|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ กุมภาพันธ์ 2534
|
|
ผู้ชายวัย 53 ปี คนนี้ เคยมีชื่อเสียงโด่งดังอยู่ในวงการบันเทิง เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ในฐานะ นักจัดรายการวิทยุ โฆษก นักแต่งเพลง เจ้าของวงดนตรี และในความเป็นคู่ชีวิตของนักร้องลูกทุ่ง บุปผา สายชล ผู้ล่วงลับไปแล้ว
ตอนนั้น เขายังใช้ชื่อว่า ศรีไพร ใจพระ
ศรีไพร เปลี่ยนชื่อเป็นเก่งกาจ เมื่อปี 2530 "ชื่อศรีไพร เหมาะกับอาชีพบันเทิง ส่วนเก่งกาจถอดออกมาได้เป็นเลข 5 เป็นดาวพฤหัสซึ่งเป็นดาวครู เกี่ยวกับศาสตร์ต่าง ๆ เป็นชื่อที่ดี สำหรับการเป็นหมอดู" เจ้าตัวให้คำอธิบายว่าอย่างนี้ สำหรับการเปลี่ยนชื่อให้สอดคล้องกับอาชีพใหม่ -หมอดู ซึ่งว่าไปแล้วก็ไม่ใหม่ทีเดียว เพราะช่วงที่เขาเริ่มจัดรายการวิทยุ เมื่อปี 2504 นั้น ก็เริ่มดูหมอแล้ว เพียงแต่ความดังทางด้านดนตรีและภาพยนต์มาบดบังความสามารถในเรื่องนี้ลงไป
หลังจากการเลิกรากับบุปผา เมื่อปี 2517 เขาก็วางมือจากวงการบันเทิงหันมาทำธุรกิจส่วนตัว เท่าที่เปิดเผยคือบริษัทส่งคนงานไปทำงานในตะวันออกกลาง ขณะเดียวกันก็ทุ่มเทเวลาศึกษาค้นคว้าโหราศาสตร์อย่างมุ่นมั่น
เก่งกาจ จงใจพระ ในฐานะหมอดู อาจจะไม่โด่งดังในวงกว้างเท่าคนบันเทิงที่ชื่อ ศรีไพร ใจพระ เมื่อยี่สิบปีก่อน แต่ก็เป็นที่รับรู้กันในแวดวงของผู้ที่สนใจ ในเรื่องของดวงว่า เขาเป็นคนหนึ่ง ที่เข้าถึงศาสตร์ นี้อย่างรู้แจ้งเห็นจริง
อย่างน้อย นักการเมืองใหญ่ ๆ โต ๆ ในปัจจุบัน หลาย ๆ คน ก็ใช้บริการที่ปรึกษาทางจิตวิญญาณ จากเขามาแล้ว รายที่โด่งดังที่สุด เมื่อเร็ว ๆ นี้ เห็นจะเป็นกรณีการ "ย้ายช้าง" ออกจากกระทรวงการคลังในทันทีที่เข้ารับตำแหน่งเป็นวันแรกของเจ้ากระทรวง บรรหาร ศิลปอาชา
เบื้องหลังของการแก้เคล็ดมีที่มาจากการให้คำปรึกษาของเก่งกาจหลายปีก่อนหน้านี้แล้วว่า ช้างนั้นไม่ถูกกับม้า คนแซ่เบ๊ อย่างบรรหารนั้น ไปเจอช้างที่ไหน ไม่ว่าช้างจริง ช้างปลอม ควรจะต้องหลีกไปให้ห่างเพื่ออนาคตของตนเอง
"อาชาเจอช้าง ช้างก็กระทืบเอานะสิ" คำทำนายทายทักเช่นนี้ ของเก่งกาจ ติดหูบรรหารมาโดยตลอด ถ้ามีบรรหาร ต้องไม่มีช้าง
ใช่แต่คนแซ่แบ๊เท่านั้นจะเป็นโรคแพ้ช้าง พลเอกชาติชาย ชุณะหะวัณ ก็ไม่ถูกกับช้าง ไม่ใช่เพราะเป็นทหารม้าเก่าแต่เพราะเป็นคนราศรีตุลย์ ที่ไม่ถูกโฉลกกับช้าง
"ปี 2529 ผมแนะนำให้ท่านเอาช้างไม้ที่ลูกน้องเอามาให้เพราะเห็นว่า ชื่อ นามสกุล ท่านมีอยู่แล้ว สาม ช. ออกไปจากบ้าน ช้างมันอยู่คู่บ้านคู่เมือง ท่านราศรีตุลย์ ไม่ถูกกับช้าง" เก่งกาจบอกว่า ด้วยการแก้เคล็ดแบบนี้ ทำให้คำทำนายของเขา ตั้งแต่ปี 2520 ว่า พลเอกชาติชาย จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีกลายเป็นความจริงขึ้นมาในที่สุด
