คำว่า "สงบ" ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน แปลว่า "ระงับ ปราศจากเรื่องรบกวน หยุดนิ่ง"

แต่กับ สงบ พรรณรักษา อดีตกรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ย์ไอทีเอฟจำกัดแล้ว ชีวิตของสงบดูจะไม่มีวัน "หยุดนิ่ง" เอาเสียเลย

สงบจบปริญญาตรีพาณิชยศาสตร์บัณฑิตจากธรรมศาสตร์ ศึกษาต่อปริญญาโท MBA ที่ WHARTON, PENSYLVANIA ในสหรัฐอเมริกา

เริ่มทำงานที่โรงงานน้ำตาลสุพรรณบุรี เป็นเลขานุการคณะกรรมการและผู้ควบคุมการเงินอยู่ที่บริษัทกระสอบอิสานจำกัด อยู่หกปี เป็นนักเรียนทุนรุ่นแรกของธนาคารกสิกรไทย โดยกลับมาใช้ทุน เป็นผู้อำนวยการฝ่ายการธนาคารและผู้อำนวยการฝ่ายคอมพิวเตอร์ของแบงก์รวงข้าวอีกเก้าปี

ปี 2522 สงบเริ่มชีวิตการเป็นผู้บริหารระดับสูงสุดกับบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์กรุงศรีอยุทธยาจำกัด "เอ็ตโก้" แสดงฝีมือบริหารจนทำให้เอ็ตโก้ไปได้ฉลุยแล้วก็ถูกทาบทามไปบริหารที่ไอทีเอฟ

ซึ่เมื่อคิดถึงกิจกรรมทางสังคมอื่น ๆ อาทิเป็นประธานโครงการปริญญาโท MBA (ภาคค่ำ) ของธรรมศาสตร์ เป็นอาจารย์พิเศษในโรงเรียนนายทหารเสนาธิการกองทัพอากาศ เคยเป็นกรรมการที่ปรึกษาและประธานกลุ่มบริหารการเงิน สมาคมจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย และอื่น ๆ อีกมากมายก็พอจะทราบว่าเขาค้นพบความเหมาะสมที่แท้จริงของคำว่า "สงบ" ได้ยากจริง ๆ

และนั่นก็ทำให้เกิดคำถามหนึ่งที่ว่า เมื่อสงบถูก "เด้ง" ออกจากไอทีเอฟแล้ว เขาจะไปทำอะไรที่ไหน นอกเหนือจากการตั้งบริษัที่ปรึกษาทางธุรกิจ "สงบและวรรณา" และเป็นอาจารย์พิเศษในโครงการปริญญาโททางการบริหารธุรกิจในสถาบันหลายแห่ง ตลอดจนเป็นอาจารย์ประจำคณะบริหารธุรกิจของนิด้า ตำแหน่งอาจารย์ซี 7 ชั้นพิเศษ

"ตอนนี้ผมกำลังทำแพคเกจที่เรียกว่า "MANAGEMENT GAME" ให้กับศูนย์บริการวิชาการของนิด้าอยู่" สงบบอก "ผู้จัดการ" ถึงงานด้านวิชาการที่เขากำลังทำในปัจจุบัน

MANAGEMENT GAME หรือเกมการจัดการ เป็นการฝึกอบรมโดยประยุกต์เรื่องราวเกี่ยวกับการจัดการเข้ากับคอมพิวเตอร์ ที่นำเสนอให้แก่ผู้บริหารระดับกลางและสูงขององค์กรต่าง ๆ ผู้วิเคราะห์สินเชื่อผู้วิเคราะห์หลักทรัพย์ ตลอดจนเจ้าของกิจการทั้งหลาย

