตลาดดูไบน้ำมันดิบเคยสูงถึง 50 เหรียญสหรัฐ ก็อ่อนตัวลงมาอยู่ที่ 48 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทำให้กองทุนน้ำมันชดเชยราคาดีเซลน้อยลง ดังนั้น จึงยังไม่ได้มีการพิจารณาที่จะปรับขึ้นราคาดีเซล ภายในเดือนหน้านี้ โดยมั่นใจว่าจะ ตรึงราคาดีเซลต่อไปได้อีก 6 เดือนข้างหน้าเนื่องจากคาดว่าราคาน้ำมัน ในตลาดโลกจะอ่อนตัวลงมาแล้ว หากราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยที่ตลาดดูไบยังอยู่ที่ 50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ก็ยังไม่ต้องปรับขึ้นราคา ดีเซลอีก
"เรามองว่าการชดเชยดีเซลที่ลิตรละ 3 บาทนั้น ไม่เป็นภาระต่อกองทุนฯ มากนัก แต่ถ้าราคาน้ำมันขึ้นไปสูง ทำให้กองทุนน้ำมันต้องชดเชยมากขึ้น ก็จำเป็นที่จะต้องมีการปรับ เพื่อไม่ให้ชดเชยไปมากเกินไป ส่วนจะปรับขึ้นดีเซลเมื่อไร คงขึ้นอยู่กับสถานการณ์น้ำมัน ซึ่งเป็นเรื่องที่เดายาก" นายวิเศษกล่าว
"ปัจจุบันยอดการชดเชยราคาน้ำมัน ณ วันที่ 11 เม.ย. 2548 น้ำมันดีเซลชดเชยอยู่ที่ 4.06 บาท/ลิตร ลดลงจากวันที่ 9 เม.ย. 2548 ที่มีการชดเชยดีเซลอยู่ 4.29 บาท/ลิตร ทำให้กองทุนน้ำมันขณะนี้มีการชดเชยราคาน้ำมันไปแล้วถึง 80,910.25 ล้านบาท"
นายวิเศษกล่าวต่อว่า จะเลื่อนส่งแพกเกจการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนและประหยัดพลังงานเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ (12 เม.ย.) เนื่องจากยังมีประเด็นเกี่ยวกับภาษีที่จะส่งเสริมให้มีการใช้ก๊าซเอ็นจีวีเพิ่มมากขึ้น โดยต้องหารือกับกระทรวงการคลังว่าจะสามารถลดภาษีได้มากน้อยแค่ไหน เพื่อจูงใจให้มีการลงทุนและสนับสนุนการใช้เอ็นจีวี เช่น ลดภาษีอุปกรณ์ดัดแปลงที่ใช้เอ็นจีวี หรือส่งเสริมให้มีการผลิตรถที่ใช้เอ็นจีวี เป็นต้น คาดว่าจะนำเข้าสู่วาระที่ประชุมครม.ได้หลังสงกรานต์ไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม คงจะยังมีการรายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันให้ที่ประชุมรับทราบส่วนการออกบอนด์จำนวน 8.5 หมื่นล้านบาทเพื่อชดเชยหนี้กองทุนน้ำมันนั้น นายวิเศษกล่าวว่า วงเงินดังกล่าวจะเพียงพอโดยไม่ต้องเพิ่มวงเงิน หลังจากที่ชดเชยไปแล้ว 6 หมื่นกว่าล้าน ซึ่งการออกบอนด์นี้จะทยอยออกเป็นล็อตตามที่กองทุนฯเสนอมา
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานกล่าวว่า กระทรวงพลังงานจะนำเสนอครม.อนุมัติหลักการออกพันธบัตรวงเงิน 8.5 หมื่นล้านบาท ถึง 1 แสนล้านบาท เพื่อนำมาบริหารการชดเชย ราคาน้ำมันดีเซล หลังจากวงเงินกู้ 6.3 หมื่นล้านบาทเต็มวงเงินไม่สามารถกู้ได้เพิ่มอีกในช่วงพ.ค. โดยการออกบอนด์จะทยอยออกเป็นล็อต ซึ่งล็อตแรกจะออกประมาณ 2 หมื่นล้านบาทภายในเดือนเม.ย.นี้
"ที่ผ่านมาได้ทำการทยอยกู้ การออกบอนด์ จึงสามารถทำได้เป็นล็อตๆ ตามความเหมาะสมของความต้องการใช้เงิน โดยในเดือนมิ.ย.กำหนด คืนเงินกู้เพียง 3,000 ล้านบาท และบอนด์ ล็อตแรกจะเน้นขายให้กับสถาบันการเงิน แต่ประชาชนสนใจก็จะเปิดขายให้ โดยเชื่อว่าสถาบันการเงินในประเทศมีสภาพคล่องดีน่าจะสนใจและทำให้ดอกเบี้ยต่ำได้ เนื่องจากกองทุนฯ มีหลักค้ำประกันที่ดีตรงที่มีรายได้ที่จะจัดเก็บแน่นอน" แหล่งข่าวกล่าว
สั่งเฝ้าระวังลักลอบส่งออก