ภูมิหลังที่เป็นนักจัดรายการวิทยุมาถึง 30 ปี ทำให้เก่งกาจกลายเป็นนักสื่อสารไปโดยสัญชาตญาน และการจัดรายการข่าว รายการตอบปัญหาทางวิทยุ ทำให้เขาต้องติดตามข่าวสารบ้านเมือง ค้นคว้าข้อมูล เพื่อนำมาพูดในรายการ สองอย่างนี้ทำให้เขาเป็นคนทันสมัย รอบรู้ และมีวิธีการสื่อสารที่เข้าถึงกลุ่มผู้ฟัง ตัวอย่างปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่เขายกขึ้นมาประกอบหลักโหราศาสตร์นั้น ทำให้คำทำนายทายทักของเขามีน้ำหนักยิ่งขึ้น
เก่งกาจจึงไม่ใช่หมอดูธรรมดา ๆ แต่เป็นหมอดูที่รู้จักประยุกต์เอาโหราศาสตร์ มาใช้กับความเป็นไปในสังคมสมัยใหม่ได้อย่างดี บริษัทรีแล็กซ์ เฮ้าส์ ของเขาคือสำนักหมอดูทางธุรกิจให้คำปรึกษา แก้ไขปัญหาทางธุรกิจด้วยหลักโหราศาสตร์ หรือจะมองอีกแง่มุมหนึ่ง รีแล็กซ์เฮ้าส์ ก็คือ บริษัทที่ปรึกษาการบริหารที่อยู่นอกเหนือมิติการจัดการทางธุรกิจ
โลกธุรกิจวันนี้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ภายใต้ภาพพจน์ความทันสมัยนั้น ผู้บริหารขององค์กรหลาย ๆ แห่ง ก็ยังต้องพึ่งพาทิศทางของดวงดาวมากำหนดทิศทางธุรกิจ เช่นเดียวกับราชสำนักในอดีตที่มีโหรหลวงวางฤกษ์ผานาทีสำหรับการรบทัพจับศึกองค์กรใหญ่ ๆ หลายแห่งนั้น ก็ต้องอาศัยหมอดูประจำบริษัทคอยให้คำปรึกษาควบคู่ไปกับการใช้หลักบริหารสมัยใหม่ เพียงแต่ไม่ค่อยจะเปิดเผยกัน เพราะอาจจะกระเทือนไปถึงภาพพจน์ของมืออาชีพ
โหราศาสตร์ไม่เหมือนวิทยาศาสตร์ ที่สามารถยืนยันความเป็นได้ด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ในทันที สิ่งเดียวที่จะพิสูจน์ได้คือกาลเวลา โดยอาศัยสถิติมากำหนดความน่าจะเป็น
"ถ้ามันเป็นเรื่องเหลวไหล ศาสตร์นี้คงไม่มีอายุยืนยาวได้ถึงสี่ห้าพันปี มีอยู่จริง อยู่ที่ว่า คนเรียนเรียนถึงหรือเปล่า เก่งกาจยืนยัน และเชื่อว่าตัวเองนั้นรู้จริงจากประสบการณ์ การลองผิดลองถูกมาเป็นเวลาหลาย ๆ ปี จนกล้าที่จะให้คำปรึกษาอย่างเป็นกิจลักษณะ
ในความเห็นของเก่งกาจมีองค์ประกอบอยู่สี่ประการ ที่จะชี้ขาดความสำเร็จของธุรกิจคือ ดวงชะตา ของเจ้าของ ลักษณะท่าทางหรือโหงวเฮ้ง ชื่อของธุรกิจ และสถานที่ทำเลที่ตั้งของธุรกิจนั้น ๆ
"ทั้งสี่อย่างนี้สำคัญเท่ากันหมด ผมให้อย่างละ 25% เก่งกาจ พูดถึงน้ำหนักของแต่ละองค์ประกอบ"
สองอย่างแรกนั้นเป็นเรื่องที่รู้ ๆ กันว่าเป็นพื้นฐานสำคัญของโหราศาสตร์ แต่เรื่องชื่อกิจการ และสถานที่ตั้งเก่งกาจยืนยันว่า เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน
"ดวงดีมันแค่เสมอตัว ถ้าชื่อไม่ดี ที่อยู่ไม่ดี ก็หายไปแล้ว 50" เขากล่าว
