|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ พฤศจิกายน 2535
|
|
ถ้าคุณได้มีโอกาสเดินเข้าไปในครัวของคนเกาหลีที่กระจายกันอยู่ในทุก ๆ ส่วนของโลก คุณ จะเห็นผลิตภัณฑ์ของซัมซุงวางนิ่งอยู่ในนั้น
ปาร์ค ซุง วอน หนุ่มเกาหลีที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองไทยมา 2 ปี พร้อมภรรยาและลูกอีก 2 คนต้องอพยพครอบครัวจากเมืองโซลมาอยู่กรุงเทพเพราะเขาได้รับมอบหมายจากบริษัทซันยองให้มาควบคุมงานก่อสร้างโครงการยักษ์โครงการหนึ่งที่เมืองไทย
ห้องพักในอพาร์ตเม้นท์ที่หรูหราพอสมควร ที่ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท เขาอยู่รวมกับครอบครัวอย่างสบาย “เราภูมิใจในความสำเร็จของการพัฒนาอุตสาหกรรมของเรา” มิสเตอร์วอนยืนคุยกับ “ผู้จัดการ” ขณะที่ภรรยาของเขากำลังจัดแจงนำอาหารเข้าอบในไมโครเวฟยี่ห้อ “ซัมซุง” และลูกของเขาอีก 2 คนกำลังนั่งดูการ์ตูนอย่างใจจดใจจ่อจากทีวี ซึ่งเป็นยี่ห้อซัมซุง อีกเหมือนกัน
คำพูดของมิสเตอร์วอนทำความเข้าใจได้ง่าย เมื่อได้เห็นเครื่องใช้ต่าง ๆ ในที่พักของเขา เต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์ของบริษัทยักษ์ใหญ่จากเกาหลีเกือบทั้งนั้น ความเป็นชาตินิยมของเขาไม่ต่าง อะไรกับคนญี่ปุ่นเลยแม้แต่นิดเดียว
“ที่เกาหลี คุณจะไม่เห็นรถจากญี่ปุ่นหรือจากที่ไหน ๆ เลยแม้แต่คันเดียวบนท้องถนน” มิสเตอร์วอนพูดกับ “ผู้จัดการ” เขาเล่าให้ฟังว่าครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน มีคนเอารถยี่ห้อดังจากเยอรมันมาขับเล่นปรากฎว่าเจอของแข็งจากคนเลือดร้อนฟาดเข้าที่รถแทบพังยับเยินด้วยความหมั่นไส้และเลือดชาตินิยมรุนแรง
บนถนนทุกสายในเกาหลีเต็มไปด้วยรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮุนได แดวู หรือถ้าเป็นรถโดยสารใหญ่และรถบรรทุก ก็จะเป็นยี่ห้อ KIA และ ASIA ซึ่งทั้งหมดผลิตจากสายการผลิตในเกาหลี โดยบริษัท ของเกาหลี
เช่นกันเครื่องใช้ไม้สอยในครัวเรือนทุกบ้านทุกช่อง จะเต็มไปด้วยสินค้าจากบริษัทซัมซุง หนึ่งในกลุ่ม “แชโบล” ที่ยิ่งใหญ่
“เราถือว่าเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องผลิตสินค้าเพื่ออำนวยความสุขให้แก่มนุษย์” โฆษกของ ซัมซุงเล่าให้ฟังถึงปรัชญาข้อหนึ่งในการทำธุรกิจของบริษัท
ซัมซุงเป็นกลุ่มบริษัทที่มีเครือข่ายของธุรกิจในอุตสาหกรรมการผลิตไฮเทคโนโลยีหลาย อุตสาหกรรมที่สำคัญ คืออุตสาหกรรมอีเล็กทรอนิกส์วิศวอุตสาหการ และเคมีภัณฑ์นอกจากนี้ ยังมี เครือข่ายในอุตสาหกรรมบริการการเงินประเภทประกันภัยด้วย
เมื่อปีที่แล้ว กลุ่มซัมซุงได้รายงานว่า อุตสาหกรรมอีเล็กทรอนิกส์ทำรายรับสูงที่สุดถึง 22% เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่น ๆ ยกเว้นการเงิน ซึ่งเป็นตัวทำรายรับหลักของกลุ่มถึง 58%
