Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กุมภาพันธ์ 2534








 
นิตยสารผู้จัดการ กุมภาพันธ์ 2534
ภัทรประสิทธิ์ยกธงขาว             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารเอเชีย

   
search resources

ธนาคารเอเชีย, บมจ.
ภัทรประสิทธิ์
Financing
เจ้าพระยา, บงล.




การลาออกจากกรรมการของยศ เอื้อชูเกียรติ เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2540 ถือว่า ธนาคารเอเชีย ยุคที่ตระกูลภัทรประสิทธิ์ ถือหุ้นข้างมากเด็ดขาดได้เริ่มต้นขึ้น โดยมีความหมายว่าภัทรประสิทธิ์คือ ตระกูล ธุรกิจภูธร รายล่าสุด ที่เข้ามาโลดโผนวงใน ธุรกิจการเงินระดับชาติอย่างแท้จริง โดยไม่คาดคิดความยิ่งใหญ่นั้น ผันเปลี่ยนไปในช่วงเวลาเพียงไม่ถึง 1 ปี

ภัทรประสิทธิ์ ดำเนินธุรกิจ จากประสบความสำเร็จจากฐานการค้าสุราในภาคเหนือค่อย ๆ คืบคลาน เข้าสู่กรุงเทพฯ ในฐานะผู้ร่วมในกิจการต่าง ๆ โดยมีเป้าหมายเน้นไปที่ธุรกิจการเงินอย่างเด่นชัดตั้งแต่ปี 2535 ในยุคที่ตลาดเงินเปิดกว้างอย่างเต็มที่

พร้อมๆ กับความพยายามเข้าครอบครองหุ้น ให้มากที่สุดในธนาคารเอเชีย ตระกูลนี้ ก็ปลุกบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เล็ก ๆ ที่มีสำนักงานอยู่ที่จังหวัดนครสวรรค์ ให้กลายเป็น ธุรกิจสมัยใหม่ ท่ามกลางความรุ่งโรจน์อย่างฉาบฉวยของธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ไทย

บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เจ้าพระยา เชิญ ชาญชัย ตุลเสถียร มือการเงินในวงการเข้ามาฟื้นฟูกิจการ ดำเนินไปอย่างโลดโผน และดูเหมือนประสบความสำเร็จ ในเบื้องแรก สามารถเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้น ให้มีหลักฐานมากขึ้น เมื่อธนาคารนครหลวงไทย เข้าถือหุ้น 10% ในปี 2535 และยามาอิชิ โบรกเกอร์แห่งญี่ปุ่น ถือหุ้น 5% ในปี 2518

จากนั้น ก็ทุ่มการลงทุนอย่างไม่อั้น ในการขยายสาขาทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัด ที่สำคัญก็คือความพยายามอย่างสูง ในการชิงเก้าอี้โบรกเกอร์ตลาดหุ้นรายใหม่ ในปลายปี 2538 โดยใช้เงินกว่า 300 ล้านบาท

การดำเนินธุรกิจค้าหุ้นเชิงรุกอย่างโลดโผน ภายใต้สถานการณ์ที่เริ่มมีเค้าขาลงอย่างชัดเจน

ในปี 2539 คือปีที่ตระกูลภัทรประสิทธิ์มั่นใจมากเกินไป

นอกจาการลงทุนขยายกิจการในบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เจ้าพระยาแล้ว พวกเขายังกว้านซื้อหุ้นธนาคารเอเชีย จากทั้งเจริญ สิริวัฒนภักดี พันธิมตรในวงการสุรา ที่ซุ่มถือหุ้นในธนาคารหลายแห่ง รวมทั้งธนาคารเอเชียด้วยการเพิ่มทุนของธนาคารเอเชีย ในช่วงนั้น จำนวน 50 ล้านหุ้น โดยให้ บงล เจ้าพระยา เข้าประมูลรับประกันการขายหุ้นในราคาที่สูงได้สำเร็จ ทำให้พวกเขาสามารถครอบครองหุ้นเพิ่มทุนครั้งนั้นทั้งหมด โดยใช้เงินไปเกือบ ๆ 3000 ล้านบาท

ในปลายปี 2539 ตระกูลภัทรประสิทธิ์ บรรลุเป้าหมายในการครอบครองหุ้นธนาคารเอเชียอย่างเด็ดขาด พร้อมกับการจัดการเปลี่ยนโครงสร้างอำนาจการบริหารธนาคารในต้นปี 2540 แต่จากนั้นไม่นาน สถานการณ์ทางเศรษฐกิจไทยก็เลวร้ายลงอย่างรวดเร็ว

