ความจริง เรื่องนี้ไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของใครต่อใครคนหนึ่ง แต่อาจถือเป็นเรื่องสามัญธรรมดาที่บังเอิญเกิดมีคนชื่อและนามสกุลเหมือนกัน โดยที่ไม่รู้จักกัน หรือเห็นหน้าค่าตากันมาก่อน อย่างเช่นกรณีคนชื่อ "จินตนา สุขสถิตย์"

คนหนึ่งเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันทั่วไปในยุคสมัยหนึ่ง หรือแม้กระทั่งถึงยุคปัจจุบัน ก็ยังมีคนกล่าวขวัญกันอยู่

ส่วนอีกคนหนึ่ง ก็มีชื่อเสียง โด่งดังไม่เแพ้กันโดยเฉพาะในวงการค้าหลักทรัพย์ โดยมีตำแหน่งในปัจจุบัน เป็นผู้อำนวยการฝ่ายการค้าหลักทรัพย์ของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ นิธิภัทร จำกัด

ความบังเอิญไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะแต่ชื่อเท่านั้น เมื่อปรากฏว่ามีชื่อจินตนา สุขสถิตย์ ในนามลูกค้า ของบริษัทหลักทรัพย์ยูเนี่ยน จำกัด พร้อมทั้งการปรากฏกายของนักร้องที่ชื่อจินตนา 2-3 ครั้งในห้องค้าหลักทรัพย์ของบริษัท

ทั้ง 2 ต่างให้ความสนใจกับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เหมือน ๆ กัน

"รู้แต่เพียงว่าเราเป็นญาติกัน แต่เป็นญาติห่าง ๆ ที่ไม่ได้ไปมาหาสู่กัน เหมือนกับครอบครัวสมัยก่อน ที่เป็นครอบครัวใหญ่ พอมาถึงรุ่นลูกรุ่นหลานบางคนจึงไม่รู้จักกัน คุณพ่อของคุณจินตนา( นักร้อง) มีศักดิ์เป็นปู่ของดิฉัน "จินตนา (โบรกเกอร์)อธิบายให้ "ผู้จัดการ" ฟัง

"ต้นตระกูล สุขสถิตย์ มาจากพระยาวิสยาภิผล หรือชีพ สุขสถิตย์ ซึ่งพื้นเพเดิมเป็นคนจังหวัดตราด ต่อมาภายหลังได้ย้ายเข้ามาตั้งรกรากอยู่ในกรุงเทพฯ ที่ตรอกพระสวัสดิ์ บางขุนพรหม และรับราชการเป็นเจ้ากรมสรรพกรในสมัยนั้น ส่วนนามสกุลสุขสถิตย์ เป็นนามสกุลที่ได้รับพระราชทานมาจากรัชกาลที่ 6 ปู่แท้ ๆ ของดิฉัน "จินตนา (นักร้อง) เล่าถึงความเป็นมาของตระกูล สุขสถิตย์

จินตนา สุขสถิตย์( นักร้อง เกิดเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2482 ปัจจุบันอายุ 52 ปี ชื่อจินตนา เป็นชื่อที่พระยาวิสยาภิผล เป็นผู้ตั้งให้ ถึงแม้ว่าจะแต่งงานและเปลี่ยนชื่อสกุลเป็นปาลกะวงส์ ณ อยุธยา มาตั้งแต่ปี 2505 แล้วก็ตาม แต่ในการประกอบอาชีพ ก็ยังคงใช้ชื่อ นามสกลเดิมอยู่

จินตนา สุขสถิตย์ กระโดดเข้าสู่วงการเพลงหลังจบมัธยม 6 ด้วยการฝึกร้องเพลงอยู่กับวงดนตรีวายุบุตร ซึ่งสังกัดอยู่กับกองสลากกินแบ่งโดยมีเชาว์ คล่องแคล่ว เป็นหัวหน้าวง ในช่วงนี้ก็เรียนไปด้วย ซ้อมเพลงไปด้วย จนกระทั่งจบบัญชีจากโรงเรียนพาณิชย์พระนคร เมื่อปี 2503 จึงเข้าทำงานประจำ-เป็นนักร้องประจำวงวายุบุตร ในขณะเดียวกัน ก็ไปร้องเพลงตามไนท์คลับ ทำงานที่กองสลาก จนถึงปี 2508 จึงได้ลาออกและหลังจากนั้นไม่นานวงดนตรีวายุบุตร ก็ยุบไป

ห้องแอมบาสเดอร์ ของโรงแรมเอราวัณ เป็นที่แรกที่ร้องประจำ ต่อจากนั้นก็ย้ายอีกหลายแห่ง คือที่สีดาไนท์คลับ โรงแรมรัตนโกสินทร์ โลลดิต้า พาราไดซ์ ลิโด้ ซาวอย เซวิบองฯ

ชื่อจินตนา สุขสถิตย์ เริ่มเป็นที่รู้จักแพร่หลาย ประมาณปี 2505-2506 จากเพลง สักขีแม่ปิง ซึ่งร้องคู่กับชรินทร์ นันทนาคร และในปี 2508 จินตนา ก็ได้รับพระราชทาน แผ่นเสียงทองคำ แผ่นแรกจากการร้องเพลง "คิดจะปลูกต้นรัก"

