เอไอเอสออกโรงแจงการสื่อสารไม่ชัดเจนของโปรโมชันโทร. นาทีละ 50 สต. ส่งผลกระทบกับบริการโทรคมนาคมทั้งอุตสาหกรรม หวั่นการซื้อชะลอตัว แต่เชื่อลูกค้าได้สินค้าไม่ตรงใจมีโอกาสคืนเลขหมายสูง และเป็นผลดีกับเอไอเอสที่ลูกค้าจะหันมาใช้บริการแทนรายอื่น

นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้อำนวยการ สำนักการตลาด วัน-ทู-คอล บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคหรือสคบ. ที่ระบุถึงการออกโปรโมชันโทร.นาทีละ 50 สต. ของผู้ให้บริการมือถือแต่มีการสื่อสารไม่ชัดเจน และส่อไปในทางหลอกลวงผู้บริโภคว่า ปัจจุบันมีผู้ให้บริการด้านโทรคมนามไม่กี่ราย หากมีการสื่อสารอะไรที่ไม่ชัดเจนออกไปถึงผู้บริโภค ก็จะส่งผลกระทบทั้งอุตสาหกรรม เพราะผู้บริโภคซื้อสินค้าไปแล้วไม่ได้ตามที่ตั้งใจและเข้าใจ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการชะลอการซื้อได้

อย่างโปรโมชันนาทีละ 50 สต. ของผู้ให้บริการที่สื่อสารไม่ชัดเจนก็จะส่งผลในระยะยาวเช่นกัน เอไอเอสในฐานะผู้นำตลาดขณะนี้ การทำตลาดไม่ได้เป็นเพียงการหาลูกค้าใหม่อย่างเดียว แต่ยังเน้นการรักษาฐานลูกค้าเก่าไว้ให้ได้ด้วย และการทำตลาดจะทำแบบตรงไปตรงมากับผู้บริโภค แต่ขณะนี้ยังไม่มีแคมเปญอะไรออกสู่ตลาด นอกจากการสื่อสารผ่านสื่อเท่านั้น

"ในแต่ละอุตสาหกรรมโดยรวม เราต้องทำความเข้าใจกับผู้บริโภคในระยะสั้น แต่ระยะยาวการตัดสินใจซื้อจะยากขึ้น เพราะคนเริ่มกังวล และจากกระแสที่เกิดขึ้นผู้บริโภคที่ต้องการซื้อมือถือต้องดูให้ดี"

นายฐิติพงศ์กล่าวว่า อุตสาหกรรมโทรคมนาคมเป็นของผู้ให้บริการทุกราย และต้องช่วยกันดูแลรักษา การทำแคมเปญ หรือโปรโมชัน ใครจะออกแบบไหนก็ได้ แต่การทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ต้องให้ชัดเจน เพราะคนทำโปรโมชันไม่ใช่คนขาย แต่คนขายคือตัวแทนจำหน่ายที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ และบางที่การเข้าถึงข้อมูลของผู้บริโภคอาจจะต่างกัน ระหว่างต่างจังหวัดกับกรุงเทพฯหรือในเมือง เนื่องจากมีการกระจายสินค้าจากผู้จัดจำหน่ายไปยังดีลเลอร์ และซับดีลเลอร์

"เทคนิคหรือศิลปะการสื่อสารมีได้ การแข่งขันก็ฟาดฟันกันไป แต่อย่าถึงกับทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด อย่าง 50 สต. 24 ชม. เป็นการสื่อสารที่ไม่ถูก เพราะนาทีแรก นาทีที่สองมันไม่ใช่ เพราะถ้า 50 สต.จริงต้องเป็นอัตราเดียวตลอดทุกนาที "

อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารเอไอเอสเชื่อว่า จากกระแสที่เกิดขึ้น อาจส่งผลดีกับเอไอเอสในระยะยาว เพราะผู้บริโภคเมื่อได้สินค้าไม่ตรงกับสิ่งที่เข้าใจแล้ว โอกาสคืนเลขหมายก็มีสูง และอาจจะหันมาใช้บริการของเอไอเอสแทน

นายฐิติพงศ์กล่าวถึงตลาดของมือถือช่วง 3 เดือนแรกปีนี้ว่า ตลาดมีการขยายตัวจริง แต่จะเป็นตลาดต่างจังหวัด ส่วนที่แข่งขันกันเป็นตลาดในเมืองหรือในกรุงเทพฯ มากกว่า ด้านผลิตภัณฑ์ที่เอไอเอสนำออกทำตลาดต่างจังหวัดจะเป็นแพกเกจสวัสดี และเชื่อว่าสิ้นปีนี้จะสามารถทำรายได้ให้ถึง 7 ล้านบาท ปัจจุบันบริการดังกล่าวมีรายได้ต่อเลขหมายต่อเดือนอยู่ที่ 250 บาท