|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ พฤศจิกายน 2535
|
|
“....ท่านสุภาพบุรุษ ท่านสุภาพสตรี และเพื่อนอเมริกาที่รัก
ณ เวลานี้อเมริกากำลังตกอยู่ท่ามกลางมรสุมของความตกต่ำทางเศรษฐกิจโรงงานเครื่องจักร ถูกปล่อยให้รกร้างมีแต่หยากไย่และฝุ่น พ่อแม่ของเด็กของเราไม่มีงานทำ หน้าหนาวที่จะถึงนี้ เรายัง ไม่แน่ใจเลยว่าเครื่องฮีตเตอร์ตามบ้านยังจะให้ความอบอุ่นอยู่อีกหรือไม่ อเมริกาต้องการความเปลี่ยนแปลง อเมริกาต้องการคนหนุ่ม ผู้ยังมีไฟฝันคุโชนมาทำงาน
เขาผู้นี้หาใช่ใครอื่น...ผู้ว่าการรัฐ Arkansas
Bill Clinton
เสียงของมาริโอ คูโม่ สมาชิกอาวุโสของพรรค Democrat ผู้ว่าการรัฐ New York กล่าวเปิดตัวต้อนรับ Bill ในช่วงการประชุมสมาชิก Democrat ทั่วประเทศ ณ กรุงนิวยอร์ก
มาริโอ คูโม่ เป็นผู้ว่าการรัฐ New York ที่มีคะแนนนิยมสูงคนหนึ่ง เขาเคยถูกเสนอชื่อให้เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของอเมริกาเหมือนกัน แต่แล้วเขาก็เปิดทางให้กับคนหนุ่มกว่าอย่าง Bill
ในบรรดา Candidate ที่ถูกเสนอชื่อเข้ามาแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของอเมริกา ไม่ว่าจะเป็น บูคานันท์, เจอรี่บาวร์ หรือเพอร์โร นักสังเกตการณ์ทางการเมืองของอเมริกา พูดถึงบุคลิกโหงวเฮ้งของบุคคลเหล่านี้เอาไว้ว่า “บุคลิกโหงวเฮ้งของคนเหล่านี้ ไม่มีใครดูเหมาะสมเท่า Bill แต่คนเหล่านี้ดูจะแก่ ๆ คล้ายคนป่วย เกรงว่าจะพาอเมริกาไปไม่รอด
จึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจที่คนหนุ่มวัย 45 อย่าง Bill จึงได้คะแนนนิยมสูงสุดนำบุชไปหลายเท่าตัว Bill ได้คะแนนนิยมสูงขึ้นเรื่อย ๆ นับตั้งแต่รณรงค์หาเสียงทางการเมือง ประจวบกับการหาเสียงของ Bill จะเน้นที่ภาพพจน์ ความอบอุ่นของครอบครัว Bill ไปหาเสียงที่รัฐไหน จะมีภรรยาและลูกสาวคอยช่วยเหลืออยู่ทุกครั้งทุกคราว
ในช่วงรณรงค์หาเสียง เป็นธรรมดาของผู้นำที่เข้าสู่การชิงตำแหน่งประธานาธิบดีมักจะมีการ โจมตีป้ายสีกัน Bill เป็นคนหนุ่มไฟฝันในดวงตายังมีประกาย การสาดโคลนจากฝ่ายตรงกันข้ามจึงหนี ไม่พ้น “ศีลธรรมเรื่องผู้หญิง” และแล้ว Bill ก็ตอบคำถามและความแคลงใจของสื่อมวลชนไปได้ Bill ถามสื่อมวลชนกลับไปว่า “ทำไมจะต้องตกไปหลงเชื่อวิธีการสาดโคลนแบบนั้น ผมรักครอบครัวของผมและผมก็รักศรัทธาในภรรยาของผม ผมไม่หวั่นไหวต่อวิธีการหยาบ ๆ อย่างนั้น”