นอกจากการยึดอาชีพร้องเพลงแล้ว ยังมีธุรกิจโรงพิมพ์เป็นของตนเองตั้งแต่ปี 2517 จนกระทั่งถึงปัจจุบัน

ความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นนั้น จินตนา เล่าให้ฟังว่า เริ่มมาจากญาติซึ่งทำงานในธนาคารแห่งหนึ่ง แนะนำให้ซื้อเมื่อหลายปีก่อน โดยเลือกซื้อหุ้นที่ดูแล้วมีความมั่นคงค่อนข้างสูง ดังนั้นหุ้นที่ซื้อทั้งหมดจึงเป็นหุ้นของธนาคาร เมื่อซื้อแล้วก็เก็บไว้เป็นการลงทุนระยะยาว ไม่ได้ซื้อมาแล้วขายไปแบบเก็งกำไร หุ้นธนาคารที่ซื้อไว้ ก็มีของธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ จนกระทั่งต้นปีที่แล้ว ตลาดหุ้นบูม จึงเกิดความสนใจและเฝ้าดูสถานการณ์ซื้อขายทางทีวีมาตลอด จนกระทั่งช่วงกลางปี คือในราวเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม จึงลองไปนั่งที่ห้องค้าของบริษัท หลักทรัพย์ยูเนี่ยน จำกัด 2-3 ครั้งโดยมีเพื่อนของสามีเข้าไปนั่งซื้อขายอยู่ก่อนหน้านั้น และตัดสินใจลงทุนซื้อหุ้น บริษัทในเครือของธนาคาร อย่างเช่น หุ้นของบงล.ร่วมเสริมกิจ บงล.นครหลวงเครดิต ในช่วงเวลาต่อมา ซึ่งเป็นช่วงก่อนหน้าที่จะเกิดวิกฤตในอ่าวเปอร์เซียเล็กน้อย "ยอมรับว่า เป็นการตัดสินใจลงทุนที่ผิดจังหวะจริง ๆ เพราะตั้งแต่นั้นมา ราคาก็ตกตลอด ดีที่ว่าลงทุนไปไม่มาก และก็ไม่ได้กู้ใครมา สามารถซื้อเก็บไว้ได้ในรายะยาว

ทางด้านจินตนา สุขสถิตย์ (โบรกเกอร์) เกิดเมือวันที่ 8 มิถุนายน 2494 ปัจจุบันอายุ 39 ปีชื่อจินตนา เป็นชื่อที่สมเด็จพระสังฆราชตั้งให้

หลังจบการศึกษาจากคณะบัญชีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี 2518 แล้วได้สมัคร เข้าไปทำงานในบริษัท บงล.ภัทรธนกิจ โดยไม่ได้คิดอะไร คิดแต่เพียงว่าได้งานอะไร ในที่สุดก็ได้เป็นพนักงานของบริษัท ในฝ่ายหาลูกค้า หลังจากนั้นก็เรียนรู้งานและไต่เต้าขึ้นมาอยู่ในตำแหน่ง หัวหน้าส่วนค้าหลักทรัพย์ จนปี 2530 จึงได้ลาออกมาอยู่บล.จ เจเอฟ จำกัด ในตำแหน่งผู้จัดการผ่ายค้าหลักทรัพย์ และในเดือนตุลาคม จึงได้ออกมาร่วมงานกับ บงล.นิธิภัทร จำกัด ในตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายค้าหลักทรัพย์

"งานที่ทำอยู่ มันเป็นงานที่ท้าทาย มันเป็น ธุรกิจที่ตื่นเต้น และตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา การลงทุนในตลาดหุ้น มันเหมือนการทำการค้า สิ่งที่เห็นผลได้เร็ว ไม่เหมือนการลงทุนทำการค้าอย่างอื่น ที่ต้องใช้เวลา ความท้าทายในตลาดหุ้น มันอยู่ตรงที่ว่า ต้องลงทุนให้ถูกจังหวะ ถูกเวลา" นั่นคือทัศนคติของจินตนา ที่มีต่อตลาดหุ้น

จินตนา ยอมรับว่าทุกวันนี้เธอลงทุนในตลาดหุ้นเหมือนกัน แต่เป็นการลงทุนในระยะยาว คือซื้อมาเก็บไว้ ไม่ได้ซื้อมาขายไปเพื่อเก็งกำไร

นั่นเป็นแนวความคิดของการลงทุนในตลาดหุ้นของทั้ง 2 จินตนา ที่บังเอิญออกมาคล้าย ๆ กันในขณะที่คนหนึ่ง มีประสบการณ์ยาวนานในธุรกิจนี้ กับอีกคนหนึ่ง ถ้าเปรียบเทียบ ก็เหมือนเด็กอ่อนหัดที่ยังต้องการผู้ฝึกสอน และถึงแม้ว่าจะเป็นญาติกัน แต่ทั้งคู่ก็ยอมรับว่าไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อนเลย ส่วนเรื่องชื่อและนามสกุล ที่เหมือนกันนั้น ทั้งคู่ยืนยันว่า ถึงมันจะดูแปลกสักนิด แต่มันก็เป็นเรื่องธรรมดา แม้ว่าทั้งคู่จะมีพื้นฐานชีวิต และความเป็นมาของอาชีพที่ต่างกันมาก