การบินไทยเปิดตัวแอร์บัส 340-500 พร้อมโลโก้ และเครื่องแบบพนักงานใหม่ เตรียมลงทุนอีกประมาณ 14,000 ล้านบาท ปรับเครื่องบิน อีก 24 ลำใน 2 ปี ตามแผนเอกลักษณ์ใหม่"กนก"หวังสร้างความประทับผู้โดยสาร สร้างรายได้โตแบบก้าวกระโดด ฟุ้งเป้ารายได้ ปี 48 ถึง 160,000 ล้านบาท เผยสึนามิกระทบเล็กน้อย ชี้น้ำมันแพงกระทบแต่ต้องบริหารความเสี่ยงและประเมินอย่างรอบคอบ
นายกนก อภิรดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังเปิดตัวเอกลักษณ์ใหม่ของการบินไทยเพื่อความเป็นหนึ่งในเอเชีย ที่มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน วานนี้ (7 เม.ย.) ว่า การบินไทยอยู่ในธุรกิจภาคบริการจึงต้องปรับปรุงเพื่อสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าเพื่อนำไปสู่ความประทับใจ การปรับเปลี่ยนเอกลักษณ์ใหม่ จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างความประทับใจและหวังว่าจะนำไปสู่การมีรายได้เพิ่มแบบก้าวกระโดดในอนาคต โดยในปี 2548 นี้รายได้ของการบินไทยยังเป็นไปตามเป้าหมายคือประมาณ 150,000- 160,000 ล้านบาทและคาดว่าภายใน2-3 ปีรายได้รวมจะถึง 200,000 ล้านบาทต่อปี แม้จะประสบกับปัญหาคลื่นสึนามิและความไม่สงบใน3 จังหวัดภาคใต้อยู่บ้างแต่ก็กระทบรายได้เพียงเล็กน้อยในขณะเดียวกัน การบินไทยได้จะเปิดเส้นทางบินเพิ่มเช่น โจฮันเนสเบิรก์ มอสโก และการทำตลาดเชิงรุก มีแพคเกจใหม่ๆ เป็นต้น
"ครึ่งปี 2548 ผลประกอบการและรายได้อยู่ในระดับที่น่าพอใจเป็นไปตามเป้าหมาย ส่วนผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นนั้น เป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่งซึ่งมีการติดตามอยู่ตลอดเวลาโดยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาบริษัทได้ซื้อน้ำมันล่วงหน้า หรือ เฮจจิ้งไปประมาณ 36%แล้ว"
สำหรับการปรับภาพลักษณ์ใหม่นั้น บริษัทได้ว่าจ้าง บริษัท อินเตอร์แบรนด์ วงเงิน 100 ล้านบาท เป็นที่ปรึกษา โดยมีการเปลี่ยนโลโก้ให้มีมุมมอง 3 มิติ พ่นลำตัวเครื่องบินด้วยสีไมก้า เปลี่ยนเครื่องแบบพนักงานใหม่ ส่วนบนเครื่องบินมีการปรับเปลี่ยนที่นั่งในชั้น รอยัล ซิลค์ ให้ปรับเอนได้ 170 องศา ชั้น พรีเมี่ยม อีโคโนมี ที่นั่งสบายขึ้น ส่วนชั้นประหยัด ตกแต่งใหม่ ให้มีความทันสมัยและเพิ่มระบบการให้ความบันเทิงต่างๆ มากขึ้น ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่อาจจะต้องปรับเพิ่มค่าโดยสาร ซึ่งผู้โดยสารยินดีที่จะจ่ายเพิ่มหากบริการที่ได้รับดีพอ
นายกนกกล่าวว่า เครื่องบินใหม่ที่การบินไทยจะได้รับมอบในปี 2548 นี้ จำนวน 8 ลำจะเป็นไปตามแนวคิดเอกลักษณ์ใหม่ทั้งหมด โดยวานนี้ (7 เม.ย.) บริษัทได้รับมอบเครื่องบินแอร์บัส 340-500 ลำแรกเรียบร้อยแล้วซึ่งจะใช้บินตรงในเส้นทางกรุงเทพฯ-นิวยอร์คในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป ส่วนเครื่องบินในฝูงบินปัจจุบันจำนวน 83 ลำ จะทยอยปรับปรุง โดยในช่วง 2 ปีแรกจะเร่งปรับปรุงก่อน 23-24 ลำ สำหรับเครื่องบินโบอิ้ง 747-400 และ777-200 ซึ่งบินในเส้นทางยุโรป วงเงินดำเนินการปรับปรุงรวมประมาณ 13,000-14,000 ล้านบาท โดยคาดว่า เมื่อเปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ผู้โดยสารจะได้สัมผัสเอกลักษณใหม่ของการบินไทยมากขึ้น ทั้งเคาเตอร์ต่างๆ และห้องรับรอง
สำหรับกรณี ที่อัยการสูงสุดพิจารณาว่า การที่บริษัทมีแผนจะจัดหาแรงงานภายนอก หรือ Outsource พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินมีความเสี่ยงมีปัญหาทางกฎหมายแรงงานนั้นนายกนกกล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดเรื่องนี้ ซึ่งเรื่อง Outsource พนักงานต้อนรับบนเครื่อง จะต้องพิจารณาในคณะกรรมการกิจการสัมพันธ์อีก
|