สุภาพสตรีหมายเลยหนึ่งของ Bill ไม่ใช่คนธรรมดาเสียแล้ว Hillary Clinton รู้จักกับ Bill ตั้งแต่สมัยเรียนหนังสืออยู่ในมหาวิทยาลัย Yale เธอเป็นคนรักของ Bill มาตั้งแต่จบจากมหาวิทยาลัย
Hillary เป็นทนายความหญิงที่มีชื่อติดอยู่ในชั้นแนวหน้าของอเมริกา เธอทำงานสังคมสงเคราะห์ช่วยเหลือเยาวชนของอเมริกา Hillary เรียกร้องสิทธิสตรีให้กับสตรีอเมริกามาตลอด บุคลิกของ Hillary จึงไม่ใช่ภรรยาแม่บ้านของอเมริกาธรรมดาเสียแล้ว เธอทำงานช่วยเหลือ Bill มาตลอดในมลรัฐ Arkansas
จากบทสัมภาษณ์ของ Hillary Clinton ในหนังสือพิมพ์อเมริกาฉบับหนึ่ง ซึ่งบ่งบอกถึงความไม่ธรรมดา Hillary พูดถึงสภาพปัญหาของอเมริกาเอาไว้ว่า
“...คุณจะทนได้หรือ ? เมื่อเราถามเด็กในโรงเรียนว่า มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นบ้างในชีวิตของเขา เด็ก ๆ ตอบฉันว่าพ่อและแม่ไม่มีงานทำ เพื่อน ๆ ในโรงเรียนติดยาเสพติด การที่ฉันต้องทำงานในภาระหน้าที่แบบนี้ ไม่ใช่เพราะต้องแบกรับอุดมการณ์หรือศีลธรรมอะไรหรอก! แต่เราเชื่อมั่นว่าแผ่นดินอเมริกายังมีความหวัง เราจะสร้างบ้าน สร้างสังคมนี้ให้น่าอยู่ขึ้น” นี่คือความรู้สึกของ Hillary Clinton ผู้ที่นับจากนี้ไปอีกไม่กี่วันเธอก็จะกลายเป็นสุภาพสตรีที่โลกต้องรู้จัก
Bill มาจากครอบครัวชนชั้นกลางในรัฐ Arkansas พ่อของ Bill เสียชีวิตตั้งแต่เขายังมิได้ลืมตาดูโลก Bill จึงใช้นามสกุลของพ่อคนที่สอง เขาเองเริ่มเรียนหนังสือในวัยเด็กที่รัฐ Arkansas
Bill จบการศึกษาด้านกฎหมายจาก Yale University เขาเริ่มทำงานทางการเมืองในมลรัฐบ้านเกิด เมื่ออายุ 27 ปี ภายหลังจากจบมหาวิทยาลัย
ความคิด, ความหวัง และความใฝ่ฝันของคนอย่าง Bill เป็นเช่นไร เขาคิดเขาเชื่อมั่นอย่างไร ต่ออนาคตของอเมริกา ล้วนเป็นสิ่งที่คนอยากรู้ จากสุนทรพจน์ของ Bill ณ การประชุมใหญ่ของพรรค Democrat ที่ New Yorkเราก็จะได้รู้จัก Bill Clinton จากริมฝีปากของเขาเองว่าเขาคิด เขาหวังอย่างไร ต่อบ้านเกิดเมืองนอนของเขา
เสียงปรบมือดังกึกก้องทั้งห้องประชุมที่บรรจุคนเรือนแสน
...ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณสำหรับความอบอุ่นที่มีให้กับผมและครอบครัว
ผมต้องการพูดถึงความคิด ความฝันของผมต่ออนาคตของอเมริกา ผมยังเชื่อมั่นว่า ประชาชนของอเมริกาจะสร้างบูรณะซ่อมแซมประเทศอเมริกาได้อีกครั้งหนึ่ง เราพบเห็นแล้วมิใช่หรือว่า ในช่วงประวัติศาสตร์สลายก็ด้วยความเชื่อมั่นและศรัทธาของเราในเสรีภาพประชาธิปไตยสิทธิของปัจเจกชน และการค้าเสรี ก็เพราะศรัทธาในสิ่งเหล่านี้กระจายไปทั่วภูมิภาคของโลก เราได้ชัยชนะในสงครามเย็น แต่อเมริกากลับสูญเสียโอกาสการต่อสู้ทางเศรษฐกิจ เราสูญเสียโอกาสทางการศึกษาของเยาวชน และ เรายังสูญเสียความยุติธรรมของผู้คนในบ้านของเรา
