Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ เมษายน 2534








 
นิตยสารผู้จัดการ เมษายน 2534
กุลวดี จินตวร URBANIST แห่งเมืองทองธานี             
 


   
search resources

กุลวดี จินตวร
Architecture
แอคเซีย อาคิเต็ค




กุลวดี จินตวร เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีอะไรหลาย ๆ อย่างน่าทึ่งในความเป็นสถาปนิกผู้บริหารที่สามารถวางคอนเซปท์ผังเมือง "กรุงเทพฯ แห่งอนาคต" ให้ปรากฎบนพื้นที่มหึมาสี่พันไร่ในโครงการเมืองทองธานีของตระกูลกาญจนพาสน์ได้

"งานที่เมืองทองธานีเป็นงานที่ใหญ่มาก และจริง ๆ แล้วคุณอนันต์ก็มีส่วนร่วมมากในการวางผัง โดยบอกความต้องการให้ เพราะแกเป็นคนมีความรู้และเข้าใจการตลาดดีมาก รู้ว่าอะไรจะขายได้หรือไม่ได้" กุลวดี กรรมการผู้จัดการของบริษัทแอคเซีย อาคิเต็คเล่าให้ฟังด้วยบุคลิกคล่องแคล่วและง่าย ๆ อย่างเป็นกันเอง

กุลวดีรู้จักอนันต์ในนาม "ซีพี" เมื่อครั้งเธอทำงานอยู่ที่บริษัท สถาปนิกแห่งหนึ่งที่ฮ่องกงหนึ่งปีขณะนั้นอนันต์เองก็กำลังมองหามืออาชีพด้านนี้ที่จะมาช่วยเขาทำงานในโครงการเมืองทองธานีที่กรุงเทพฯ ซึ่งจะกำลังเริ่มมีโครงการคอนโดฯ อุตสาหกรรมขึ้น

ภายหลังจากร่วมรับประทานอาหารกันมื้อหนึ่งเพื่อชวนเธอมาทำงานด้วย กุลวดีก็ตกลงใจรับงานนี้ โดยมีเงื่อนไขตั้งเป็นบริษัท แอคเซีย อาคิเต็คซึ่งมีเธอถือหุ้นใหญ่ร่วมกับเพื่อน ๆ โดยมีเมืองทองธานีเป็นลูกค้ารายใหญ่เพียงรายเดียว

งานชิ้นแรกที่อนันต์อยากให้เธอทำก็คือ ตกแต่งภายในสำนักงานบริษัท บางกอกแลนด์ เสียใหม่ ซึ่งสะท้อนถึงปรัชญาแนวความคิดที่เน้นเรียบง่ายและชัดเจน โทนสีเน้นสีขาวกับดำซึ่งเป็นสีโปรดปรานของกุลวดี

"คุณอนันต์เป็นคนใจกว้างรับได้และทันสมัย ไม่ถือเรื่องสีขาวดำ" กุลวดีกล่าว

วิถีชีวิตผู้หญิงธรรมดา ๆ คนนี้มีความเชื่อมั่นในตนเองที่กล้าคิดและกล้าทำ และชอบใช้ชีวิตอิสระตามลำพังในฝรั่งเศสเป็นเวลาเจ็ดปีเต็ม ๆ เพื่อศึกษาจนจบแล้วได้ดีกรี DPLG(DIPLOME' PAR LE GOURVERNEMENT FRANCAIS)ที่โรงเรียนสถาปัตยกรรมฝรั่งเศสและทำงานด้านสถาปัตยกรรมผังเมืองที่ประเทศฝรั่งเศส แม่แบบแห่งผังเมืองที่ยอดเยี่ยมของโลก หลังจากจบปริญญาตรีสาขาสถาปัตยกรรมจากมหาวิทยาลัยศิลปากร

