|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ พฤศจิกายน 2535
|
|
หลายคนคิดว่าเมื่ออังกฤษตัดสินใจที่จะส่งมอบฮ่องกงให้กับจีนคงจะถือเป็นวาระสุดท้ายของอาณานิคมแห่งนี้ แต่ในปัจจุบันเมื่อการส่งมอบในปี 1977 ใกล้จะมาถึงนั้นเศรษฐกิจฮ่องกงกำลังบูม มูลค่าอสังหาริมทรัพย์สูงขึ้นจากสองปีที่แล้วถึง 60%
เหตุผลคือนักธุรกิจตะวันตก บริษัทธุรกิจการเงินจากโตเกียวรวมทั้งนักธุรกิจเชื้อสายจีนจาก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังมุ่งหน้าสู่ฮ่องกงขณะที่ประเทศอุตสาหกรรมทั้งโลกกำลังประสบภาวะเศรษฐกิจซบเซา พวกนักธุรกิจจึงมองหาเมืองที่กำลังจะเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจในศตวรรษที่ 21 ฮ่องกงถือเป็นที่ตั้งที่ได้เปรียบเนื่องจากมีแหล่งเงินทุน มีผู้ประกอบการของฮ่องกงและไต้หวันที่มีความสามารถ รวมทั้งมีตลาดบนจีนแผ่นดินใหญ่ที่มีจำนวนถึง 1,200 ล้านคน มีแรงงานราคาถูกรวมทั้งทรัพยากรที่มีอย่างอุดมสมบูรณ์จากจีนแผ่นดินใหญ่
อย่างไรก็ดียังมีอุปสรรคในการสร้าง “ศตวรรษแห่งมังกร” ที่ชาวจีนในดินแดนโพ้นทะเลวิตกกังวลอยู่ ความไม่แน่นอนทางการเมืองทั้งในจีนแผ่นดินใหญ่และของฮ่องกงเองหลังปี 1977 เป็นสิ่งที่ น่าจับตามอง รวมทั้งปักกิ่งและฮ่องกงเองก็ยังมิได้มีการเจรจากันอย่างจริงจังในเรื่องการรวมดินแดน แต่เป็นที่คาดกันว่าการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ในราวปลายปีนี้จะมุ่งพิจารณาถึงแผนการการปฏิรูป ทางเศรษฐกิจของ เติ้ง เสี่ยว ผิง เป็นหลัก
แต่เมื่อไม่พิจารณาถึงปัจจัยทางด้านการเมืองจะเห็นได้ว่ามีการลงทุน การค้าและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมเข้ามาในประเทศจีนเป็นอย่างมากอันถือเป็นการผูกมัดจีนทั้งสามเข้าด้วยกัน และจะมีส่วนช่วยสร้างดุลให้เกิดขึ้นในเอเชีย เมื่อจีนทั้งสามรวมกันนั้นจะมีเงินตราสำรองรวมถึง 160,000 ล้านดอลลาร์ มากกว่าญี่ปุ่นที่มี 70,500 พันล้านดอลลาร์ถือเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของญี่ปุ่นทีเดียว
มีการลงทุนหลั่งไหลเข้ามาในจีนแผ่นดินใหญ่เป็นจำนวนมากรวมทั้งผู้ประกอบการจากฮ่องกงและไต้หวัน ที่ต่างทุ่มลงทุนเป็นจำนวนเงินถึง 25,000 ล้านดอลลาร์ สร้างโรงงานทางตอนใต้ของจีนอย่างเช่นปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้และเทียนสิน ขณะเดียวกันบริษัทของรัฐบาลจีนในปัจจุบันนั้นเข้าไปลงทุนในฮ่องกงมากที่สุดนักวิเคราะห์เห็นว่า “ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะช่วยเพิ่มอำนาจทางการเมืองให้กับจีนทั้งหมด” แม้เมื่อเร็ว ๆ นี้ทางสหรัฐฯได้ตัดสินใจขายฝูงเครื่องบินขับไล่ มูลค่าหกพันล้านดอลลาร์ให้แก่ไต้หวัน
การที่เศรษฐกิจจีนเริ่มกระเตื้องขึ้นนั้นถือเป็นการท้าทายญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก ขณะที่ในปัจจุบันญี่ปุ่นถือเป็นผู้ส่งออกสินค้ารายใหญ่ไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ และเริ่มรู้สึกว่าพ่อค้าชาวจีนกำลังจะเข้ามาแทนที่พวกตน
ส่วนทางวอชิงตันนั้นมีความรู้สึกที่ผสมผสานกันเกี่ยวกับการเติบโตขึ้นของจีนขณะที่การรวมตัวทางเศรษฐกิจนั้นกดดันให้ทางกรุงปักกิ่งต้องมีนโยบายเสรีมากขึ้นแต่ยิ่งจีนเปิดเสรีมากขึ้นก็ยิ่งสร้างความวิตกกังวลให้กับสหรัฐฯ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมสหรัฐฯจึงจับตามองการค้าและการทหารของจีนอย่างใกล้ชิดขณะที่จีนได้ดุลการค้ากับสหรัฐ ฯ มาถึง 15 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ส่งผลให้ประธานาธิบดี จอร์จ บุช บีบให้จีนเปิดตลาดการค้ามากขึ้น
|
|
|
|
|