สิ่งนี้คือเหตุผลที่ซัมซุงต้องการเน้นอุตสาหกรรมอีเล็คทรอนิคส์เป็นหัวใจของกลุ่มเพราะ หนึ่ง - มันเป็นโครงสร้างพื้นฐานของการเข้าสู่อุตสาหกรรมการบินได้โดยเฉพาะด้านซอฟท์แวร์ สอง – เป็นกระดานหกด้านซอฟท์แวร์ที่จะช่วยเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่วงจรยุคอีเล็กทรอนิกส์อย่างเต็มตัวในต้นทศวรรษหน้า
สมัยที่สถานการณ์โลกตกอยู่ในภาวะสงครามเย็น ประเทศเกาหลีซึ่งเผชิญหน้ากับเกาหลีเหนือ ในบรรยากาศที่ตึงเครียด ได้เปิดเงื่อนไขในระดับชาติที่บีบรัดให้ซัมซุงต้องเข้าสู่อุตสาหกรรมการบิน ทางทหารเพื่อป้อนให้กระทรวงกลาโหมโดยบังเอิญอย่างรวดเร็วเมื่อปี 2523 “เราเริ่มเปิดสายการผลิต เพื่อประกอบเครื่องยนต์เจ็ตภายใต้การช่วยเหลือทางเทคนิคของบริษัทเยนเนอรรัลอีเล็คทริค (ยีอี) สหรัฐจนเวลานี้ เราสามารถผลิตเครื่องบินเอฟ -16 ภายใต้เทคโนโลยีและการร่วมผลิตชิ้นส่วนของบริษัทเยนเนอรัลไดนามิคแห่งสหรัฐเพื่อป้อนให้กระทรวงกลาโหมเกาหลี” เจ้าหน้าที่ระดับบริหารด้านวิศวกรรมของซัมซุงแอโรสเปสเล่าให้ “ผู้จัดการ” ฟัง
จากปี 2523 ที่เริ่มเข้าสู่อุตสาหกรรมการบิน จนเมื่อปีที่แล้ว อุตสาหกรรมด้านนี้ของซัมซุงสามารถทำรายได้จากยอดขายสูงถึง 509 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ผลผลิตส่วนใหญ่เป็นชิ้นส่วนเครื่องยนต์- เจ็ต เพื่อป้อนให้บริษัทจีอีและแพ็ตแอนด์วิทนี่ STIFFENER STRING และ WING RIP เพื่อป้อนให้บริษัทโบอิ้ง
ธุรกิจการบินกำลังอยู่ในช่วงของการเติบโต รายงานจากบริษัทโบอิ้งได้ชี้ให้เห็นว่า สัญญา การผลิตเครื่องบินโดยสารที่บริษัทสายการบินต่าง ๆ สั่งจอง จากยอดเมื่อสิ้นปีที่แล้ว ภายใต้กำลังผลิตปัจจุบันทางโบอิ้งจะต้องใช้เวลาผลิตถึง 10 ปี จึงจะสามารถป้อนให้ได้ครบ
ในขณะเดียวกันทางกระทรวงกลาโหมเกาหลีเอง ก็ได้สร้างโครงการสร้างเขี้ยวเล็บการสู้รบ ทางอากาศขึ้น
โอกาสทางตลาดที่เปิดกว้างขึ้น และการผลิตที่ต้องใช้เทคโนโลยีระดับสูงสุด ช่วยให้ซัมซุงได้เปรียบในการแข่งขันอุตสาหกรรมอีเล็กทรอนิกส์เพื่อการบริโภค ซึ่งเป็นโครงสร้างสำคัญในฐานะที่มาของรายได้ของกลุ่มเป็นอย่างยิ่งเพราะ หนึ่ง-เทคโนโลยีการผลิตของอุตสาหกรรมการบิน สามารถเป็นตัวนำถ่ายทอดเพื่อการยกระดับเทคโนโลยีอุตสาหกรรมอีเล็กทรอนิกส์เพื่อการบริโภค (รวมถึงยานยนต์) ได้ดีที่สุด สอง-ยกระดับภาพพจน์คุณภาพสินค้าที่ผลิตจากสายการผลิตของซัมซุงในตลาดโลก
ซัมซุงยอมรับว่า ต้นทุนกระบวนการผลิตและตรวจสอบในอุตสาหกรรมการบินสูงมาก วิศวกรในบริษัท ซัมซุงแอโรสเปซบอกกับ “ผู้จัดการ” ว่าในฟังชั่นหนึ่ง ๆ ของกระบวนการผลิต ชิ้นส่วนระบบเครื่องยนต์เจ็ตมีต้นทุนสูงถึงชั่วโมงละ 100 ดอลล่าร์สหรัฐ
แม้จะมีต้นทุนสูง แต่ก็เป็นโอกาสที่เปิดกว้างสำหรับการเดินไปเส้นทางการยกระดับเทคโนโลยี่การผลิตเพื่อแข่งขันกับยักษ์ใหญ่คอนซูมเมอร์อีเล็คทรอนิคของญี่ปุ่น “เราจะสู้กับญี่ปุ่นได้ในทุกสนามของโลกได้ภายใน 3 ปีข้างหน้า สิ่งนี้ คือเป้าหมายของเรา” ผู้ใหญ่ระดับกรรมการบริหารคนหนึ่งของซัมซุงพูดถึงความฝันของซัมซุงให้ฟัง
|
|
|
|
|