|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ กรกฎาคม 2531
|
|
วีระ ต.สุวรรณ มีน้องชาย 2 คน
คนแรกชื่อพีระ ต.สุวรรณ พีระอายุ 56 ปี เรียนจบมาจากประเทศอังกฤษ ใครต่อใครบอกว่า พีระเป็นคน NICE มาก สุภาพเรียบร้อย เป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยชอบพูด แต่ทำงานค่อนข้างละเอียด และเอาจริงเอาจังกับการทำงาน
น้องชายคนเล็กชื่อธีระ ต.สุวรรณ ธีระอายุ 50 ปี เรียนจบมาจากสหรัฐฯ ใครต่อใครบอกว่า ธีระเป็นคนเรียนเก่ง สุภาพ เอาจริงเอาจังกับงาน เป็นที่เชื่อว่าฝีมือของเขา เป็นหนึ่งในไม่กี่คนด้านการพิมพ์ของเมืองไทย ธีระชอบขับเครื่องบินเล็กมาก เขาต้องไปขับเครื่องบินส่วนตัวทุกอาทิตย์
ส่วนวีระ ต.สุวรรณ ตั้วเฮียของน้อง ๆ 2 คน เขาอายุ 57 ปี เรียนจบมาจากอังกฤษ ใครต่อใครบอกว่า วีระค่อนข้างใจสปอร์ตออกจะนักเลงหน่อย ๆ สูบไปป์ หน้าตาค่อนไปทางยุ่งเหยิงคือตาแดงกล่ำเหมือนคนอดนอน คิ้วขมวด และชอบเม้มปาก หลายครั้งวีระเหมือนคนใจร้อน ที่ชอบลุยไปข้างหน้าและเชื่อมั่นในตัวเองสูง
มีหลายคนอีกเหมือนกันที่บอกว่า วีระทำงานไม่ค่อยละเอียดนัก
แต่วีระก็คือพี่ใหญ่ที่น่าจะสืบทอดกิจการของ "ต.สุวรรณ" เป็นคนแรก
วีระหายไปจากไทยวัฒนาพานิช เมื่อราวปี 2521 ด้วยสาเหตุที่ทุกคนรู้แต่เพียงว่าเป็นเรื่องในครอบครัว แม้แต่ตัววีระเองก็ไม่อยากที่จะเอ่ยอ้างถึงเรื่องแต่หนหลัง
หลังจากนั้นไม่มีใครรู้ว่าวีระไปทำอะไรแน่นอน บางคนบอกว่าวีระไปดูแลงานด้านต่างประเทศให้ทวพ. บางคนบอกว่าวีระไปเปิดโรงเรียนสอนเต้นระบำ หรือทำกิจการด้านส่งออกเฟอร์นิเจอร์
ตัววีระบอกเพียงแค่ว่า ที่ผ่านมาเขาเวียนว่ายอยู่ในวงการหนังสือนี่แหละ
แต่ที่แน่ ๆ วีระออกมาตั้งบริษัทชื่อ "บุ๊คแมน"
บริษัทนี้ออกจะแปลกสักหน่อยตรงที่อยู่ข้างนอก ทวพ. แต่รับสารานุกรมของทวพ.มาจำหน่าย ซึ่งวีระบอกว่าหนังสือชุดนี้เริ่มในสมัยของเขา
แต่ที่แปลกไปกว่านั้นคือ พีระน้องชายของวีระหนุนลูกเขยที่ชื่อสุรชัย กำภู ณ อยุธยา สามีของลูกสาวคนโต ตั้งบริษัทชื่อ "สุรเสนาคอร์ปอเรชั่น" งานหลักคือขายสารานุกรมของทวพ. เหมือนกัน
งานนี้เลยเป็นที่ฮือฮาในวงการหนังสือไม่น้อย เพราะต่างก็แย่งกันฟัน แข่งกันขายอุตลุด และ ที่สุดบริษัททั้งสองนี้ก็เป็นศักดิ์ศรีของพี่น้องสองคนมาก ๆ
แล้วจู่ ๆ วันหนึ่งวีระก็กลับมานั่งทำงานที่ ทวพ. เหมือนสิบปีที่ผ่านมาคือหนึ่งงีบแห่งยามค่ำคืนเท่านั้น ตื่นเช้ามาก็แต่งตัวมาทำงานเป็นปกติ!
กลับมาครั้งนี้วีระบอกว่า เขาเลิกหมดแล้วเรื่องราวในอดีต ทุกวันนี้ทำงานอย่างเดียว ขอเพียงไปพบปะเพื่อนฝูงที่สปอร์ตคลับในวันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น
วีระไม่ได้กลับมาทวพ. คนเดียว แต่ยกพลพรรคจาก "บุ๊คแมน" เข้ามาในทวพ. ด้วย
มีเรื่องแซวกันในวงการหนังสือว่า อันชื่อ "บุ๊คแมน" นี้ คุณวีระแกคิดค้นตั้งชื่อนี้มาจากไหนนะ
ก็มีใครคนหนึ่งอาสาตอบว่า ไอ้เรื่องที่มานั้นไม่ได้สำคัญอะไรเลย ที่น่าสนใจคือคำว่า "บุ๊คแมน" นั้น ถ้าให้อาแป๊ะพูดไทยสำเนียงจีนกัดฟันพูดเวลาโมโห ๆ ไอ้คำว่า "บุ๊คแมน" จะออกเป็นว่า
"บุกแมง...บุกแมง...บุกแม่ง...บุกแม่งเลย...!
|
|
|
|
|