ปัจจุบันนี้เราบอกตัวเองว่า เรามีส่วนในการแก้ปัญหาในเหตุการณ์ต่าง ๆ บนภูมิภาคของโลก แต่ในขณะเดียวกันเรากลับละเลยต่อการแก้ไขปัญหาในบ้านของเราเอง มันถึงเวลาแล้วที่อเมริกาจะต้องแก้ไขปัญหาของเราเองด้วย
ประชาชนจำนวนมากกำลังเบื่อหน่ายรัฐบาลที่วอชิงตันดี.ซี ประชาชนของอเมริกันกำลังเบื่อหน่ายนักการเมือง ผมเดินไปรณรงค์หาเสียงมาทั่วประเทศ มีคนหนุ่มสาวซึ่งเป็นอนาคตของอเมริกา ถามผมว่า
“Bill นักการเมืองดีแต่พูด เราจะเชื่อถือนักการเมืองได้อย่างไร?”
ผมมายืนอยู่ ณ จุดนี้ ณ ที่แห่งนี้ ผมจะบอกคุณว่าผมเป็นใคร ผมเชื่อมั่นและศรัทธาในสิ่งที่ผม คิดฝันอย่างไร และหนทางไหนที่ผมกำลังจะนำพาอเมริกาไป
ชีวิตของผมตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยเห็นหน้าพ่อ พ่อสูญเสียชีวิตไปก่อนที่ผมคลอด 3 เดือน พ่อ ขับรถจากชิคาโกเพื่อมาเยี่ยมแม่ แต่แล้วพ่อก็ต้องสูญเสียชีวิตไปกับอุบัติเหตุ
หลังจากนั้น แม่ก็เลี้ยงดูผมและน้องชายมาโดยตลอดจนเติบใหญ่
ในวัยเด็กแม่ส่งผมและน้องชายไปให้ตาเลี้ยงดู แล้วแม่ก็ไปเรียนพยาบาลต่อให้จบที่หลุยเซียน่า
ณ คืนหนึ่ง ผมยังจำดวงตาของแม่ได้ แม่มาส่งเราขึ้นรถไฟที่สถานีเพื่อฝากผมและน้องชายไปให้ตาดูแล แม่รู้ว่าแม่ต้องทิ้งลูกไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง เผื่อว่าสักวันหนึ่งเราจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้ แม่ทำงานหนักมาตลอดชีวิตเพื่อมาเลี้ยงดูครอบครัว ผมยังจำได้ในตอนเด็ก ๆ ผมและน้องชายนั่งดูแม่เดินออกจากบ้านไปทำงาน งานที่แม่ทำเป็นงานที่ค่อนข้างลำบากมาก สำหรับลูกผู้หญิงคนหนึ่ง เมื่อเราเติบโตขึ้น แม่ก็ต้องประสบกับโรคร้าย ทุกวันนี้แม่ก็ยังบอกผมอยู่เสมอ ลูกต้องกล้าหาญ ลูกต้องเป็นนักต่อสู้
สิ่งเหล่านี้แหละคือสิ่งที่ผมได้รับจากแม่มาโดยตลอด
ผมจะต่อสู้เพื่อผลักดันให้คนทำงานมีรายได้ที่เพียงพอให้พ่อแม่ของเด็ก ๆ ได้มีเงินเพียงพอที่จะจุนเจือดูแลครอบครัวและลูก ๆ ของเขา ให้คนอเมริกันมีชีวิตสุขภาพที่ดีขึ้น สุขภาพของแม่และเด็ก การให้สิทธิในโอกาส การให้เกียรติแก่สุภาพสตรีเป็นสิ่งที่ผมมุ่งหวัง ไม่ว่าจะงานนอกบ้านหรือในบ้านคุณคงอยากรู้ใช่ไหมว่าทำไมผมศรัทธาในสิ่งเหล่านี้ แม่ของผมบ่มเพาะผมมาโดยตลอด
