เมื่อคุณเดินเข้าไปในร้าน BODY SHOP แถวอ๊อกซ์ฟอร์ด สตรีท ในกรุงลอนดอน สิ่งแรกที่คุณจะรู้สึกได้ก็คือ กลิ่นหอมที่อบอวลไปทั่ว ซึ่งเป็นกลิ่นที่แตกต่างไปจากกลิ่นน้ำหอมในห้างสรรพสินค้าทั่วไป เพราะว่ากลิ่นของผลิตภัณฑ์ เครื่องหอมทุกอย่างในร้านนี้ล้วนแต่เป็นผลผลิตมาจากสมุนไพรธรรมชาติทั้งสิ้น

ร้านบอดี้ ชอป หรือในชื่อเต็มว่า BODY SHOP INTERNATIONAL PLC แห่งนี้ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในบริษัทเล็กที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของโลก ตามการประเมินของบิสซิเนส วีค เป็นร้านที่ผลิตและจำหน่ายสินค้าประเภทเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ส่วนตัวที่มีส่วนผสมส่วนใหญ่เป็นสารจากธรรมชาติบรรจุหรือหีบห่ออยู่ในภาชนะพลาสติกแบบง่าย ๆ และขายในราคาที่พอสมควร บริษัทนี้ไม่เคยมีการโฆษณาและเป็นร้านค้าแบบบริการตนเอง ซึ่งแอนนิต้า รอดดิค ผู้ก่อตั้งและผลักดันบอดี้ ชอปจนประสบความสำเร็จ กล่าวว่า "ในร้านนี้จะไม่มีภาพนางแบบโฆษณาเครื่องสำอางที่จะคอยเน้นย้ำกับคุณว่าคุณควรจะแต่งหน้าแต่งตัวแบบนั้นแบบนี้เหมือนเช่นที่ปรากฎในร้านหรือมุมขายเครื่องสำอางยี่ห้ออื่น ๆ"

สิ่งที่น่าประทับใจอีกประการหนึ่งของบอดี้ ชอปก็คือ เจ้าของกิจการคือแอนนิต้า และสามีของเธอคือกอร์ดอนมีความคิดที่แตกต่าง ไปจากนักธุรกิจทั่ว ๆ ไปถึงแม้ว่าทั้งคู่จะเป็นเจ้าของหุ้นมูลค่าร่วม 120 ล้านดอลลาร์ของบอดี้ ชอป แต่ความคิดของเธอออกจะสอดคล้องกับความคิดของโจอัน เบซ นักร้องและนักกิจกรรมที่ต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนและสันติภาพมากกว่าจะไปใกล้เคียงกับความคิดของพ่อค้านักธุรกิจทั้งหลาย กล่าวได้ว่าบอดี้ ชอปให้การสนับสนุนอย่างแข็งขันต่อกลุ่มกรีนพีซ ซึ่งเป็นกลุ่มที่รณรงค์ต่อสู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และยังพยายามที่จะหาวัตถุดิบสมุนไพรต่าง ๆ จากประเทศโลกที่สามอีกด้วย

แอนนิต้ามักจะเดินทางไปยังประเทศกำลังพัฒนาบ่อย ๆ เพื่อสรรหาส่วนผสมสมุนไพรถนอมผิวที่สตรีในประเทศเหล่านั้นใช้กันมานานเป็นศตวรรษ เธอกล่าวว่า "ผู้คนต้องการบริษัทที่เชื่อถือไว้ใจได้"

แอนนิต้าก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้นเมื่อ 11 ปีก่อน โดยเป็นร้านค้าเดี่ยวธรรมดา ๆ ที่เมืองไบรตัน ประเทศอังกฤษปัจจุบันมีสาขาอยู่ 318 แห่งใน 33 ประเทศอันที่จริงแล้วบอดี้ ชอปเป็นเจ้าของร้านเพียง 12 แห่งเท่านั้น ที่เหลือเป็นการให้สิทธิ์ในการจัดจำหน่ายภายใต้ชื่อดังกล่าว

บอดี้ ชอป มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองลิตเติ้ลแฮมตัน บริเวณเวสท์ ซัสเชคซ์ และสามารถทำรายได้ที่งดงามจากการขายส่งผลิตภัณฑ์ให้แก่ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ในการจำหน่าย ตลาดใหญ่แห่งหนึ่งที่บอดี้ ชอป ยังไม่ได้วางแผนที่จะเปิดสาขาขึ้นเป็นครั้งแรกในเดือนกรกฎาคมนี้ที่แมนฮัตตันและ นิวเจอร์ซี่

เมื่อลองพิจารณาถึงตัวเลขรายได้และกำไรของบอดี้ ชอป จะเห็นว่าน่าสนใจมากทีเดียวเมื่อปีที่แล้วบริษัทนี้มีรายได้เพิ่มขึ้น 64% เป็น 53 ล้านดอลลาร์กำไรก่อนหักภาษีสูงกว่าเดิม 74% คิดเป็นเงิน 11 ล้านดอลลาร์จากการประเมินของนักวิเคราะห์จาก HOARE GOVETT LTD. ในลอนดอนนั้นเชื่อว่าบอดี้ ชอปจะมีกำไรเพิ่มขึ้นอีก 60% ในปีนี้และจะเพิ่มขึ้นอีก 40% ต่อปีหลังนั้น ด้วยมูลค่าตลาดที่สูงถึง 410 ล้านดอลลาร์ บอดี้ ชอปกลายเป็นร้านค้าปลีกที่มีราคาหุ้นสูงที่สุดในตลาดหุ้นลอนดอนคือมีราคาหุ้นสูงถึง 59 เท่าของมูลค่ารายได้ต่อหุ้น นับได้ว่านี่เป็นสิ่งหนึ่งที่พิสูจน์ได้ว่าการยึดถืออุดมการณ์ หรือการมีสำนึกต่อสังคมสามารถไปกันได้กับธุรกิจและไปได้ดีเสียด้วยในกรณีของบริษัทนี้