หลังรวมกิจการพีเพิลซอฟท์ ออราเคิลเดินหน้าดูแลลูกค้า พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์พีเพิลซอฟท์ต่อเนื่อง ปี 20007 วางแนวทางจับข้อดีของทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์ร่วมพัฒนา "โปรเจกต์ฟิวชัน" ลงตลาด หวังรักษาความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดคอมเมอร์เชียล

นายณัฐศักดิ์ โรจนพิเชฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออราเคิล คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) กล่าวถึงแนวทางการทำธุรกิจภายหลังการรวมกิจการกับพีเพิลซอฟท์ว่า นับจากนี้ต่อไปออราเคิลจะให้ความสำคัญกับการทำตลาดผลิตภัณฑ์ทั้ง ออราเคิล พีเพิลซอฟท์ และเจดีเอ็ดเวิร์ด ไปพร้อมกัน ทั้งด้านการทำตลาด การซัปพอร์ต การบำรุงรักษา รวมทั้งจะมีการพัฒนาเวอร์ชันใหม่ของผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 ออกมาอย่างต่อเนื่องอย่างพีเพิลซอฟท์เวอร์ชัน 9.0 เจดีเอ็ดเวิร์ด 8.12 รวมทั้งออราเคิล 11i.12

การผนึกกำลังระหว่างออราเคิลและพีเพิลซอฟท์ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของวงการซอฟต์แวร์ เป็นการช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ออราเคิลในแง่การแข่งขันในภูมิภาคนี้ โดยการนำจุดแข็งด้านนวัตกรรมและการบริการที่ทั้ง 2 มีอยู่มาร่วมกันสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจทั้งส่งผลดีในแง่ทำให้ออราเคิลมีนักพัฒนาแอปพลิเคชันเพิ่มขึ้นเป็น 8,000 คน พร้อมให้การสนับสนุนลูกค้ากว่า 23,000 รายทั่วโลก

"หลังการรวมธุรกิจกันแล้ว ออราเคิลมั่นใจว่า เป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดคอมเมอร์เชียล เมื่อมองในแง่ฐานลูกค้า ไม่รวมภาครัฐ"

ผู้บริหารออราเคิล กล่าวว่า ที่ผ่านมาลูกค้าทั่วไปในตลาดมักประสบปัญหาการเลือกใช้แอปพลิเคชันแต่ละด้านของแต่ละยี่ห้อ เช่น ด้านบัญชียี่ห้อหนึ่ง กับ CRM ยี่ห้อหนึ่ง ด้านการเงินอีกยี่ห้อหนึ่ง ปัญหาที่ตามมาคือต้นทุนในการเชื่อมโยงระบบให้เป็นหนึ่งเดียวกันมีฐานข้อมูลชุดเดียวกัน ที่มีค่าใช้จ่ายสูง ขณะที่ออราเคิลมีแนวทางในการพัฒนาฐานข้อมูลเดียวกันที่สามารถใช้งานได้ทั้งองค์กร จึงมุ่งเน้นให้แอปพลิเคชันจากหลายส่วนงานสามารถคุยกันได้หมด การรวมกันของออราเคิลและพีเพิลซอฟท์จะทำให้ออราเคิลเป็นศูนย์รวมแอปพลิเคชัน ทั้งลูกค้าหมดปัญหาการเชื่อมโยงที่เป็นต้นทุนสูงอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม นอกจากออราเคิลจะยังให้การซัปพอร์ต ตลอดจนดูแลลูกค้าของพีเพิลซอฟท์ต่อไปในอนาคตทั้ง 2 มีแนวทางในการพัฒนาโปรดักต์ที่เกิดขึ้นจากการนำจุดเด่นของทั้ง 2 ค่ายมารวมกัน กลายเป็นโปรดักต์ใหม่ภายใต้ชื่อ "โปรเจกต์ฟิวชัน" อยู่ภายใต้ลินุกซ์เบสกริดคอมพิวติ้ง เดลต้าฮับ เว็บเซอร์วิส ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวได้ประมาณปี 2007

โชว์ผลประกอบการ

ในส่วนผลประกอบการ ออราเคิล คอร์ปอเรชั่น เอเชีย-แปซิฟิก ประจำไตรมาส 3 ของปีการเงิน 2548 (สิ้นสุดวันที่ 28 กุมภาพันธ์2548) ออราเคิลมีรายได้ทั่วภูมิภาครวมทั้งสิ้น 425 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา และคิดเป็น 14% ของรายได้ทั่วโลก โดยแบ่งเป็นรายได้ซอฟต์แวร์กลุ่มแอปพลิเคชันเพิ่มขึ้น 21% และกลุ่มเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น 8%

นายณัฐศักดิ์กล่าวว่า แนวทางธุรกิจของออราเคิลที่วางไว้นับจากนี้ต่อไปจะให้ความสำคัญกับ ลินุกซ์เป็นหัวใจหลัก ทุกโปรดักต์ที่มีการพัฒนาออกมาต้องอยู่บน ลินุกซ์ก่อนแล้วจึงไปแพลตฟอร์มอื่นด้วย เพราะเชื่อว่าลินุกซ์จะเป็น แพลตฟอร์มที่เป็นมาตรฐานต่อไปในอนาคต