แม่ครับ !ขอบพระคุณแม่ ผมรักแม่...เมื่อผมคิดถึงโอกาสในชีวิตของคนอเมริกัน ผมนึกถึงตา ตาเปิดร้านขายของโชว์ห่วยในชนบทเล็ก ๆ ของรัฐ Arkansas ตาขายของให้กับคนทุกชนชั้น สีผิว ไม่ว่าเขาจะเป็นคนขาวหรือคนดำ คนไหนเป็นคนทำงานหนัก ขยัน ไม่มีเงินเดินผ่านเข้ามาในร้านของตา ตาจะให้เขาเชื่อไว้ก่อน เพราะตาเห็นว่าเขาเป็นคนขยัน ตาเพียงแต่จดชื่อเขาไว้ในกระดานดำ ผมโตขึ้นมาก็ช่วยงานในร้านขายของแห่งนี้
ร้านค้าของตาเป็นมหาวิทยาลัยทางการค้าในชีวิตของผม แม้แต่ศาสตรจารย์จากมหาวิทยาลัยก็ให้ความรู้แก่ผมได้ไม่เท่าร้านค้าของตา
สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมเข้าใจชีวิตของชาวบ้านผู้หาเช้ากินค่ำ ผมเข้าใจถึงความรู้สึก ปรัชญาชีวิตของพวกเขามากกว่านักปรัชญาที่เคยสอนผมที่มหาวิทยาลัยออกฟอร์ด ร้านค้าของตาสอนให้เรามีความยุติ-ธรรมกับลูกค้า ให้โอกาสแก่เขายามที่เขาไม่มีเงินหรือตกงาน
ผมได้เรียนรู้เรื่องราวอีกมากจากบุคคลอีกผู้หนึ่ง เขาคนนี้ 20 กว่าปีที่ผ่านมา ผมได้เดินทางไปไหนมาไหนกับเขามาโดยตลอด เขาทำงานหนักมากเพื่อทุ่มเทให้กับเยาวชนของเรา เรื่องราวทางการศึกษาของเยาวชนในรัฐ Arkansas เขาก็มิได้ละเลย ยามที่ต้องเดินทางไปสัมนา ประชุมยังที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ผมก็มีเขาร่วมเดินทางไปด้วยเสมอ และเขาก็เป็นแบบอย่างแม่ที่ดีของลูก
ครับ ! เขาก็คือภรรยาของผมเอง Hillary
ผมต้องการให้อเมริกันเชื่อมั่นในคุณค่าของสถาบันครอบครัว ทั้งการกระทำและการแสดงออก มิใช่เพียงแต่การพูด การสร้างประเพณีครอบครัวของอเมริกัน มีพ่อมีแม่มีลูก มีชีวิตคู่ผัวเดียวเมียเดียว
และนี่คือพลังแห่งคุณค่าของครอบครัวผม ต้องการบอกพ่อทุกคนในอเมริกาว่า อย่าละทิ้งลูก พ่อจะต้องทำงานหนักหาค่าใช้จ่ายให้เขาได้รับการเลี้ยงดู เราจะต้องรับผิดชอบต่อเยาวชนของเรา
แต่รัฐบาลที่วอชิงตันมิได้ให้ความสำคัญในคุณค่าเหล่านี้เลย ผมต้องการบอกเด็ก ๆในอเมริกาว่า ผมรู้สึกในความรู้สึกของเขาที่ปราศจากพ่อและแม่
เยาวชนอเมริกาที่รัก ผมจะสร้างอเมริกาให้อบอุ่น เป็นบ้านเป็นครอบครัวอีกครั้งหนึ่ง
ในทุกวันนี้อเมริกามีปัญหาที่รุมเร้าอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน นั่นก็คือปัญหาเศรษฐกิจ เราต้องพบกับความตกต่ำ และนับวันยิ่งจะถอยห่างประเทศอื่น ๆ เขาไปทุกขณะ
เมื่อไม่นานมานี้ นายกรัฐมนตรีของประเทศญี่ปุ่น พูดถึงอเมริกาเอาไว้ว่า “เขาสงสารประเทศอเมริกา เขารู้สึกสงสารคนอเมริกัน” ในสายตาของคนอื่นนั้น อเมริกากำลังจะกลายเป็นสิ่งน่ารักน่าสงสารอย่างนั้นหรือ?
