บล.ยูไนเต็ดดึงนักลงทุนรายใหญ่ "หมอยรรยงค์-เสี่ยปู่" เสียบแทนกลุ่มทรีนีตี้
ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งเป็น 5% ขณะที่การขาย หุ้น 15 ล้านหุ้นให้นักลงทุน
"เฉพาะเจาะจง มีทั้งตัวแทน
พันธมิตรของตระกูลว่องกุศลกิจและเจ้าของซีฮอร์ส จากสงขลา ดันหุ้น US พุ่ง
นายยรรงยง พันธุ์วงศ์กล่อม นักลงทุนรายใหญ่ ได้ออกมายืนยันว่า ตนและนายสมพงษ์
คดีดำรงกุลหรือเสี่ยปู่
ได้เข้าเป็นพันธมิตรกับบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูไนเต็ด จำกัด (มหาชน) หรือ
US จริง โดยเข้าถือหุ้นประมาณ 4% และนายสมพงษ์ถือหุ้นอีก 4% เศษ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ให้ความเห็น
ชอบที่จะเข้ามาถือหุ้นเรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์หน้า
"ผมมีความสนิมกับผู้บริหาร บล.ยูไนเต็ดมาก่อน รวมถึงนายชนินทร์ ว่องกุศลกิจซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
จึงได้ชักชวนให้เข้ามาร่วมถือหุ้น ซึ่งในอดีตผมก็เคยเปิดพอร์ตที่ บล. ยูไนเต็ด
ดังนั้นจึงรู้จักกันมาก่อน
และการถือหุ้นครั้งนี้จะไม่เข้าไปร่วมบริหารแต่อย่างใด เพียงแต่เป็นผู้ถือหุ้นเท่านั้น"
ทั้งนี้ ตนและนายสมพงษ์ก็จะย้ายพอร์ตการซื้อขายหุ้นไปยังบล. ยูไนเต็ด ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้บล.ยูไนเต็ด
มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นไม่น้อย กว่า 5% สำหรับแผนที่จะเข้าไปซื้อบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ
คงจะยกเลิกไป ทั้งในส่วนของบล.ไอบี ที่จะขอเข้าร่วม ถือหุ้นกับ บล.แอ๊ดคินซันนั้น
ทางบล.แอ๊ดคินซันก็แสดงความต้องการที่จะถือหุ้นทั้งหมด ขณะที่ก่อนหน้านี้ก็ได้ไปประมูลบล.ธนสยาม
ของธนาคารไทยธนาคาร ซึ่งปรากฏว่าประมูลไม่ได้
จึงทำให้ปัจจุบันนี้ไม่เหลือบริษัทหลักทรัพย์ที่จะนำออกมาขายแต่อย่างใด
แหล่งข่าวจากผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ยูไนเต็ดเปิดเผยว่า ปัจจุบันนี้บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ
1% เศษ
ซึ่งถ้าเป็นไปตามกระแสข่าวว่าจะมีกลุ่มพันธมิตรเข้ามามีความเป็นไปได้ที่จะทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับ
5% โดยฐานลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนรายย่อย
ซึ่งบริษัทมีสาขาบริการค้าหลักทรัพย์อยู่ 3 แห่งคือ ที่นครปฐม รังสิตและนครสวรรค์
ขณะนี้ยังไม่ทราบเรื่องกลุ่มใหม่ที่เข้ามาถือหุ้น แต่ถ้าเป็นไปตามข่าวก็คงทำให้บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น
โดยส่วนแบ่งการตลาดคงจะใกล้เคียงกับแผนเดิมที่จะควบรวมกิจการกับบล.ทรีนิตี้
ซึ่งบริษัทตั้งเป้าว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 5% เช่นกัน ดึงพันธมิตรหนุน
แหล่งข่าวจากวงการหลักทรัพย์
กล่าวว่า หุ้นที่ได้มีการจัดสรรให้กับนักลงทุนประเภทเฉพาะเจาะจงทั้ง 5 รายนั้นคิดเป็นสัดส่วนประมาณ
9% ของ ทุนจดทะเบียนใหม่
