Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มีนาคม 2537








 
นิตยสารผู้จัดการ มีนาคม 2537
หลุยส์ วิตตอง ซื้อลูกเดียว             
 


   
search resources

Moet Hennessy - Louis Vuitton LVMH
Apparel and Accessories




เบอร์นาร์ด อาโนลด์ ประธานบริษัทแอลวีเอ็มเอช โมเอต์ เฮนเนสซี่ หลุยส์ วิตตองเปิดเผยว่า ได้เตรียมเงินก้อนใหญ่ถึง 1,900 ล้านดอลลาร์ สำหรับการเพิ่มประเภทสินค้าหรูหราผลิตภัณฑ์ฟุ่มเฟือยอย่างน้ำหอม กระเป๋า และเครื่องสำอางให้มากขึ้น เพื่อสร้างรายได้เพิ่มให้กับบริษัท

ที่ต้องใช้เงินทุนมหาศาลเพื่อการเพิ่มสินค้าก็เพราะว่า กลยุทธ์ของหลุยส์ วิตตองในการนี้คือ การซื้อกิจการบริษัทอื่น ๆ ที่อยู่ในธุรกิจประเภทเดียวกันและเป้าหมายใหญ่ที่สำคัญของบริษัทในตอนนี้ก็คือ ลอรีอัล บริษัทเครื่องสำอางชั้นนำของฝรั่งเศส

ลอรีอัลเป็นองค์การที่ใหญ่กว่าแอลวีเอ็มเอชเท่าตัว และมียอดขายเท่ากับปีละ 6,000 ล้านดอลลาร์ แต่ประธานบริษัทวัย 44 ปีผู้นี้ ก็ไม่เคยย่อท้อ หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนโฉมแอลวีเอ็มเอชจากบริษัทสิ่งทอเล็ก ๆ มาเป็นบริษัทสินค้าฟุ่มเฟือยชั้นนำของโลก ส่วนเงินที่จะนำมาใช้ซื้อลอรีอัลก็มาจากการแลกหุ้นกันระหว่างบริษัทกับกินเนสส์ บริษัทเบียร์ยักษ์ใหญ่ของโลกในอังกฤษโดยกินเนสส์ได้เทขายหุ้น 24% ในแอลวีเอ็มเอชเพื่อมาซื้อหุ้น 34% ในโมเอต์ เฮนเนสซี่ บริษัทเชมเปญและคอนญัคของแอลวีเอ็มเอช

มีแนวโน้มมากเช่นกันว่าลอรีอัลอาจจะถูกเข้าซื้อได้เป็นผลสำเร็จ ความจริงอาโนลด์เคยบอกอยู่เสมอว่า เขาพยายามหลีกเลี่ยงการเข้าซื้อบริษัทที่มีการจำหน่ายสินค้าเฉพาะอย่างแบบเทขายเป็นจำนวนมาก แต่ทว่าตอนหลังอาโนลด์กลับกล่าวว่า “บริษัทแบบไหนก็ซื้อได้ถ้ามีความมั่นคงพอ”

ถ้าแผนการเข้าซื้อหุ้นลอรีอัลของอาโนลด์ล้มเหลว เขาก็ยังมีแผนเข้าซื้อซาโนฟี่ บริษัทผลิตยาของฝรั่งเศส ที่เป็นกิจการเอลฟ์ อาควิแต็ง บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศสเช่นเดียวกัน เนื่องจากในปีที่ผ่านมา ซาโนฟี่ได้เข้าซื้ออีฟ แซ็งลอแล็งต์ บริษัทเสื้อผ้าและน้ำหอมชั้นนำท่ามกลางคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักซึ่งถ้าแอลวีเอ็มเอชเข้าซื้อหุ้นในซาฟีโนจริงก็คงจะเก็บกิจการของซาโนฟีไว้เฉพาะส่วนน้ำหอมและเครื่องสำอางเท่านั้น ส่วนกิจการที่เหลือก็คงจะขายทอดตลาดแน่นอน

ในขณะที่แผนของราชาสินค้าหรูอย่างอาโนลด์กำลังเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา นักวิเคราะห์หลายรายกลับมองว่า การที่กินเนสส์ยอมขายหุ้นของแอลวีเอ็มเอชนั้นเท่ากับเปิดทางให้อาโนลด์มีโอกาสกุมอำนาจการบริหารในบริษัทมากขึ้น ซึ่งถ้าปราศจากการทัดทานของกินเนสส์เสียแล้วนักการตลาดเกรงว่า เขาอาจจะกว้านซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า เพราะก่อนหน้านี้กินเนสส์เคยตั้งคำถามอาโนลด์ในเรื่องที่เขาไปซื้อกิจการสำนักพิมพ์ฝรั่งเศส 2 แห่งในปีที่ผ่านมา ซึ่งเขาก็ให้เหตุผลว่า ซื้อไว้เพื่อไม่ให้ตกเป็นของบริษัทต่างชาติ

ความอ่อนไหวของตลาดสินค้าฟุ่มเฟือยสร้างความประหลาดในแก่อาโนลด์อย่างมาก หลังจากที่ข่าวการกว้านซื้อกิจการของเขาถูกปล่อยออกไป ส่วนต่างกำไรของสินค้ากระเป๋าและน้ำหอมของบริษัทก็เพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า เมื่อเทียบกับบรั่นดี อาโนลด์กล่าวว่า การที่บริษัทเริ่มถอนตัวออกจากสินค้าประเภทสุรา จะทำให้ผลกำไรที่ตกต่ำลงของแอลวีเอ็มเอชกลับกระเตื้องขึ้น และไม่ว่าจะมากหรือน้อย อาโนลด์ก็จะยังเดินหน้าแผนการซื้อกิจการของเขาต่อไป   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us