ปีนี้ "มิตร สยามวาลา" อายุครบ 60 ปีพอดิบพอดี
ขณะเดียวกันตระกูล "สยามวาลา" ที่มิตรเป็นพี่ใหญ่ก็ทำมาค้าขายในเมืองไทยมาถึงปีที่ 81 แล้ว
81 ปีที่ผ่านมา ตระกูลสยามวาลาหรือที่รู้จักโดยทั่วไปคือ "บริษัท ดี.เอช.เอ. สยามวาลา จำกัด" ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าประเภทเครื่องเขียนและอุปกรณ์ในสำนักงานรายใหญ่รายหนึ่งรวมไปถึงการเป็นผู้นำและเจ้าตลาดสินค้าประเภทนี้ ซึ่งยากนักที่ใครจะหาญมาทาบท้า
แต่ในห้วงสิบปีหลังมานี้ดี.เอช.เอ. สยามวาลาพลิกผันตัวเองมาสร้างโรงงานผลิตสินค้าเป็นของตนเอง แห่งแรกที่นวนครซี่งขยายกำลังการผลิตและขยายพื้นที่โรงงานจนเต็มเหยียดก็ยังไม่พอสนองความต้องการ มาปีนี้โรงงานแห่งที่สองมูลค่ากว่า 50 ล้านบาทกำลังลงมือก่อสร้างอย่างรีบเร่งเพื่อให้เสร็จทันเดือนตุลาคม
ปีที่ 81 ของ "สยามวาลา" ซึ่งอยู่ในรุ่นที่ 3 จึงเป็นก้าวย่างที่ผิดแผกแตกแขนงอาณาจักรจนปฏิเสธไม่ได้ที่จะต้องจับตามอง
ปู่ของมิตร สยามวาลาเดินทางจากอินเดียสู่กรุงสยามในราวปี 2450 ตรงกับปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เขาเดินทางมาเพื่อทำการค้าที่กลายเป็นรากฐานของรุ่นลูกรุ่นหลานจนปัจจุบัน คือสั่งสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาขาย แต่ปู่ของมิตรเป็นพ่อค้าแบบ "กล้าบุกเบิกและแหวกกฎเกณฑ์" เพราะเขาสั่งสินค้าโดยตรงจากอังกฤษและยุโรปแทนที่จะสั่งผ่านอินเดียซึ่งขณะนั้นเป็นอาณานิคมของอังกฤษ
สินค้าที่สั่งเข้ามาขายยุคนั้นมีสารพัดชนิด ทั้งหนังสัตว์, ผ้า และอื่น ๆ จิปาถะ เพียงสิบปีเท่านั้น ปู่ของมิตรก็ตั้งตัวได้ซึ่งนับว่าเร็วมาก แต่เขากลับโชคร้ายเมื่อมาสิ้นชีวิตขณะอายุเพียง 46 ปีเท่านั้น
พ่อของมิตรรวมทั้งลุงและอาเข้าบริหารงานแทน การสั่งสินค้ายังเป็นสารพัดชนิดเช่นเดิมแต่ที่สั่งเข้ามากเป็นพิเศษคือกระดาษซึ่งทำให้ ดี.เอช.เอ. สยามวาลายุคนั้นเป็นผู้นำเข้ากระดาษรายใหญ่รายหนึ่ง
ช่วงนี้เองที่พ่อของมิตรแปรชื่อตัวเองมาเป็นชื่อห้างนั่นคือ "ดีลาเวอร์ ฮูเซ็น อับดุล อาลี" ส่วน "สยามวาลา" นั้น "วาลา" แปลว่า "มาจาก" หรือ "คนของ" ซึ่งเป็นเครื่องหมายการค้าในการติดต่อระหว่างประเทศได้เป็นอย่างดี
ปี 2496 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงมิตรและเอก สยามวาลา สองคนพี่น้องเข้าบริหารงานในบริษัทเต็มตัว เมื่อคุณพ่อเสียชีวิตและบรรดาญาติถอนทุนออกไปหมด
มิตรและเอก ในวัยประมาณ 25 ปี เข้ามาบริหารงานขณะที่บริษัทมีหนี้สินนับสิบล้านบาทเนื่องจากเก็บเงินจากลูกค้าไม่ได้ เพราะเศรษฐกิจช่วงนั้นแย่มากอันเป็นผลมาจากสงครามโลกครั้งที่ 2