การเปลี่ยนระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา การเข้ามาของไอเอ็มเอฟ พร้อมกับการปิดกิจการสถาบันการเงินรวมกันกว่า 50 แห่งในเดือนสิงหาคม ปี 2540 ซึ่งบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เจ้าพระยารวมอยู่ด้วย

ยังไม่จบแค่นั้น หุ้นส่วนสำคัญของ บงล. เจ้าพระยา -ยามาอิชิ แห่งญี่ปุ่น มีปัญหากิจการอย่างรุนแรงต้องปิดกิจการ ทำให้แผนการฟื้นฟูเพื่อหวังจะให้ธุรกิจการเงินแห่งนี้เปิดขึ้นมาอีกครั้งต้องดับวูบไป

การปิดตัวอย่างสมบูรณ์ของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เจ้าพระยา ในต้นเดือน ธันวาคม 2540 เป็นสัญญาณว่า ภาระนั้น หนักเกินกว่าที่ตระกูลภัทรประสิทธิ์ จะแบกรับได้

ธุรกิจในกลุ่มภัทรประสิทธิ์ ที่เหลืออยู่ไม่ว่าจะเป็นค้าปลีก ๖ ที่สำคัญคือหุ้นส่วนในห้างเดอะมอลล์๗ อุตสาหกรรม ๖ โรงงานผลิตเซรามิค หรืออสังหาริมทรัพย์ ก็ต้องประสบปัญหาทางการเงินไม่น้อยเช่นกัน ซึ่งเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมๆ กับแรงกดดันต้องเพิ่มทุนธนาคารเอเชีย ครั้งใหญ่เริ่มต้นขึ้น

อันเป็นที่มาของการยอมให้ธนาคารจากเนเธอร์แลนด์ เข้ามาถือหุ้น 75% ซึ่งเป็นโมเดลการเข้าถือหุ้นธนาคารไทยของต่างชาติ ที่น่าศึกษาอย่างยิ่ง

หนึ่ง-ธนาคารเอบีเอ็นแอมโร เข้าถือหุ้นซึ่งต้องจดทะเบียนตามกฎหมายกระทรวงพาณิชย์ในจำนวนหุ้นมีสัดส่วน 75% โดยจ่ายราคาหุ้นเพียง 5.27 บาทต่อหุ้นเท่านั้น ไม่ว่าจะเรียกกันว่าเป็นดาวน์หรืออย่างไร แต่จากนี้ธนาคารต่างชาติแห่งนี้ ย่อมใช้สิทธิ์ผู้ถือใหญ่อย่างเด็ดขาดตามกฏหมายไทย

สอง-การจ่ายเงินก้อนแรก เพื่อให้มีกองทุนเพียงพอตามมาตรฐานใหม่ของแบงก์ชาตินั้น เข้าใจว่าผู้ซื้อและผู้ขาย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งย่อมจะเป็นการดีสำหรับธนาคารของดัชต์แห่งนี้ ที่มีการจ่ายเงินก้อนนี้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนในวันข้างหน้า

สาม- เมื่อเขามีอำนาจผู้ถือหุ้นใหญ่เบ็ดเสร็จอยู่ในมือ การทำตรวจสอบสินทรัพย์ การกำหนดมาตรฐานทางบัญชี ย่อมจะเข้มงวดกว่าปกติ ซึ่งก็เป็นเรื่องดี ที่ธนาคารเอเชียจะมีมาตรฐานนี้สูงกว่าธนาคารไทยทั่วไป เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานในการบริหารให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม สินทรัพย์สุทธิ ที่จะกำหนดราคาซื้อขายจริงในอีกปีกว่า ๆ นั้น ย่อมจะออกมาที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นต่างชาติรายนี้ อย่างมิต้องสงสัย

ธนาคารเอเชียยุคใหม่ จึงมีความหมายสองนัย มิติแรก จะกลายเป็นธนาคารในไทยที่มีมาตรฐานการเปิดเผยข้อมูล มาตรฐานทางบัญชีที่เข้มข้น ตามที่ธนาคารชาติ ไอเอ็มเอฟ ต้องการ โดยไม่สามารถ "กลบตัวเลข" อย่างที่ทำ ๆ กันมาอีกต่อไป

แต่อีกมิติหนึ่งผู้ถือหุ้นเดิม โดยเฉพาะตระกูลภัทรประสิทธิ์ก็จะได้รับบทเรียนที่มีค่าในการซื้อขายหุ้นอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งพวกเขาเปลี่ยนสภาพจากผู้ซื้อเป็นผู้ขายภายใต้กระบวนการที่อยู่นอกเหนืออำนาจทางการเมือง และอิทธิพลในประเทศไทย

ซึ่งเป็นตระกูลแรกที่ได้บทเรียนที่ว่านั้นอย่างเสร็จสมบูรณ์ครบถ้วน


27 มีนาคม 2541   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us