นายวิเศษกล่าวถึงการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรมศุลกากร กรมสรรพสามิต สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการป้องกันลักลอบส่งออกน้ำมันไปยังต่างประเทศตามที่นายกรัฐมนตรีได้แสดงความวิตกกังวลว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการหารือเบื้องต้น โดยได้เสนอให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลไม่ว่าจะเป็นตำรวจน้ำ กรมศุลกากรเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดอย่างพิเศษ รวมทั้งจะตรวจสอบข้อมูลการใช้น้ำมันในแต่ละจังหวัดว่ามีการเพิ่มขึ้นอย่างผิดสังเกตหรือไม่
พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง ผู้บังคับการตำรวจน้ำ กล่าวว่า จะเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจเรือประมงและเรือชายฝั่งที่ขนส่งสินค้า เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบขนน้ำมันดีเซลออกไปจำหน่ายให้ประเทศเพื่อนบ้าน เพราะน้ำมันเหล่านี้รัฐบาลชดเชยอยู่ถึงลิตรละ 4-5 บาท ซึ่งที่ผ่านมาตำรวจน้ำก็มีการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง มาตั้งแต่ปีที่แล้ว
ขณะที่นายสมชาย พูลสวัสดิ์ ผู้อำนวยการส่วนปราบปรามทางทะเล กล่าวว่า ไม่มีการลักลอบส่งออกน้ำมันออกนอกประเทศอย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมา กรมศุลกากรได้มีการติดตามสถานการณ์มาโดยตลอด แต่ก็ได้สั่งการไปยังนายด่านทุกด่านให้มีการเข้มงวดในเรื่องนี้ให้มากขึ้นแล้ว
สำหรับสถานการณ์ลักลอบน้ำมันออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านในขณะนี้ สถานการณ์ทางภาคเหนือ อีสาน ยังไม่มีผลการจับกุมการลักลอบแต่อย่างใด เพราะราคาของประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ลาว พม่า เวียดนามแพงกว่าประเทศไทยประมาณ 4-5 บาทต่อลิตร ถือว่าไม่คุ้มค่าในการลักลอบประกอบกับประเทศเหล่านี้มีการใช้รถยนต์น้อยกว่าไทยมาก ส่วนทางภาคใต้ได้มีการลักลอบไปซื้อน้ำมันจากประเทศมาเลเซียบ้าง เพราะมีราคาต่ำกว่าประเทศไทยประมาณ 6 บาทต่อลิตร แต่ส่วนมากเป็นรายย่อย ที่มีการดัดแปลงตัวถังน้ำมันรถเท่านั้น ซึ่งตรงนี้ทางกรมศุลกากรได้สั่งการให้มีการตรวจจับการดัดแปลงตัวถังดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
ปตท.สุดอั้นขึ้นเบนซิน 40 สต.วันนี้
นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจน้ำมัน บมจ.ปตท. กล่าวว่า ได้ตัดสินใจปรับขึ้นราคาน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ เหมือนกับผู้ค้าน้ำมันน้ำมันรายอื่นๆ ในอัตรา 40 สตางค์/ลิตร มีผลวันนี้ (12 เม.ย.) ซึ่งแม้ว่าราคาเบนซินสิงคโปร์จะลดลงบ้างก็เล็กน้อยเท่านั้น ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันรายอื่นๆ ได้ปรับขึ้นราคาน้ำมันเมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา ในขณะที่ ปตท.ไม่ได้ปรับขึ้น ส่งผลให้ยอดขายของ ปตท.ขยับขึ้น 20% จากปกติขายได้ประมาณกว่า 1 ล้านลิตรต่อวัน หนุนทยอยขยับดีเซล