หากผมได้เข้าไปทำงาน ณ กรุงวอชิงตันดีซี ศักดิ์ศรี, เกียรติภูมิเราจะต้องกู้กลับคืนสู่อเมริกาอีกครั้งหนึ่ง
ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาคุณบุชทำอะไรบ้างกับการแก้ไขปัญหาของอเมริกา เขาเคยให้สัญญาว่าจะสร้างงาน หางานให้คนอเมริกาทำ นี่มันจะครบสี่ปีอยู่แล้ว ประชาชนอเมริกายังอยู่สบายดีอยู่หรือ
คุณบุช ขึ้นภาษีกับประชาชนผู้ขับรถรับจ้าง คนขับรถบรรทุก เก็บภาษีจากคนหาเช้ากินค่ำ ในขณะเดียวกันเขากลับเก็บภาษีต่ำกับคนที่นั่งรถรีมูซีน
ชีวิตครอบครัวอเมริกาที่เป็นชาวนาสูญเสียที่นา เขาละทิ้งโรงนาไปในอัตราที่สูง บุชไม่เคยเลย ที่จะคิดถึงชีวิตชาวนาและครอบครัวของเขา ผมจะปกป้องพวกเขาให้เป็นรากฐานของอเมริกาต่อไป
รัฐบาลที่วอชิงตัน ไม่เคยเลยที่จะสนับสนุนให้สิทธิสตรีได้มีโอกาสในทางเลือก ผมและภรรยาเชื่อมั่นในสิทธิสตรีที่จะมีโอกาสในทางเลือกที่ดีของชีวิต ผมไม่ได้จะสนับสนุนให้สตรีทำแท้ง แต่จะสนับสนุนทางเลือกของสตรีในปัญหาเหล่านี้ ผมเชื่อมั่นในความยากลำบากและความเจ็บปวดของลูก ผู้หญิงยามที่พวกเขาจะต้องตัดสินใจ
ผมยังคาดหวังถึงอนาคตของเด็ก ๆ อเมริกาว่า เขาจะเติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแรง ภายใต้สังคมที่อบอุ่น
สิ่งเหล่านี้คือครอบครัว และนี่คืออนาคตของอเมริกา
ผมมีศรัทธาเป็นกำลังใจ ผมเชื่อมั่นในอนาคตของประเทศของผม
ไม่มีใครจะละทิ้งใคร ไม่มีใครจะเดินนำหน้าใคร แต่พวกเราอเมริกันจะเดินไปพร้อม ๆ กัน
นี่คือคำมั่นสัญญา คือสำนึกของผมที่พูด ณ ที่แห่งนี้ ว่าสักวันอนาคตของอเมริกาจะดีขึ้นและ ดีกว่าที่เป็นอยู่
ขอพระผู้เป็นเจ้าดูแลสุขภาพของคุณและอวยพรให้แก่ประเทศอเมริกา
นี่คือสุนทรพจน์ทางการเมืองของ Bill Clinton เด็กน้อยผู้กำพร้าพ่อจาก Arkansas ผู้ซึ่งกำลังเป็นความหวังของอเมริกา และโลกทั้งโลกกำลังจับตาเขาอยู่
|
|
|
|
|