ยกตัวอย่างคำว่า สยาม เก่งกาจ ถอดออกมาเป็นตัวเลขได้ เลข 7 คือดาวเสาร์ 8 คือดาวราหู ซึ่งทั้งคู่เป็นดาวที่ร้าย เลขต่อไปนี้คือ 1 และ 5 คือดาวอาทิตย์ กับดาวพฤหัส ซึ่งเป็นดาวดี แต่ไปอยู่ข้างหลังเสีย
" ขึ้นต้นดี แต่ทำไปๆ ก็เจ็งเกิดจากดาวศุภเคราะห์ คือดาวให้คุณไปอยู่ข้างหลังดาวบาปเคราะห์ คือดาวที่ทำลาย" เก่งกาจ สรุปสาเหตุแห่งการเจ๊งของกิจการที่ใช้ชื่อว่าสยาม นับตั้งแต่แอร์สยาม ธนาคารสยาม สยามเอีกซ์เชนจ์ ไปจนถึงสนามมวยสยามที่อ้อมน้อยดำรง พุฒตาล
ในเรื่องทำเลที่ตั้ง นอกเหนือจากลักษณะตัวอาคารที่ตั้งแล้ว ชื่อของสถานที่มีความสำคัญที่เก่งกาจหยิบเอาตัวอย่างจากธนาคารมาอธิบายได้อย่างพิศดาร นับตั้งแต่ธนาคารศรีนคร ซึ่งชื่อแปลว่าเมืองเอก สมัยก่อน อยู่ที่ราชวงศ์ ซึ่งหมายถึงที่อยู่ของกษัตริย์ ก็โตเอา ๆ แต่พอย้ายไปอยู่ที่สวนมะลิ กลับถดถอย ลงเช่นเดียวกับธนาคารมหานคร เพราะไปตั้งอยู่ในสวนไม่ถูกโฉลกกับชื่อของธนาคาร
"เหมือนเอาต้นมะขามมาปลูกในกระถางดอกไม้ พอโตขึ้นมาหน่อยก็โค่น เพราะกระถางมันเล็ก"
อีกตัวอย่างหนึ่ง คือธนาคารกสิกรไทย ซึ่งแปลว่าชาวนา สมัยที่ตั้งอยู่ถนนเสือป่า ไม่มีใครรู้จัก อธิบายได้ว่าเมือในป่ามีเสืออยู่แล้ว ชาวนาที่ไหนจะกล้าเข้าไปไถหว่าน แม้จะย้ายไปสีลม แล้วก็ไม่ดีขึ้น เพราะชาวนานั้นต้องอาศัยอยู่กับดิน ไม่ใช่ไปอยู่กับลม จนในภายหลัง ที่ทะลุขึ้นมาเป็น ธนาคารอันดับสองอย่างรวดเร็ว ก็เพราะย้ายไปอยู่สะพานควาย ก็เลยไถนาได้เต็มที่เลย
"อย่างธนาคารทหารไทย อยู่พญาไทโตเอาๆ ตอนนี้ จะย้ายไปอยู่หมอชิต ทหารที่ไหนไปหาหมอคือทหารที่ป่วย พิการ" เก่งกาจ บอกอย่างมั่นใจว่าจะคอยดูกันต่อไปกับอนาคตของธนาคารแห่งนี้ เมื่อย้ายที่ทำการไปอยู่ที่ข้างสถานี ขนส่งหมอชิต
เป็นการวิเคราะห์ที่ปรมาจารย์ทางธุรกิจที่ไหน ๆ ก็ต้องงงเป็นไก่ตาแตก แต่เจ้าของคำอธิบายยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการโมเม หาเรื่องเอาขนมจีนมาผสมน้ำยา หากแต่มาจากการสังเกต ศึกษา วิเคราะห์ อย่างจริงจัง
ใครอยากจะพิสูจน์ ก็คงต้องไปทดลองกับการบริการของรีแล็กซ์ ์เฮ้าส์ เอาเอง หรือถ้าปัญหายังไม่ร้ายแรง จนมองไม่เห็นออกอย่างอื่นแล้ว จะรอดูอนาคตในธุรกิจอื่น ๆ ของเก่งกาจ ไปก่อนก็ได้
เก่งกาจ มีธุรกิจ ที่ใช้ชื่อว่า บ้านคลายเคลียด เป็นสโมสรสุขภาพ อยู่ที่ปากเกร็ดในเนื้อที่ 5 ไร่ เป็นสถานออกกำลังกาย ให้คำปรึกษาในเรื่อสุขภาพ และที่ขาดเสียไม่ได้ก็คือคำปรึกษาทางโหราศาสตร์ จะเปิดดำเนินการในเดือนกุมภาพันธ์นี้
อีกธุรกิจหนึ่งคือ ธุรกิจบ้านจัดสรร เนื้อที่ 500 ไร่ ที่อำเภอ บึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ชื่อหมู่บ้านชะลอความแก่ ขายให้กับผู้ปลดเกษียณแล้วไปอยู่ด้วยกัน
|
|
|
|
|