กุลวดี จินตวร เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีอะไรหลาย ๆ อย่างน่าทึ่งในความเป็นสถาปนิกผู้บริหารที่สามารถวางคอนเซปท์ผังเมือง "กรุงเทพฯ แห่งอนาคต" ให้ปรากฎบนพื้นที่มหึมาสี่พันไร่ในโครงการเมืองทองธานีของตระกูลกาญจนพาสน์ได้
"งานที่เมืองทองธานีเป็นงานที่ใหญ่มาก และจริง ๆ แล้วคุณอนันต์ก็มีส่วนร่วมมากในการวางผัง โดยบอกความต้องการให้ เพราะแกเป็นคนมีความรู้และเข้าใจการตลาดดีมาก รู้ว่าอะไรจะขายได้หรือไม่ได้" กุลวดี กรรมการผู้จัดการของบริษัทแอคเซีย อาคิเต็คเล่าให้ฟังด้วยบุคลิกคล่องแคล่วและง่าย ๆ อย่างเป็นกันเอง
กุลวดีรู้จักอนันต์ในนาม "ซีพี" เมื่อครั้งเธอทำงานอยู่ที่บริษัท สถาปนิกแห่งหนึ่งที่ฮ่องกงหนึ่งปีขณะนั้นอนันต์เองก็กำลังมองหามืออาชีพด้านนี้ที่จะมาช่วยเขาทำงานในโครงการเมืองทองธานีที่กรุงเทพฯ ซึ่งจะกำลังเริ่มมีโครงการคอนโดฯ อุตสาหกรรมขึ้น
ภายหลังจากร่วมรับประทานอาหารกันมื้อหนึ่งเพื่อชวนเธอมาทำงานด้วย กุลวดีก็ตกลงใจรับงานนี้ โดยมีเงื่อนไขตั้งเป็นบริษัท แอคเซีย อาคิเต็คซึ่งมีเธอถือหุ้นใหญ่ร่วมกับเพื่อน ๆ โดยมีเมืองทองธานีเป็นลูกค้ารายใหญ่เพียงรายเดียว
งานชิ้นแรกที่อนันต์อยากให้เธอทำก็คือ ตกแต่งภายในสำนักงานบริษัท บางกอกแลนด์ เสียใหม่ ซึ่งสะท้อนถึงปรัชญาแนวความคิดที่เน้นเรียบง่ายและชัดเจน โทนสีเน้นสีขาวกับดำซึ่งเป็นสีโปรดปรานของกุลวดี
"คุณอนันต์เป็นคนใจกว้างรับได้และทันสมัย ไม่ถือเรื่องสีขาวดำ" กุลวดีกล่าว
วิถีชีวิตผู้หญิงธรรมดา ๆ คนนี้มีความเชื่อมั่นในตนเองที่กล้าคิดและกล้าทำ และชอบใช้ชีวิตอิสระตามลำพังในฝรั่งเศสเป็นเวลาเจ็ดปีเต็ม ๆ เพื่อศึกษาจนจบแล้วได้ดีกรี DPLG(DIPLOME' PAR LE GOURVERNEMENT FRANCAIS)ที่โรงเรียนสถาปัตยกรรมฝรั่งเศสและทำงานด้านสถาปัตยกรรมผังเมืองที่ประเทศฝรั่งเศส แม่แบบแห่งผังเมืองที่ยอดเยี่ยมของโลก หลังจากจบปริญญาตรีสาขาสถาปัตยกรรมจากมหาวิทยาลัยศิลปากร
"ตอนเรียนหนังสือค่อนข้างเป็นคนเจ้าทฤษฎี มีอุดมคติในการออกแบบ เมื่อทำงานที่ฝรั่งเศสก็ยังไม่รู้สึกว่าตัวเองต้องยอมสละอะไรบางอย่างไป เพราะยังมีงานสร้างสรรค์เป็นของตัวเอง แต่พอมาอยู่ที่ฮ่องกง ทุกอย่างเป็นคอมเมอร์เชียล มีข้อจำกัดทั้งด้านทุนและเวลาที่ต้องเข่งขันกับคนอื่นมันเป็นสิ่งท้าทายและอยู่ในโลกความเป็นจริง" กุลวดีเล่าถึงพัฒนาการด้านความคิดของเธอ