"ผมต้องเดินไปหาเจ้าหนี้บอกว่าขอเถอะครับ ขอจ่ายเงินต้นก่อน ส่วนดอกเบี้ยจะจ่ายให้ทีหลัง" มิตรฟื้นความหลังช่วงลำบากให้ฟัง
เวลานั้นรัฐบาลประสบภาวะขาดดุลการค้ามหาศาลส่งผลให้รัฐบาลตัดสินใจออกมาตรการจำกัดการนำเข้า แต่กลายเป็นผลดีเพราะเมื่อสินค้าจากต่างประเทศมีน้อย ทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้น สินค้ามีเท่าไรก็ขายหมดแทบไม่เหลือในสต็อก
ในช่วงนี้เองที่ดี.เอช.เอ. สยามวาลาตัดสินใจนำเข้าสินค้าประเภทเครื่องเขียนเพียงอย่างเดียว อันเนื่องมาจากมาตรการจำกัดการนำเข้าประการหนึ่งและความเชื่อมั่นที่จะเอาดีเป็นด้าน ๆ อีกประการหนึ่ง
นับจากนั้นเกือบ 40 ปี ดี.เอช.เอ. สยามวาลากลายเป็นผู้นำเข้าและผู้จำหน่ายสินค้าประเภทเครื่องเขียนและสินค้าอุปกรณ์ในสำนักงานที่ใหญ่ที่สุดมีสินค้าในมือกว่า 40 ตัว แบ่งเป็น 4 หมวด คือ หมวดสินค้าของขวัญ ธุรกิจ, เครื่องใช้และวัสดุสำนักงาน, สินค้าช่างและวัสดุช่าง และสินค้าเบ็ดเตล็ด
ในแต่ละหมวดมีสินค้านับสิบรายการและแต่ละรายการก็มีรุ่น มีแบบอีกเป็นสิบ ยี่ห้อสินค้าหลาย ๆ ตัวก็กลายเป็น GENERIC NAME ไปแล้ว เช่นปากกาเขียนแบบ "รอตตริง" (ROTRING) น้ำยาลบคำผิด "ลิควิดเปเปอร์" (LIQUID PAPER) หรือสินค้าอื่น ๆ เช่นปากกาครอส, แฟ้มตราช้าง, อักษรลอกแมคคานอร์มา, สีวินเซอร์, ปากกามาร์วี่, สีโปสเตอร์ตราอูฐ, ดินสอมิตซูบิชิ ฯลฯ
เอ่ยชื่อแค่นี้ อาณาจักร "สยามวาลา" คงแจ่มชัดขึ้นเป็นกอง !
ทุกวันนี้ มิตร สยามวาลา พี่ใหญ่ดูแลด้านการตลาด เอกน้องคนที่สองดูแลการจัดการและการเงิน ส่วนน้องชายคนเล็กกลับไปได้ดิบได้ดีในแวดวงวิชาการ มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับคือ ดร.อัมมาร สยามวาลา ผู้อำนวยการฝ่ายการวิจัยการเกษตรและพัฒนาชนบท สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย ผู้วิพากษ์วิจารณ์บีโอไออย่างเผ็ดร้อนใน "ผู้จัดการ" ฉบับเดือนมิถุนายน
มิตรเกิดในเมืองไทย ร่ำเรียนศึกษาจบอัสสัมชัญ ไม่ได้จบเมืองนอกเมืองนา แต่มีโอกาสเดินทางไปเกือบทุกมุมโลกเพื่อเรียนรู้และสะสมประสบการณ์
"ผมได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากมาย ได้เห็นสินค้า ผลิตภัณฑ์ใหม่ ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีและการบริหารจัดการสมัยใหม่มันทำให้ผมต้องปรับความคิดตลอดเวลา"
ประจักษ์พยานข้อนี้คือ ดี.เอช.เอ. สยามวาลา ใช้คอมพิวเตอร์ตั้งแต่ก่อนกึ่งพุทธกาลแล้ว!