"ตอนเรียนหนังสือค่อนข้างเป็นคนเจ้าทฤษฎี มีอุดมคติในการออกแบบ เมื่อทำงานที่ฝรั่งเศสก็ยังไม่รู้สึกว่าตัวเองต้องยอมสละอะไรบางอย่างไป เพราะยังมีงานสร้างสรรค์เป็นของตัวเอง แต่พอมาอยู่ที่ฮ่องกง ทุกอย่างเป็นคอมเมอร์เชียล มีข้อจำกัดทั้งด้านทุนและเวลาที่ต้องเข่งขันกับคนอื่นมันเป็นสิ่งท้าทายและอยู่ในโลกความเป็นจริง" กุลวดีเล่าถึงพัฒนาการด้านความคิดของเธอ

ระหว่างเรียนต่อทางด้านผังเมืองด้วยทุน POSTE-DIPLOMESTUDIO VILLES ORIENTALES ECOVE D'ARCHITECTURE VERSAILLES และทุน IFA(INSTITUT FRANCAIS D'ARCHITECTURE) ครูที่เป็นสถาปนิก นักวางผังซึ่งเก่งด้านผังอนุรักษ์เมืองเก่ามาก ก็ได้ชวนไปทำงานด้วยที่ออฟฟิศสตูดิโอชื่อ "ATEUERFRANCIS QUENARD ARCHITETE,URBANIST"

ประสบการณ์ครั้งนั้นได้สอนให้กุลวดีถึงการเป็นสถาปนิกผังเมืองที่ดี "การมองแต่ละอย่างไม่ควรมองเฉพาะในสิ่งที่เราทำอยู่แต่ควรมองล่วงเลยไปถึงสิ่งที่เกี่ยวพันไม่ว่าจะเป็นวัตถุหรือจิตใจเพราะจริง ๆแล้วสถาปัตยกรรมก็สะท้อนถึงวิถีชีวิตคนตลอดมา"

นอกจากนี้กุลวดียังได้ใช้ความรู้ความสามารถในโครงการเมืองทองธานีโดยเป็นผู้บริหารประสานงานฝ่ายคนไทยกับบริษัทบวิคแห่งประเทศฝรั่งเศสซึ่งรับผิดชอบด้านก่อสร้างคอนโดมิเนียมอุตสาหกรรมที่จะสร้างเสร็จราวเดือนเมษายนปีหน้า

"นึกไม่ถึงว่าจะต้องมาพูดภาษาฝรั่งเศสในเมืองไทย เพราะตอนที่อยู่ฮ่องกงแทบไม่ได้พูดเลย" มันเป็นความบังเอิญที่กุลวดีเล่าให้ฟัง

ในความเห็นของกุลวดี องค์ประกอบในโครงการเมืองทองธานีมีฟังก์ชั่น 3 อย่างคือ หนึ่ง-จะต้องมีการค้าขายเพื่อให้เกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจในเมือง สอง-จะต้องมีแหล่งงานเช่นคอนโดอุตสาหกรรมขนาดเบาเช่นอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเกิดจากการเคลื่อนย้ายการลงทุนจากฮ่องกง และสาม-มีสวนพักผ่อนซึ่งมีทะเลสาบขนาดใหญ่เป็นตัวสร้างบรรยากาศ พร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวก อื่น ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าติวานนท์พลาซ่า โรงเรียน โรงพยาบาล ธนาคารและสนามกีฬา

ความสำเร็จเป็นไปได้ดีในสามโครงการแรกที่ขึ้นในเมืองทองธานีนับตั้งแต่งานใหญ่ชิ้นแรกคอนโดมิเนียมอุตสาหกรรมที่เฟสแรก กำลังก่อสร้าง 8 อาคาร มูลค่าอาคารละพันล้าน สอง-คอนโดมิเนียม "เลควิว" ที่พักอาศัยหรูมีระดับริมทะเลสาบซึ่งมีราคาตั้งแต่ 1.4-3.5 ล้าน 27 อาคาร และสาม- "วิลล่าออฟฟิศ" ไม่ต่ำกว่า 100 อาคาร ๆ ละ 35 ล้านบาท