ระหว่างเรียนต่อทางด้านผังเมืองด้วยทุน POSTE-DIPLOMESTUDIO VILLES ORIENTALES ECOVE D'ARCHITECTURE VERSAILLES และทุน IFA(INSTITUT FRANCAIS D'ARCHITECTURE) ครูที่เป็นสถาปนิก นักวางผังซึ่งเก่งด้านผังอนุรักษ์เมืองเก่ามาก ก็ได้ชวนไปทำงานด้วยที่ออฟฟิศสตูดิโอชื่อ "ATEUERFRANCIS QUENARD ARCHITETE,URBANIST"
ประสบการณ์ครั้งนั้นได้สอนให้กุลวดีถึงการเป็นสถาปนิกผังเมืองที่ดี "การมองแต่ละอย่างไม่ควรมองเฉพาะในสิ่งที่เราทำอยู่แต่ควรมองล่วงเลยไปถึงสิ่งที่เกี่ยวพันไม่ว่าจะเป็นวัตถุหรือจิตใจเพราะจริง ๆแล้วสถาปัตยกรรมก็สะท้อนถึงวิถีชีวิตคนตลอดมา"
นอกจากนี้กุลวดียังได้ใช้ความรู้ความสามารถในโครงการเมืองทองธานีโดยเป็นผู้บริหารประสานงานฝ่ายคนไทยกับบริษัทบวิคแห่งประเทศฝรั่งเศสซึ่งรับผิดชอบด้านก่อสร้างคอนโดมิเนียมอุตสาหกรรมที่จะสร้างเสร็จราวเดือนเมษายนปีหน้า
"นึกไม่ถึงว่าจะต้องมาพูดภาษาฝรั่งเศสในเมืองไทย เพราะตอนที่อยู่ฮ่องกงแทบไม่ได้พูดเลย" มันเป็นความบังเอิญที่กุลวดีเล่าให้ฟัง
ในความเห็นของกุลวดี องค์ประกอบในโครงการเมืองทองธานีมีฟังก์ชั่น 3 อย่างคือ หนึ่ง-จะต้องมีการค้าขายเพื่อให้เกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจในเมือง สอง-จะต้องมีแหล่งงานเช่นคอนโดอุตสาหกรรมขนาดเบาเช่นอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเกิดจากการเคลื่อนย้ายการลงทุนจากฮ่องกง และสาม-มีสวนพักผ่อนซึ่งมีทะเลสาบขนาดใหญ่เป็นตัวสร้างบรรยากาศ พร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวก อื่น ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าติวานนท์พลาซ่า โรงเรียน โรงพยาบาล ธนาคารและสนามกีฬา
ความสำเร็จเป็นไปได้ดีในสามโครงการแรกที่ขึ้นในเมืองทองธานีนับตั้งแต่งานใหญ่ชิ้นแรกคอนโดมิเนียมอุตสาหกรรมที่เฟสแรก กำลังก่อสร้าง 8 อาคาร มูลค่าอาคารละพันล้าน สอง-คอนโดมิเนียม "เลควิว" ที่พักอาศัยหรูมีระดับริมทะเลสาบซึ่งมีราคาตั้งแต่ 1.4-3.5 ล้าน 27 อาคาร และสาม- "วิลล่าออฟฟิศ" ไม่ต่ำกว่า 100 อาคาร ๆ ละ 35 ล้านบาท
