|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
อัลคาเทลเปิดตัวธุรกิจทรานสปอนเตชันในไทย ศึกษาพฤติกรรมการเดินทางวิเคราะห์โอกาสในการเปิดตลาดนี้ในไทยยังมีอีกมาก เสนอโซลูชัน ETCS ชูจุดขายประหยัดค่าบำรุงรักษาให้กับการรถไฟ ปีนี้หวัง 4-5 โครงการในไทยอย่างโครงการขยายการลงทุนของ BTS
นายกีย์ เซลเลียร์ รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจ กลุ่มอุตสาหกรรม อัลคาเทล เอเซีย แปซิฟิค กล่าวว่าในปีนี้อัลคาเทลประเทศไทย (Alcatel Thailand) จะหันมาให้ความสำคัญการทำธุรกิจในส่วน Vertical Markets มากยิ่งขึ้น จากเดิมที่ประเทศไทยมักรู้จักอัลคาเทลในตลาดเทเลคอมเป็นส่วนใหญ่ โดยการให้ความสำคัญกับตลาด Vertical Markets นี้ อัลคาเทลมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจด้านทรานสปอนเตชันเป็นหลัก
ตลาด Vertical Markets แยกออกเป็นหลายส่วน เช่น ทรานสปอนเตชัน ออยดฺ แอนด์ แก๊ส ระบบรักษาความปลอดภัยและระบบการสื่อสาร โดยตลาดนี้เป็นตลาดใหญ่ประมาณการตลาดนี้ในปี 2548 ว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 80,000 ล้านยูโร มีอัตราการเติบโตจากปีที่ผ่านมาประมาณ 7-8%
ผู้บริหารอัลคาเทลวิเคราะห์ว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีการใช้การเดินทางโดยรถไฟประมาณ 0.5% เดินทางบนถนนประมาณ 78%, เดินทางโดยเครื่องบิน 26% ที่เหลือเป็นอื่นๆ ผสมกัน แสดงให้เห็นได้ว่าโอกาสในการเสนอระบบเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพด้านการเดินทางในประเทศไทยยังมีโอกาสอีกมากโดยเฉพาะการเดินทางโดยรถไฟ
อัลคาเทลมีแนวคิดที่จะนำเสนอระบบ ETCS (European Train Control System) ซึ่งเป็นระบบควบคุมการเดินรถไฟด้วยการสื่อสารให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยมุ่งให้ความสำคัญทั้งความสะดวกสบายกับผู้ใช้ ความปลอดภัย และความคุ้มค่าในการลงทุน โดยชูจุดขายของโซลูชันที่ได้รับการยอมรับติดตั้งแล้วในประเทศจีน ให้กับรถไฟสาย 8 มูลค่า 22 ล้านยูโร และรถไฟสาย 9 มูลค่า 9.8 ล้านยูโร รวมทั้งติดตั้งให้กับแอร์พอร้ตที่ประเทศดูไบ
แม้ปัจจุบันการรถไฟยังไม่มีการเปิดประมูลโครงการก็ตามแต่มองโอกาสในการนำเสนอเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อให้การรถไฟพัฒนาศักยภาพการให้บริการ
“ปัจจุบันการเดินทางสายสุขุมวิทสามารถรองรับคนได้ประมาณ 10,000-15,000 คน แต่หากได้ระการนเดินทางที่ดีก็จะสามารถรองรับการเดินทางได้ถึง 70,000 คนต่อวัน”
นายกีย์ ชี้ให้เห็นจุดขายของระบบ ETCS ที่จะนำเสนอต่อการรถไฟคือ การอัปเกรดระบบได้ทันทีเมื่อมีการใช้งานมากยิ่งขึ้นด้วยการใช้ซอฟต์แวร์ในการบริหารระบบ แทนที่จะต้องเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ที่ชุด นอกจากนี้ ยังทำให้เกิดการประหยัดในเรื่องของค่าบำรุงรักษาได้มากกว่า 40% ทั้งสามารถบริหารการใช้งานขวนรถไฟได้ ให้ไม่ต้องเดินรถทั้งขบวนโดยไม่มีผู้โดยสานเต็มตู้เป็นการประหยัดต้นทุนในการดำเนินงาน
ส่วนต้นทุนการดำเนินขึ้นอยู่กับการรถไฟว่าต้องการปรับระบบงานแค่ไหนต้องการพัฒนาไปสู่เทคโนโลยีทันสมัยแบไม่ต้องมีพนักงานขับก็เข้าสู่ระบบเครือข่ายออโตเมติก ซึ่งเหมาะกับประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านรถไฟฟ้าใต้ดินก็ประสบปัญหาที่เกิดจากความผิดพลาดของพนักงาน
การเปิดตัวในธุรกิจทรานสปอนเตชันในเมืองไทยครั้งแรกของอัลคาเทลในครั้งนี้ ยังไม่มีเป้าหมายเป็นยอดขายที่ชัดเจนนัก แต่มีความหวังว่าจะได้ประมาณ 4-5 โครงการ เช่น การขยายการลงทุนของรถไฟฟ้ามหานครสายสีม่วง (สายใหม่) สีแดง และสีเขียว (ของBTS) รวมถึงส่วนต่อขยายของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่หวังให้เกิดการปรับเปลี่ยนระบบทั้งหมด
นายกีย์ มองว่า การเปิดตัวในประเทศไทยในช่วงนี้ ไม่น่าจะช้าเกินไป เพราะวิเคราะห์ว่าการได้เทคโนโลยีของซีเมนส์หรือเจ้าใดเจ้าหนึ่งเพียงเจ้าเดียวอาจทำให้เกิดการผูกขาย โดยเฉพาะเมื่อเกิดปัญหขาดแคลนอุปกรณ์ ทั้งการมีหลายซัปพลายเออร์ก็จะทำให้เกิดการแข่งขันกันได้
แม้อัลคาเทลจะใหม่สำหรับตลาดทรานสปอนเตชันในประเทศไทย แต่ในเอเชียแปซิฟิกอัลคาเทลตั้งเป้าว่า ในปี 2005 จะมีรายได้ในธุรกิจนี้ประมาณ 200 ล้านยูโร
|
|
|
|
|