ส่วนปีนี้โครงการ "ครูเมืองทอง" ซึ่งเป็นปอปปูล่าคอนโดมิเนียมไม่ต่ำกว่า 16,000 ยูนิต ๆ ละ 3 แสนบาทและโครงการข้าราชการซึ่งจะสร้างอีก 25,000 ยูนิต รวมกับการเปิดขายทั่วไปอีกคาดว่าไม่ต่ำกว่า 60,000 ยูนิต

มูลค่าทั้ง 6 โครงการข้างต้นไม่ต่ำกว่า 27,000 ล้านบาท และตามแผนใหญ่ถ้าทำจนครบ 30 โครงการจะมีมูลค่าโครงการทั้งหมด 58,000 ล้านบาท บนพื้นที่ก่อสร้าง 5,360,000 ตารางเมตร

"โครงการเมืองทองธานีนี้คุณอนันต์กะไว้ว่าอย่างช้าที่สุด 10-12 ปี ซึ่งดิฉันยังไม่แน่ว่าจะอยู่ถึงเวลานั้นหรือเปล่า แต่ตอนนี้ก็ยังสนุกอยู่" กุลวดีเล่าให้ฟังอย่างติดตลก

ปัจจุบันบริษัท แอคเซียที่กุลวดีบริหารอยู่ มีโครงการต่าง ๆ ของเมืองทองธานีทำจนล้นมือ ซึ่งตามแผนการรับสถาปนิกเต็มอัตราจะต้องเป็น 40 คนจากปัจจุบันที่มีอยู่ 20 กว่าคน โดยมีงานทำผังเมือง ออกแบบสถาปัตยกรรมตกแต่งภายในตามจุดขายต่าง ๆ ในโครงการเช่นที่โครงการเลควิว และผลงาน ชิ้นล่าสุดที่ลาดพร้าวซอย 142 ซึ่งยังไม่เปิดตัวเป็นทางการ

"บริษัทแอคเซียไม่ใช่บริษัทในเครือบางกอกแลนด์ แต่คุณอนันต์เป็นคนที่มีบุญคุณมาก เพราะจริง ๆ แล้วดิฉันอาจจะไม่ได้กลับมาเมืองไทยหรือตั้งออฟฟิศที่นี่ถ้าหากไม่ได้ทำงานกับแก" กุลวดีกล่าวถึงที่มาของแอคเซีย ซึ่งเป็นบริษัทสถาปนิกออกแบบที่มีทุนจดทะเบียนหนึ่งล้านบาท และมีเครือข่ายสำนักงานที่กรุงเทพฯ ฮ่องกงและเมลเบอร์น ประเทศออสเตรเลีย

ทุกวันนี้กุลวดีทุ่มเทให้กับการทำงานอย่างมาก แต่มันก็คือความสุขที่แต่ละวันเธอได้เพียรทำให้มันสมบูรณ์ ไม่มีพันธนาการชีวิตโสดอิสระ แม้แต่บ้านเธอก็ยังเช่าอพาร์ตเมนท์ ดูราวกับว่าชีวิตเธอไร้ห่วงไร้เงา

"ชีวิตเป็นเรื่องอะไรบางอย่างที่เราต้องการ ดิฉันไม่คิดว่าเงินสำคัญ มันเป็นเพียงสัญลักษณ์แห่งสถานภาพที่วัดเป็นความสำเร็จในชีวิตการงาน ต้องเป็นผู้บริหารมีเงินเดือนสูง ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ทำเพื่อแม่ สำหรับตัวเองไม่ต้องการ ไม่อยากสะสมทรัพย์สมบัติ อยากจะย้ายไปไหนก็หิ้วกระเป๋าใบเดียวไปเลย มีชีวิตอยู่อย่างนี้มาแปดปีแล้ว" กุลวดีทิ้งท้ายถึงความหมายแห่งชีวิตที่เธอเลือก

สถาปนิกนักวางผังเมืองวัย 34 อย่างกุลวดียังต้องการชีวิตและการงานที่ท้าทายพิสูจน์ความสามารถบนเส้นทางก้าวไกลนี้ และโครงการเมืองทองธานีเป็นงานใหญ่ที่สุดที่ทำให้วันนี้ของเธอเต็มสมบูรณ์   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us