นายเทียนไชย จงพีร์เพียร ที่ปรึกษาสำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า หลักการค่อยๆ ขยับเพดานดีเซลนั้น รัฐบาลชัดเจนแล้ว แต่คงจะอยู่ที่วิธีการขยับมากกว่าว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งจะต้องดูทิศทางหลายๆ ด้านอีกระยะหนึ่งก่อนตัดสินใจ เพื่อไม่ให้กระทบกับเศรษฐกิจภาพรวม ส่วนกรณีที่ระบุว่ามีการลักลอบนำน้ำมันไปขายชายแดนนั้น ที่ผ่านมาก็มีการทำปกติเช่นกัน ซึ่งหากจะปราบปรามจริงจังก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ทั้งหมดก็เกิดขึ้นเพราะไทยไปบิดเบือนโครงสร้างราคาในประเทศให้ต่ำเกินจริงนั่นเอง
ด้านนายมนูญ ศิริวรรณ รองกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากฯ กล่าวว่า กรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุว่าอาจจะมีการพิจารณาปรับเปลี่ยนราคาน้ำมันอีกใน 1 เดือนข้างหน้า ในส่วนตัวก็เห็นด้วย เพราะจะทำให้ลดการนำเข้าน้ำมัน ประชาชนมีการประหยัดมากยิ่ง อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาล หากปรับในอัตราสูงก็จะทำให้เศรษฐกิจช็อกอีกระลอกได้ เช่นกัน
โวยคลังน้ำมันขายไม่เต็มโควตา
นายสุรพล อังศิริจินดา เจ้าของปั๊มน้ำมันดาวเมภู จ.สุโขทัย แกนนำกลุ่มผู้ประท้วง กล่าวว่า ตัวแทนกลุ่มผู้ค้าน้ำมันจากสุโขทัยหลายปั๊ม เดินทางไปรับน้ำมันตามโควตาที่พิษณุโลก แต่ทางคลังน้ำมันบึงพระไม่ยอมจ่ายน้ำมันให้ตามโควตา อาทิ ตนต้องได้ตามโควตา จำนวน 3 หมื่นลิตรต่อวัน เพื่อจำหน่ายต่อกลุ่มปั๊มภายในกลุ่ม เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อส่งรถบรรทุกน้ำมันไปรับน้ำมันแล้ว แต่ทางคลังน้ำมัน ไม่ยอมให้เข้าไปรับน้ำมันภายในคลังตามโควตาที่ได้รับส่วนแบ่งมา รถน้ำมันต้องตีรถเปล่ากลับไปหลายครั้ง
เบื้องหลังทราบว่าทางคลังกลับนำน้ำมันไปจำหน่ายแก่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ไม่จำกัดจำนวนและนำน้ำมันชนิดต่างๆ ไปกักตุนไว้ในสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่งในเขตอ.พรหมพิราม โดยรับน้ำมันจากคลังไปแล้วร่วม 3 แสนลิตร ซึ่งทางคลังน้ำมันคงจำหน่ายให้ในราคาที่ถูกกว่าปกติถึงลิตรละ 6 สตางค์
ทั้งนี้ ได้พยายามเข้าไปเจรจากับทางผู้บริหารคลังน้ำมันแห่งนี้แล้วหลายครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล หากยังเป็นเช่นนี้อีก ตนและผู้ค้าน้ำมันใน จ.สุโขทัย และ จ.อุตรดิตถ์ จะนำรถบรรทุกน้ำมันไปปิดทางเข้า-ออกคลังน้ำมันเพื่อประท้วงขอความเป็นธรรมต่อไป
ด้านผู้ค้าน้ำมันรายหนึ่งใน จ.พิษณุโลก กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางคลังน้ำมันจำกัดการจำหน่าย น้ำมันแก่ปั๊มน้ำมันทุกแห่ง ปัญหาเกิดขึ้นเป็นเพราะคลังได้นำน้ำมันส่วนหนึ่งออกไปจำหน่ายให้กับผู้ค้ารายย่อยที่ไม่ได้เป็นเอเยนต์หรือเป็นคู่สัญญา ส่งผลให้โควตาของผู้ค้ารายใหญ่ต้องถูกตัดทอนลงไป และช่วงใกล้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ จำนวนผู้ใช้น้ำมันได้เพิ่มจำนวนสูงขึ้น จึงทำให้น้ำมันที่จำหน่ายนั้นมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ ของผู้ใช้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้บริหารคลังน้ำมันได้ส่งตัวแทนออกไปชี้แจงและเจรจาหารือกับทางกลุ่มผู้ประท้วง โดยระบุว่าทางคลังน้ำมันมีน้ำมันอยู่อย่างเพียงพอ ไม่ได้มีการเก็บหรือกักตุนแต่อย่างใด โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์มีน้ำมันสำรองไว้แล้ว ส่วนทางกลุ่มผู้ประท้วงทางคลังน้ำมันได้เปิดให้รถบรรทุกเข้าไปรับน้ำมันตามโควตาได้ ทำให้ต่างพากันแยกย้ายเดินทาง กลับ
|
|
|
|
|