"ชุมพล พรประภา" หนุ่มใหญ่ผู้นี้ มีเอกลักษณ์เด่นประการหนึ่งที่ใบหน้า เพียงแวบแรกก็สังเกตเห็นได้ คือไฝที่ริมฝีปากบนด้านซ้าย

ด้านโหงวเฮ้งเชื่อกันว่า เป็นไฝแสดงถึง "ผู้มีอันจะกิน" ประการหนึ่ง กับไฝที่บ่งถึง "พูดจาเสนาะหูมีคนฟัง" อีกประการหนึ่ง

สำหรับชุมพลเองค่อนข้างจะเฮงเอามาก ๆ เพราะเขามีโชคทั้งสองประการรวมกัน

ในค่ำคืนวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา คือวันฉลองครบรอบ 20 ปี ของผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ "ซูซูกิ" ในเมืองไทยคือ "บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด" แต่สำหรับชุมพล พรประภาแล้วการฉลอง 20 ปีซูซูกิก็คือการฉลองความสำเร็จของความยิ่งใหญ่ให้กับ "บริษัทเอสพีอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด" ที่ชุมพลก่อตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ซูซูกิเฉกเช่นเดียวกัน

บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด ก่อตั้งเมื่อปี 2510 เป็นการร่วมทุนระหว่างซูซูกิญี่ปุ่นกับคนไทยที่มีชุมพลเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ฝ่ายไทย เริ่มผลิตรถจักรยานยนต์ออกสู่ตลาดเมืองไทยโดยอาศัยเทคโนโลยีและชิ้นส่วนจากญี่ปุ่น โรงงานแห่งแรกที่ซอยเสนานิคมสามารถผลิตรถจักรยานยนต์ได้สองพันกว่าคัน

เมื่อปีที่แล้ว ซูซูกิผลิตครบ 1 ล้านคัน มีส่วนแบ่งการตลาด 32 % โดยมีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า, ฮอนด้า, คาวาซากิ คอยเบียดตรงทางโค้ง

กับส่วนแบ่งตลาด 32% ที่ตั้งเป้าไว้ว่าปีนี้จะต้องเป็น 35% หรือเท่ากับยอดขาย 140,000 ตัน คนที่ยิ้มไม่ยอมหุบ นอกเหนือจากโอซามุ ซูซูกิ ประธานใหม่ของซูซูกิญี่ปุ่นแล้ว ก็ต้องเป็น ชุมพล พรประภา เจ้าของบริษัทเอสพีนี่เอง

ซูซูกิมีเอเย่นต์ในเมืองไทย 3 เจ้าด้วยกัน แต่เอสพีถือได้ว่าใหญ่ที่สุด มีกำลังในการจัดจำหน่าย ซูซูกิถึง 83% ของการผลิต ยอดขายของเอสพีจึงพุ่งไปที่กว่า 4,000 ล้านบาทสบาย ๆ

ตุลาคมปีที่แล้ว เอสพีเข้าเทคโอเวอร์บริษัทยันมาร์ ยักษ์อันดับสองในวงการผลิตเครื่องยนต์ด้านเกษตรกรรม ปีที่แล้วเช่นเดียวกัน เอสพีสร้างตึก 15 ชั้น บนทำเลที่ดีมาก ๆ ติดกับสำนักงานใหญ่ กสิกรไทยให้ยักษ์สีฟ้าไอบีเอ็มเช่า

เป็นช่วงเวลาที่น่าจับตามองชุมพล พรประภาเสียจริง ๆ

อีกด้านหนึ่งของชุมพล คือนักวิชาการผู้ลุ่มลึกและมียศ "ดอกเตอร์" นำหน้า เขารับเป็นวิทยากรของ NIDA IMET ซึ่งเป็นองค์กรที่เน้นหลักฝึกอบรมนักธุรกิจ เขาต้องเดินทางไปทั่วประเทศ ไปพูดไปคุยกับนักธุรกิจทุกจังหวัด

สิ่งที่เขานำไปพูด นำไปอบรมให้นักธุรกิจภูธรได้ฟังและหลงใหลในลีลาการพูดอันฉะฉานอย่างมีกลเม็ดเด็ดพรายก็คือประสบการณ์ในการขายซูซูกิในช่วง 20 ปีนี่แหละ

บางคนตั้งข้อสังเกตว่าการทุ่มเทของชุมพลในเรื่อง NIDA IMET นี้ สอดคล้องกับการสร้างฐานทางธุรกิจที่จะต้องขยายเครือข่ายไปทั่วประเทศในอนาคตอย่างมาก

บางคนตั้งข้อสังเกตว่าการทุ่มเทของชุมพลในเรื่อง NIDA IMET นี้ ทำให้ชุมพลมีโอกาสพบปะแล้วสนิทชิดเชื้อกับนักธุรกิจภูธรเป็นอย่างมากและนั่นเป็นเรื่องที่ดีสำหรับอนาคตอย่างปฏิเสธไม่ได้

สำหรับโอซามุ ซูซูกิ

20 ปีของซูซูกิเมืองไทยคือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในฐานะบริษัทบริวารนอกประเทศญี่ปุ่น

แต่สำหรับ 20 ปีที่ผ่านมาของชุมพล พรประภาคือความยิ่งใหญ่เสียยิ่งกว่า เป็น 20 ปีแห่งการสะสมประสบการณ์เพื่อความเป็นหนึ่งของเอสพีพีอินเตอร์เนชั่นแนล

ถึงตอนนี้หลาย ๆ คนคงอดอิจฉาไฝเม็ดงามบนริมฝีปากของเขาเสียไม่ได้ !