พาหนะคู่ใจสำหรับคนสูงอายุ ที่ใช้เดินทางไปทุกแห่งหนได้สะดวกสบาย ดูจะไม่มีอะไรเหนือเท่ากับรถสคูตเตอร์ของ คูโบต้าคอร์ป ที่เป็นผู้ผลิตรถชนิดนี้รวมทั้งเครื่องจักรกลทางการเกษตรของญี่ปุ่นไปได้ รถชนิดนี้ได้รับการพัฒนาและออกแบบให้พิเศษสุดกว่ารถทั่ว ๆ ไป คือ ลักษณะตัวรถจะคล้ายกับรถเข็นแต่กลับขับเคลื่อนได้ด้วยไฟฟ้า และเหมาะกับผู้สูงวัยที่เดินทางไปไหนไม่ค่อยสะดวกนัก
นอกจากนี้ รถดังกล่าวยังมีความปลอดภัยในการใช้อีกด้วยในระหว่างขับขี่ หากไปชนสิ่งกีดขวางเข้า เบรกฉุกเฉินก็จะหยุดเองโดยอัตโนมัติ ทั้งนี้เพราะผู้ผลิตคำนึงว่า ผู้ขับขี่อาจจะมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เชื่องช้า ยิ่งไปกว่านั้นยางรถซึ่งออกแบบให้มีเส้นผ่าศูนย์กลางที่ใหญ่มาก โอกาสที่คนขับจะได้รับอันตรายน้อยมากแม้จะขับผ่านสิ่งกีดขวางที่สูง 8 เซนติเมตร ตลอดจนสามารถขับขึ้นบริเวณเนินลาดที่สูงในระดับ 15 องศาได้เช่นกัน
ส่วนการทำงานของเครื่องก็แสนง่าย ทันทีที่ผู้ขับขึ้นไปนั่ง มอเตอร์ก็จะเริ่มทำงานทันที ระบบการทำงานตั้งแต่สตาร์ทหยุดรถและอัตราความเร็วจะควบคุมด้วยคันโยกแบบเดี่ยว หาก แบตเตอรี่หมดก็สามารถชาร์จใหม่ได้จากแหล่งจ่ายไฟฟ้าภายในบ้าน หลังจากชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มแล้วจะทำงานได้ต่อเนื่องถึง 6 ชั่วโมงและขับได้ในอัตราความเร็วสูงสุด 6 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ระบบตัวรถรวมทั้งเบรกได้รับการออกแบบที่ตรงกับเกณฑ์มาตรฐานของรถเข็นที่ใช้ไฟฟ้าตามที่ "เจแปน อินดัสเตรียน สแตนการ์ด" ได้กำหนดไว้
อย่างไรก็ตาม รถชนิดนี้ก็ไม่ใช่ว่าจำหน่ายให้กับใครก็ได้ ผู้ที่ซื้อได้จะต้องให้ทางบริษัทตรวจเสียก่อนว่าเหมาะสมจะใช้
จากการสำรวจเมื่อปีที่แล้ว พบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ที่ใช้รถนี้จะอยู่ในวัยระหว่าง 65-75 ปี และเกือบ 60% จะใช้ขับไปชอปปิ้ง, หาหมอหรือรับอากาศบริสุทธิ์ภายนอกบ้านทุกวัน และอีกหลายคนที่รู้สึกพออกพอใจกับชีวิตใหม่ที่ได้รับสัมผัสจากภายนอก
รถชนิดดังกล่าว จะวางจำหน่ายโดยผ่านเครือข่ายฝ่ายขายเครื่องจักรกลทางการเกษตรของบริษัทเท่านั้นจึงไม่วางจำหน่ายตามร้านค้าทั่วไปลูกค้าส่วนใหญ่จะมาจากแถบชนบทซึ่งมีผู้สูงอายุอาศัยกันมากและมักจะใช้วิธีการสั่งซื้อโดยตรงกับทางบริษัท
ราคาจำหน่ายของรถสคูตเตอร์รุ่น "ดี" จะประมาณ 299,000 เยน รุ่นนี้จะมีเครื่องมือที่มีความปลอดภัยน้อยที่สุด ส่วนรุ่น "เอสดี" ซึ่งมีระบบการทำงาน ที่ปลอดภัยมากกว่าจะราคา 330,000 เยน
คูโบต้าตั้งเป้ายอดจำหน่ายสำหรับปีแรกนี้ไว้ 5,000 คัน หลังจากจำหน่ายไป 1,700 คันนับแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา
|