ที่น่าสนใจมาก ๆ คือมิตรสะสมบทเรียนความผิดพลาดของคนอื่น แล้วหันย้อนมองตัวเอง
"บริษัทที่บริหารด้วยธุรกิจครอบครัวที่ไหนก็มีปัญหาทั้งนั้นคนในครอบครัวเอาเข้ามาแล้วถ้ามีปัญหาเอาออกยาก บริษัทของเรามีพนักงาน 300 คน มีสยามวาลาแค่สามคนคือผม น้องชายและลูกชายของผม เรามีพนักงานระดับผู้จัดการที่เราสนับสนุนเขามาจากคนเก่าคนแก่มีราว 15 คน สยามวาลาต้องอาศัย PROFESSIONAL มากทีเดียว"
ลูกชายของมิตรที่ว่านี้คือยิ่งศักดิ์ สยามวาลา อายุ 37 ปี ยิ่งศักดิ์เป็นลูกชายคนโตจากจำนวน 5 คนของมิตร ส่วนเอกนั้นไม่มีทายาท
ช่วงสิบปีมานี้ มิตรยอมรับความจริงอยู่ข้อหนึ่งก็คือแม้เขาจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่รายหนึ่งด้านการนำเข้า เขาก็อาจจะเจ็บปวดกับมันได้เสมอ
นั่นคือเขาไม่สามารถควบคุมต้นทุนของสินค้าได้ตราบใดที่เศรษฐกิจของโลกผันผวนตลอดเวลาและฤทธิ์เดชของการลดค่าเงินบาทที่มีให้ได้เห็นให้ได้ยินกันอยู่เสมอทำเอาเขาแสบในหัวใจมิใช่น้อย
ดี.เอช.เอ. สยามวาลาตัดสินใจสร้างโรงงานเพื่อผลิตแฟ้มเอกสารที่นวนคร เมื่อปี 2518
เดี๋ยวนี้มิตรก็ยังงงไม่หายกับการขยายตัวที่สุดคาดคะเนจนต้องทุ่มเงินอีก 50 ล้านบาทเพื่อสร้างโรงงานแห่งที่สอง
แถมยังซื้อเนื้อที่เผื่อไว้มาก ๆ สำหรับการขยายตัวในอนาคตเสียอีกด้วย !
โรงงานแห่งที่สองนี้มีพื้นที่ 70,000 ตารางเมตร มีพื้นที่สำหรับการขยายตัวในอีก 5 ปีข้างหน้าอีก 20,000 ตารางเมตร โรงงานนี้จะผลิตผลิตภัณฑ์แปรรูปกระดานแฟ้มเอกสาร กระดาษไขอัดสำเนา หมึกอัดสำเนา สี กระดาษไวท์บอร์ด และผลิตภัณฑ์เหล็กที่ใช้เป็นเครื่องใช้สำนักงาน
"อนาคตของเราอยู่ที่การผลิต ไม่ใช่การนำเข้า" มิตร สยามวาลา กล่าวอย่างไร้ข้อข้องใจ
สินค้าที่จะนำเข้าอาจจะเหลือเพียงสินค้าที่ผลิตไม่ได้ในประเทศ เช่น ปากกาเขียนแบบ
"ถ้าอยู่กันสบาย ๆ ไม่มีใครอยากปรับตัวหรอกครับแต่เราต้องทำเพื่อความอยู่รอด" มิตรกล่าวอย่างมองการณ์ไกลเพราะทุกวันนี้ดี.เอช.เอ. สยามวาลามียอดขายปีหนึ่ง ๆ ตก 400 ล้านบาท และหาคู่แข่งที่ยิ่งใหญ่พอฟัดพอเหวี่ยงได้ยากจริง ๆ โดยมากคู่แข่งมักจะแข่งแบบสินค้าเป็นตัว ๆ ตีเป็นยี่ห้อ ๆ เท่านั้น
ในช่วง 5 ปีต่อจากนี้ มิตรยอมรับว่าจะเป็นช่วงขยายตัวด้านการผลิตอย่างจริงจัง ซึ่งอาจจะสอดคล้องกับการขยายตัวด้านความต้องการอุปกรณ์ในสำนักงานที่เติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็วมากในระยะนี้ ประกอบกับความเชื่อมั่นในเรื่องระบบการตลาดที่มิตรได้ปูพื้นฐานไว้อย่างมั่นคงและเป็นที่เชื่อถือยอมรับของบรรดาลูกค้า ย่อมทำให้สินค้าของบริษัทสามารถรักษาสถานภาพในระดับ TOP อย่างสบาย
กับวัย 60 ปีของมิตรและประสบการณ์ 81 ปีของ "สยามวาลา" ช้าหรือไม่ สำหรับการเริ่มต้นที่เกือบจะพลิกโฉมหน้าธุรกิจของตระกูลที่ฝังรากลึกในสังคมไทย?
"ช้า" มิตรตอบชัดถ้อยชัดคำ
แต่แน่นอน แม้จะช้าแต่ก็ยังไม่สาย
มิตร สยามวาลา เชื่อเช่นนั้น !
|