ส่วนปีนี้โครงการ "ครูเมืองทอง" ซึ่งเป็นปอปปูล่าคอนโดมิเนียมไม่ต่ำกว่า 16,000 ยูนิต ๆ ละ 3 แสนบาทและโครงการข้าราชการซึ่งจะสร้างอีก 25,000 ยูนิต รวมกับการเปิดขายทั่วไปอีกคาดว่าไม่ต่ำกว่า 60,000 ยูนิต
มูลค่าทั้ง 6 โครงการข้างต้นไม่ต่ำกว่า 27,000 ล้านบาท และตามแผนใหญ่ถ้าทำจนครบ 30 โครงการจะมีมูลค่าโครงการทั้งหมด 58,000 ล้านบาท บนพื้นที่ก่อสร้าง 5,360,000 ตารางเมตร
"โครงการเมืองทองธานีนี้คุณอนันต์กะไว้ว่าอย่างช้าที่สุด 10-12 ปี ซึ่งดิฉันยังไม่แน่ว่าจะอยู่ถึงเวลานั้นหรือเปล่า แต่ตอนนี้ก็ยังสนุกอยู่" กุลวดีเล่าให้ฟังอย่างติดตลก
ปัจจุบันบริษัท แอคเซียที่กุลวดีบริหารอยู่ มีโครงการต่าง ๆ ของเมืองทองธานีทำจนล้นมือ ซึ่งตามแผนการรับสถาปนิกเต็มอัตราจะต้องเป็น 40 คนจากปัจจุบันที่มีอยู่ 20 กว่าคน โดยมีงานทำผังเมือง ออกแบบสถาปัตยกรรมตกแต่งภายในตามจุดขายต่าง ๆ ในโครงการเช่นที่โครงการเลควิว และผลงาน ชิ้นล่าสุดที่ลาดพร้าวซอย 142 ซึ่งยังไม่เปิดตัวเป็นทางการ
"บริษัทแอคเซียไม่ใช่บริษัทในเครือบางกอกแลนด์ แต่คุณอนันต์เป็นคนที่มีบุญคุณมาก เพราะจริง ๆ แล้วดิฉันอาจจะไม่ได้กลับมาเมืองไทยหรือตั้งออฟฟิศที่นี่ถ้าหากไม่ได้ทำงานกับแก" กุลวดีกล่าวถึงที่มาของแอคเซีย ซึ่งเป็นบริษัทสถาปนิกออกแบบที่มีทุนจดทะเบียนหนึ่งล้านบาท และมีเครือข่ายสำนักงานที่กรุงเทพฯ ฮ่องกงและเมลเบอร์น ประเทศออสเตรเลีย
ทุกวันนี้กุลวดีทุ่มเทให้กับการทำงานอย่างมาก แต่มันก็คือความสุขที่แต่ละวันเธอได้เพียรทำให้มันสมบูรณ์ ไม่มีพันธนาการชีวิตโสดอิสระ แม้แต่บ้านเธอก็ยังเช่าอพาร์ตเมนท์ ดูราวกับว่าชีวิตเธอไร้ห่วงไร้เงา
"ชีวิตเป็นเรื่องอะไรบางอย่างที่เราต้องการ ดิฉันไม่คิดว่าเงินสำคัญ มันเป็นเพียงสัญลักษณ์แห่งสถานภาพที่วัดเป็นความสำเร็จในชีวิตการงาน ต้องเป็นผู้บริหารมีเงินเดือนสูง ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ทำเพื่อแม่ สำหรับตัวเองไม่ต้องการ ไม่อยากสะสมทรัพย์สมบัติ อยากจะย้ายไปไหนก็หิ้วกระเป๋าใบเดียวไปเลย มีชีวิตอยู่อย่างนี้มาแปดปีแล้ว" กุลวดีทิ้งท้ายถึงความหมายแห่งชีวิตที่เธอเลือก
สถาปนิกนักวางผังเมืองวัย 34 อย่างกุลวดียังต้องการชีวิตและการงานที่ท้าทายพิสูจน์ความสามารถบนเส้นทางก้าวไกลนี้ และโครงการเมืองทองธานีเป็นงานใหญ่ที่สุดที่ทำให้วันนี้ของเธอเต็มสมบูรณ์
|