|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ เมษายน 2534
|
|
ค่านิยมความเชื่อของคนไทยที่บอกว่า คนเราถ้าลองเก่งสักอย่างก็สามารถสร้างเนื้อสร้างตัวได้ นั้นเป็นความจริงเสมอ ๆ ในโลกธุรกิจของไทย
สิงห์ทองเนกไทของสิงห์ทอง จันทร์สิงห์ทอง เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ยืนยันความจริงข้อนี้
เนกไทของสิงห์ทองจดทะเบียนลิขสิทธิ์ยี่ห้อ "แวนชั่น" มากว่า 30 ปี เรียกว่าเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองมานาน จนสามารถคุยได้ว่าเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวของใต้ฟ้าเมืองไทยที่ผลิตเองขายเอง มีอายุยืนยาวมาจนถึงทุกวันนี้
"กันยายนนี้ก็จะครบ 3 รอบของการก่อตั้งกิจการพอดี" สิงห์ทองประธานกลุ่มบริษัทสิงห์ทองกล่าวถึงอายุยืนยาวของการก่อร่างสร้างตัวอย่างภูมิใจในความสำเร็จบริษัทของสิงห์ทองมี 3 บริษัท เริ่มจากแวนชั่นสิงห์ทองเทรดดิ้งก่อตั้งเมื่อปี 2506 ทำหน้าที่ในการผลิต ค้าส่ง บริษัทสิงห์ทองเนกไทก่อตั้งเมื่อปีที่แล้วทำหน้าที่ในการส่งออกและนำเข้าชิ้นส่วนที่ใช้คู่เนกไทเช่นเข็มกลัด และบริษัทสิงห์ทองผ้าไหมอุตสาหกรรม ก่อตั้งเมื่อปีที่แล้วเช่นกันทำหน้าที่ในการผลิตผ้าไหม เพื่อป้อนให้กับแวนชั่นสิงห์ทองเทรดดิ้งนำไปผลิตเนกไท
"ยอดขายปีที่แล้วตกประมาณ 100 ล้าน กว่า 70% เป็นยอดขายจากการส่งออก" สิงห์ทองพูดถึงสถานะทางธุรกิจ
สิงห์ทองเป็นชาวจีนโพ้นทะเลจากอำเภอเม่ยเยี้ยน มณฑลกวางตุ้งประเทศจีน เขาจากเมืองจีนมาเมืองไทยพร้อมความรู้ระดับพาณิชยการเมื่อหลังสงครามโลกครั้งที่สองจบสิ้นใหม่ ๆ
งานแรกที่ทำในเมืองไทยคือการเป็นพนักงานขายในบริษัทห้างสรรพสินค้าแมวดำยูเนียนที่มีสายสัมพันธ์ในฐานะเป็นอาหลานกันเวลา 10 ปีที่อยู่กับแมวดำฯ เปิดโอกาสให้สิงห์ทองเรียนรู้การทำการค้ากับต่างประเทศและได้สัมผัสกับสินค้าใหม่ ๆ จากต่างประเทศที่ห้างแมวดำนำเข้ามาขาย และเนกไทก็เป็นสินค้าหนึ่งที่เขาดูชื่นชอบ
เมื่อลาออกจากแมวดำฯ เขาก็เริ่มทำธุรกิจส่วนตัวเป็นช่างออกแบบและตัดเย็บเนกไทเนื่องจากเหตุผลเพราะใจชอบแล้ว ก็เนื่องจากลงทุนน้อย
จุดที่ทำให้ธุรกิจเนกไทของสิงห์ทองเติบโตขึ้นมาจาก การที่เขาไปฮ่องกงและได้เห็นพ่อค้านักธุรกิจตลอดจนนักเรียนนักศึกษาใส่เนกไทกันทุกคน ก็เกิดไอเดียที่จะมาเจาะตลาดคนทำงานในสำนักงานและโรงเรียน
โรงเรียนวชิราวุธเป็นเป้าหมายแรกที่เจาะได้สำเร็จโดยผ่านรบ สยามมานนท์ เพื่อนซึ่งเป็นกรรมการโรงเรียน สิงห์ทองรู้จักกับรบมาตั้งแต่สมัยที่เขาเป็นเซลส์แมนอยู่ที่ห้างแมวดำฯ และรบเป็นเจ้าหน้าที่แบงก์ชาติและกรรมการสหกรณ์พนักงานแบงก์ชาติรับซื้อสินค้าจากห้างแมวดำฯ
นอกจากเจาะโรงเรียนวชิราวุธแล้ว สิงห์ทองยังสามารถเจาะตลาดแบงก์ชาติสำเร็จด้วยโดยผ่านเมธี ดุลยจินดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของแบงก์ชาติที่สิงห์ทองรู้จักจากการแนะนำของรบ
ถึงขั้นนี้ ก็เหมือนรถยนต์ที่ติดเครื่องเทอร์โบ ธุรกิจเนกไทของสิงห์ทองวิ่งไม่มีเบรกแล้ว เขาเจาะตลาดมหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งจุฬา ธรรมศาสตร์ วิทยาลัยเอกชน หอการค้า กรุงเทพเป็นว่าเล่น เรียกว่า แทบจะผูกขาดเจ้าเดียว ส่วนสำนักงานก็เจาะตลาดธนาคารพาณิชย์เกือบทุกแห่ง