"ก็จะใช้เวลาเรียนทั้งหมด 75 ชั่วโมง มีทั้งการบรรยายเรื่องการบริหารการตลาด การบริหารการผลิต...ฯลฯ มีการทดลองปฏิบัติการที่ใช้อาจารย์และเจ้าหน้าที่เข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 10 คน โดยใช้คอมพิวเตอร์ด้วยเป็นหลักซึ่งได้รับความนิยมมากอย่างโครงการมินิเอ็มบีเอของธรรมศาสตร์ทั้ง 19 รุ่นที่ผ่านมาก็เอาของเราไปใช้" สงบอธิบายรายละเอียดของงานที่เขากำลังทำอยู่ให้ฟัง

แต่งานที่ท้าทายสวบมาก ๆ อีกครั้งหนึ่งน่าจะเป็นการที่เขาเข้ารับตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท "เอแอนด์ดี" จำกัด ตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือเขียนแบบยี่ห้อเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น และใหญ่ที่สุดในโลกยี่ห้อ "มูโต้" มากกว่า

เป็นงานที่หลายคนมองว่า "นักบริหารการเงิน" ฝีมือฉกาจฉกรรจ์หาตัวจับยากอย่างสงบ ถ้าหันมาทำงานด้านการตลาดแล้วจะไปได้สักกี่น้ำ!?!

"มูโต้" เป็นบริษัทผลิตสินค้าที่มีคุณภาพมาก โดยเฉพาะด้านวิศวกรรมกราฟฟิค เช่น ระบบ CAD/CAM, DIGITIZER, PLOTTER เครื่องเขียนอักษรคอมพิวเตอร์ (SCRIBERS) และเครื่องมือเขียนแบบหลายชนิดซึ่งมียอดขายถึงปีละกว่า 30 พันล้านเยน (หกพันล้านบาท) มี OVERSEA SUBSIDIARY ในต่างประเทศอยู่ 2 แห่ง คือ ที่ดุสเซลดอร์ฟ เยอรมนี และหมู่บ้านเอคกรุฟ ใกล้ชิคาโก สหรัฐอเมริกา

ในประเทศญี่ปุ่น "มูโต้" มีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 75% และกล่าวได้ว่าเป็นเครื่องมือเขียนแบบที่แพร่หลายมากที่สุดในทุกประเทศของเอเชียอาคเนย์ยกเว้นประเทศไทย ซึ่งในที่สุดมูโต้ก็ได้ "เอแอนด์ดี" ที่มีประภัทร จิระศิริธรรม ผู้ช่ำชองในวงการขายเครื่องเขียนแบบมานานมาเป็นหัวเรือใหญ่ และเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่ผู้เดียวในประเทศไทย

"ผมคิดว่าตัวเองเป็น "นักบริหารทั่วไป" มากกว่านักการเงินอย่างที่คนอื่นเข้าใจ ผู้บริหารสมัยนี้ต้องรู้ทั้งการตลาด การจัดการ งานบุคคล การเงิน ผมคิดว่าไม่เห็นแปลกอะไร อีกอย่างผมก็เข้ามาเป็นที่ปรึกษาวางแผนให้เป็นส่วนใหญ่ เพราะคณะผู้บริหารของเอแอนด์ดีเองก็มีฝีมือและอยู่ในธุรกิจนี้กันมาคนละหลาย ๆ ปีทั้งนั้น" สงบไขข้อข้องใจดังกล่าวให้ "ผู้จัดการ" ฟัง

"ผมมั่นใจว่าสินค้าของเราจะไปได้ไกล เพราะคุณภาพดีและราคาถูกกว่า ที่สำคัญเราพยายามเน้นและชักชวนให้ผู้ใช้หันมาให้ความสำคัญกับ COST PER MANHOUR ในระยะยาวให้มากขึ้น" สงบทิ้งท้ายถึงความมั่นใจในงานใหม่ของเขา

ก็หวังว่าสงบและ "มูโต้" ของเขาจะรุ่งโรจน์เหมือนประโยคหนึ่งใน PRESS AD. ที่ว่า JUST LIKE FLOATING LN AIR เพราะงานนี้เขาก็ไม่ได้ต้องไปปล้ำผีลุกปลุกผีนั่งเหมือนงานที่ผ่าน ๆ มา