ผลการวิจัยที่สหรัฐฯชี้ว่าเจ้านายผู้ชายมีลักษณะชอบวางท่าเป็นนายมากกว่าเจ้านายที่เป็นผู้หญิงซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะใกล้เคียงหรือแตกต่างจากสภาพที่เป็นอยู่ในเมืองไทย

อลิซ อีลิล นักจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัย PURDRE ได้ทำการศึกษาโดยตรวจสอบผลงานการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมการจัดการ 166 ชิ้น ซึ่งทำให้เธอได้พบว่า ภาพพจน์หรือสิ่งที่คนเชื่อถือในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชายและหญิงบางอย่างนั้นเป็นยิ่งกว่าความเชื่อที่ผิดเสียอีก

ตัวอย่างสิ่งที่พบในงานวิจัยเหล่านี้ก็คือ พบว่าผู้จัดการที่เป็นสตรีจะมีลักษณะนิยมประชาธิปไตยมากกว่า ในขณะที่บุรุษมักมีลักษณะชอบใช้อำนาจ ซึ่งออกจะผิดจากความเชื่อที่คนทั่วไปมองว่า การมีนายเป็นผู้หญิงนั้นยุ่งยากลำบากใจ เพราะเห็นว่าผู้หญิงเจ้าอารมณ์และจุกจิกจู้จี้ นักจิตวิทยาผู้นี้กล่าวว่า "ผู้หญิงจะแสวงหาข้อมูลจากผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา ให้การรับฟัง และสามารถเจรจาประนีประนอมกันได้มากกว่า"

นอกจากนี้ยังได้ตั้งคำถามให้ประชาชนทั้งชายและหญิงตอบโดยขอร้องให้บุคคลเหล่านี้ทำนายว่าเจ้านายของตนจะทำอย่างไรในสถานการณ์บางอย่าง ปรากฎว่าเขาคิดว่าเจ้านายที่เป็นผู้หญิงจะให้ความสนใจลูกน้องและบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องมากกว่าจะคำนึงถึงแต่ให้งานสำเร็จ แต่คิดว่าเจ้านายผู้ชายจะทำในสิ่งตรงกันข้าม

ถ้าหากจะถามว่าแล้วอย่างไหนดีกว่ากัน ก็คงจะขึ้นกับจุดยืนในทัศนะของแต่ละคน อีกลิล กล่าวว่า "บางคนอาจจะเห็นว่าผู้หญิงไม่สามารถรับภาระได้ดีเพียงพอ แต่บางคนอาจจะเห็นว่าเราต้องการลักษณะการบริหารแบบญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้นและเราต้องการความร่วมมือในการทำงานมากขึ้น การที่จะจัดการบริหารงานในรูปแบบที่เป็นประชาธิปไตยนั้นจำเป็นต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการติดต่อสัมพันธ์ระหว่างบุคคล และสตรีมักจะมีความชำนาญในด้านนี้มากกว่าบุรุษ"