เรียกว่าก่อนยุคตลาดค้าปลีกตามห้างสรรพสินค้าจะเป็นที่แพร่หลาย ตลาดค้าส่งพวกโรงเรียนและสำนักงานคือตลาดหลักที่ทำรายได้และเป็นหัวใจของการเติบโตธุรกิจเนกไทของสิงห์ทอง
"ความจริงผมบุกตลาดส่งออกมากว่า 20 ปีแล้ว" สิงห์ทองกล่าวกับ "ผู้จัดการ" เพื่อบอกถึงตลาดอีกส่วนหนึ่งที่เขาบุกเบิก
มันเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับธุรกิจผลิตเนกไทที่ทำจากเมืองไทยจะขายแข่งกับต่างประเทศที่เชี่ยวชาญมาก่อน
สินค้าเนกไทในต่างประเทศมันเป็นสินค้าแฟชั่นที่แบบและลวดลายคือจุดขายที่สำคัญ เช่นนี้แล้วยี่ห้อที่บ่งบอกถึงความเป็นผู้นำด้านแฟชั่นอย่างคริสเตียนดิออร์ อีฟแซงค์ลอเรนต์ เลียวนาร์ด และแซนส์ ริวอล จึงเป็นยี่ห้อเนกไทที่ได้รับความนิยมสูงในตลาดโลก
สิงห์ทองซื้อลิขสิทธิ์แบบและลวดลายของแซนส์ ริวอลมาตัดเย็บอย่างประณีตด้วยช่างฝีมือคนไทยที่ค่าแรงถูกกว่า และความโด่งดังของผ้าไหมไทยที่เป็นเนื้อผ้าของตัวเนกไทที่สิงห์ทองซื้อจากแหล่งทอผ้าไหมชั้นดีที่สุดของประเทศที่ปักธงชัย นครราชสีมา เป็นองค์ประกอบที่ได้เปรียบในการบุกตลาดต่างประเทศ
"เราส่งออกจากปีแรกเมื่อกว่า 20 ปีก่อนในมูลค่าไม่ถึงล้านบาท จนปีที่แล้วเราสามารถไปถึงกว่า 70 ล้านบาทแล้ว" สิงห์ทองพูดถึงการเติบโตของตลาดส่งออกที่กระจายไปทั่วโลก เฉพาะอย่างยิ่งตลาดแถบยุโรป
เนกไทส่งออกของสิงห์ทองมีทั้งที่ส่งออกไปภายใต้ยี่ห้อ "แวนชั่น" และรับจ้างผลิตภายใต้ยี่ห้อของลูกค้าผู้ซื้อ ซึ่งยี่ห้อดัง ๆ ที่คนไทยนิยมของนอกรู้จักและนิยมใช้กัน ส่วนใหญ่มาจากโรงงานผลิตของสิงห์ทองทั้งนั้น
โรงงานผลิตเนกไทของสิงห์ทองเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทยที่สามารถผลิตได้ครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ การถ่ายแบบลงฟิล์ม การทำบล็อกแม่พิมพ์ ทำสี การพิมพ์ ตัดและเย็บ
"ถ้าระบบการผลิตไม่สามารถทำได้ครบวงจรจะไม่สามารถทำตลาดได้กว้างขวางเพราะการผลิตเนกไทมีหลายขั้นตอนและแต่ละขั้นตอนต้องอาศัยความประณีตภายใต้เวลาที่จำกัด" สิงห์ทองพูดถึงเงื่อนไขขนาดการผลิตที่รองรับตลาดส่งออก
ในอดีต สิงห์ทองไม่สามารถผลิตได้ครบวงจร เขาสามารถออกแบบและตัดเย็บได้ แต่ขั้นตอนนอกเหนือจากนั้นเขาต้องว่าจ้างคนภายนอก ซึ่งไม่สามารถควบคุมคุณภาพและเวลาได้เลย การผลิตเช่นนี้สามารถรองรับตลาดเล็ก ๆค้าปลีกตามหน้าร้านได้เท่านั้น
เมื่อตลาดมีขนาดใหญ่พอ การผลิตต้องขยายให้ครบวงจรเพื่อควบคุมเวลาและคุณภาพการผลิตโดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดส่งออก
ทุกวันนี้ สิงห์ทองได้พัฒนา จากบริษัทที่เคยเน้นตลาดภายใน เป็นด้านหลักมาเป็นบริษัท ที่พึ่งพิงการส่งออกเป็นด้านหลัก ซึ่งเขาชี้ว่าเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่นับพันล้านบาทและยังมีช่องว่างอีกมากมาย
"ผมทำมา 40 กว่าปีแล้ว อยากพักให้ลูก ๆ ทำบ้าง" สิงห์ทองพูดถึงการเกษียณของตัวเองขณะที่มีวัย 62 ปี
ประชา จันทร์สิงห์ทองลูกชายที่จบจากชิคาโก เข้ารับหน้าที่แทนบิดาในการขยายตลาดส่งออก ขณะที่ประเสริฐลูกชายคนโตที่จบวิศวไฟฟ้า รับหน้าที่บริหารงานทั่วไป
การส่งผ่านอำนาจบริหารกิจการสู่ลูก ๆ เป็นวิธีการบริหารงานของคนจีนที่นิยมทำกัน เป็นการสะท้อนภาพธุรกิจครอบครัวที่ยังฝังแน่นในสังคมธุรกิจเมืองไทย
สิงห์ทองเนกไทกำลังเติบใหญ่จากการทำมาหากินกับเนกไทอย่างเดียวมาเป็นเวลากว่า 30 ปี และกำลังเปลี่ยนผ่านมาสู่ชนรุ่นลูก
|
|
|
|
|