และนักลงทุนรายใหญ่เหล่านี้ก็ล้วนแล้วแต่มีความสัมพันธ์กับตระกูลว่องกุศลกิจของกลุ่มบ้านปู
อย่างเช่น นายพิลาศ พันธโกศล เป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัท ลานนาฯ ซึ่งกลุ่มบ้านปูถือหุ้นอยู่
10.07% คนในตระกูลมหัทธนาดุลย์ จากบริษัทฮอร์ส จำกัด(มหาชน) มีฐานธุรกิจที่สงขลา
ส่วนที่เหลือคาดกันว่าน่าจะเป็นผู้ที่ทำหน้าที่ถือหุ้นแทนนายยรรยงค์ และนายสมพงศ์
เชื่อว่ากลุ่มนักลงทุนรายใหญ่เหล่านี้ที่มีการซื้อขายค่อนข้างสูง น่าจะทำให้
US ไม่จำเป็นที่ต้องทำตามเงื่อนไขหรือข้อตกลงร่วมกับทรีนีตี้มากนัก จนในที่สุดก็ต้องยกเลิกแผนการควบรวมกิจการกับทรีนีตี้
เพราะเข้ามาถือหุ้นใน US ไม่มากนัก และอำนาจการบริหารยังเป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่
ซึ่งแตกต่างจากการรวมกิจการกับทรีนีตี้ที่มีฐานเงินทุนใกล้เคียงกัน และด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่สูงกว่า
จึงทำให้อำนาจการต่อรองของกลุ่มทรีนีตี้มีมากกว่า "กิมเอ็ง-ซิมิโก้"กระทบ
แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์เปิดเผยว่า คาดว่าอันดับโบรกเกอร์ของไทยมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงไป
หลังจากที่บริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งพยายามที่จะหาทางเสริมสร้างความแข็งแกร่ง
โดยมุ่งเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดให้สูงขึ้น
ประกอบกับนโยบายของตลาดหลักทรัพย์ที่พยายามผลักดัน ซับโบรกเกอร์ให้ขึ้นมาเป็นโบรกเกอร์
ดังนั้นแนวโน้มอันดับโบรกเกอร์มีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงได้ สำหรับโบรกเกอร์อันดับต้นๆ
ที่จะได้รับผลกระทบ เช่น บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)และบล.ซีมิโก้
ที่ได้รับผลกระทบจากกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่คือกลุ่มนายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุลหรือเสี่ยปู่และนายยรรยงพันธุ์วงศ์กล่อม
ที่จะย้ายพอร์ตไปซื้อขายยังบล.ยูไนเต็ดแทน นอกจากนี้บล.เคจีไอและบล.พัฒนสิน
อาจจะได้รับผลกระทบเช่นกัน เนื่องจากนายสมพงษ์และนายยรรยงจะเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นในบล.ยูไนเต็ด
ส่วนโบรกเกอร์อื่นอย่างเช่น บล.เจ.เอฟ. ธนาคมก็จะได้รับผลกระทบจากการที่
บล.บัวหลวงยกระดับจากซับโบรกเกอร์ขึ้นมาเป็นโบรกเกอร์ ดังนั้นจึงทำให้คำสั่งซื้อขายที่
บล.บัวหลวงส่งให้ก็จะหายไป
ทั้งนี้บริษัทหลักทรัพย์ที่น่าจับตามองคือบล. แอ๊ดคินซันที่ได้ไปซื้อบล.อินโดสุเอซ
ดับบลิวไอคาร์ (ประเทศไทย) และเปลี่ยนชื่อเป็น บล.ไอบี ซึ่งจะเป็นทำให้ได้ฐานหลักทรัพย์ของบล.ไอบีเพิ่มขึ้น
สำหรับวานนี้(16 พ.ค.)ราคาหุ้น US มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 400.97 ล้านบาท
โดยมีการไล่ราคาในช่วงเปิดตลาดภาคบ่าย ดันราคาปิดที่ 17.20 บาท เพิ่มขึ้น
1.60 บาท หรือเพิ่มขึ้น 10.25%