|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
สุขภัณฑ์ "สตาร์" ทุ่มงบ 100 ล้านบาท เพิ่มกำลังการผลิตเป็น 1.25 ล้านชิ้น ในปี 49 หลังผลิตสินค้าไม่ทันยอดสั่งซื้อ เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่กว่า 30 รุ่นเน้นงานดีไซน์ พร้อมเพิ่ม ตัวแทนจำหน่ายหวังเพิ่มยอดขายในประเทศ
ดร.สมชัย ว่องอรุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์ ซานิทารี่แวร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสุขภัณฑ์ยี่ห้อ "สตาร์" เปิดเผยว่า ในปี 2549 บริษัทมีแผนที่จะขยายกำลังการผลิต จากปัจจุบันปีละ 1 ล้านชิ้น เพิ่มขึ้นอีก 25% หรือจำนวน 1.25 ล้านชิ้น โดยใช้งบลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังผลิตในพื้นที่ของโรงงานเดิม ที่จังหวัดสระบุรี บนเนื้อที่ 40 ไร่ โดยเงินลงทุนส่วนใหญ่เป็นการซื้อเครื่องจักร
ส่วนสาเหตุการขยายกำลังการผลิตดังกล่าว เนื่องจากกำลังการผลิตในปัจจุบันไม่เพียงพอต่อความ ต้องการที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภายในประเทศ ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโดยเฉพาะธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งในปัจจุบันสินค้าของบริษัทส่งออก 80% ในกลุ่มยุโรป สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น บรูไน และฟิลิปปินส์ ฯลฯ ที่เหลือ 20% จำหน่ายภายในประเทศ ทั้งนี้ภายหลังจากเพิ่มกำลังการผลิตแล้วจะทำให้สัดส่วนการขายภายในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 30% และส่งออก 70%
"การที่บริษัทเพิ่มสัดส่วนการขายภายในประเทศ เพิ่มขึ้นไม่ใช่ยอดส่งออกลดลง แต่ยอดส่งออกยังคงต่อเนื่อง แต่การเพิ่มกำลังผลิตในปีหน้าจะเป็นการ ซัปพอร์ตตลาดภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาเราผลิตไม่ทันขายภายในประเทศ ส่วนต่างประเทศนั้นจะสั่งสินค้าล่วงหน้าประมาณ 3-6 เดือน ทำให้เราสามารถล็อกการผลิตและรู้ยอดขายล่วงหน้า" ดร.สมชัยกล่าว
อย่างไรก็ตาม สินค้าของบริษัทที่ทำตลาดภายในประเทศส่วนใหญ่จะจับตลาดระดับกลาง เป็นงานโครงการหรืองานทางภาครัฐ เนื่องจากสินค้าที่จะประมูลงานได้จะต้องผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) นอกจากนี้เมื่อเทียบกับสินค้าคุณภาพเดียวกันแล้วจะมีราคาถูกกว่า
ดร.สมชัยกล่าวว่า ภายหลังจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ทำให้บริษัทได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้าง การขายใหม่ จากเดิมขายในประเทศกว่า 80% และมียอดส่งออกเพียง 20% เท่านั้น โดยบริษัทได้หันไป ทำตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนมีอยู่ที่ระดับ 80% ในปัจจุบัน เนื่องจากตลาดในประเทศขณะนั้นตกต่ำลงอย่างมากและมีการแข่งขันสูง การที่สินค้ามีคุณภาพสูงและส่งออกไปขายต่างประเทศจะทำให้มูลค่าเพิ่มมากขึ้น ทำให้บริษัทเน้นที่ตลาดต่าง ประเทศแทน
ในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าเพิ่มตัวแทนจำหน่าย เพื่อขยายฐานลูกค้าจากภายในประเทศให้มากขึ้น จากปัจจุบันที่มีตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศประมาณ 200 ราย ในส่วนของยอดขายในปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากปี 2547 ที่มียอดขาย 300 ล้านบาท
ในปีนี้บริษัทจะออกสินค้าที่เน้นงานดีไซน์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 20-30 รุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภค และถือเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าของบริษัท โดยเฉพาะสุขภัณฑ์ห้องน้ำ เพราะการเน้นดีไซน์ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าของสินค้าอีกอย่าง แต่อย่างไรก็ตามสุขภัณฑ์ถือเป็นผลิตภัณฑ์ ที่ต้องใช้ระบบ อาทิ การไหลเวียนของน้ำ ระบบปิดเปิด ซึ่งงานที่ต้องอาศัยระบบการออกแบบจะต้องมีความสัมพันธ์กัน ทำให้ไม่สามารถออกแบบมากไม่ได้
สำหรับการทำตลาดปีนี้บริษัทได้ตั้งงบการตลาด ไว้ที่ 10 ล้านบาท พร้อมเตรียมออกบูทในงานสถาปนิก สยาม 48 ในวันที่ 4-8 พฤษภาคม 2548 โดยบริษัทมีพื้นที่แสดงสินค้าทั้งหมด 200 ตร.ม. บรรยากาศภายในบูทจะใช้ธีมแบบไทยๆ มีการบรรเลงดนตรีไทยให้ผู้เข้าร่วมงานได้ชมแบบสดๆ ซึ่งเป็นการแสดง ให้เห็นว่าสตาร์หนึ่งในสุขภัณฑ์ เพียงไม่กี่ยี่ห้อที่เป็นของคนไทย
สำหรับตลาดสุขภัณฑ์ภายในประเทศนั้นปัจจุบันมีกำลังการผลิตประมาณ 12-13 ล้านชิ้น ส่งออก 50:50 โดยแบ่งเป็นกลุ่มสินค้าภายใต้แบรนด์ โคห์เลอร์ 6 ล้านชิ้น, คอตโต้ 3.5 ล้านชิ้น, อเมริกัน สแดนต์ดาร์ด 2 ล้านชิ้น, สตาร์ 1 ล้านชิ้นและที่เหลือ เป็นแบรนด์อื่นๆ
|
|
|
|
|