|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ มีนาคม 2531
|
|
หนังสือพิมพ์อาซาฮี ชิมบุนขายดีที่สุดในญี่ปุ่น หนังสือพิมพ์วอลสตรีท เจอร์นัลก็เป็นหนังสือพิมพ์ที่มีผู้นิยมอ่านกันมากในอเมริกาและยุโรปแต่สำหรับในเมืองไทยคงไม่มีใครปฏิเสธความยิ่งใหญ่ของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ คำว่า "หนังสือพิมพ์ที่จำหน่ายมากที่สุดในประเทศ" ทุกคนคงต้องยอมรับโดยดุษฎี
ความยิ่งใหญ่ของไทยรัฐนั้นนอกจากจะดูที่ยอดขายกันแล้วยังดูได้ที่ยอดโฆษณา
ไทยรัฐเป็นสื่อชิ้นเดียวกระมังที่บรรดาเอเยนซี่ต้องมาง้องอนเจ้าของสื่อ การลงโฆษณากับหนังสือพิมพ์อื่นถ้าบอกว่าต้องจองโฆษณานานเป็นเดือนและขนาดเอาเงินมากองต่อหน้าก็ยังลงไม่ได้ คงเป็นเรื่องตลกมาก ๆ แต่สำหรับไทยรัฐแล้ว "ไม่ขำ" นี่เป็นเรื่องจริงที่ทุกวันนี้ก็ปฏิเสธไม่ได้
เอเยนซี่ใหญ่ ๆ ที่ลงหนังสือพิมพ์ไทยรัฐได้อย่างลินตาสคงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เอเยนซี่โนเนมที่มีทุนจดทะเบียนเพียง 1 ล้านบาทและมีพนักงานเพียง 7 คนแถมสินค้าที่ถืออยู่ก็จิ๊บจ๊อยไม่ได้ถือแอคเคาท์ระดับอินเตอร์เลย อย่างประกิตแอนด์แอสโซซิเอทส์ที่มีเพียงกางเกงในลุฟท์ แพนซี่ ข้าวเกรียบกุ้งฮานามิ ยาหอมห้าเจดีย์ หรือนาฬิกาโอริสต์ สามารถลงไทยรัฐได้ทุกเมื่อ นี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลย มันแสดงถึงกำลังภายในมหาศาลมาก ๆ ของคนที่เป็นผู้ขับเคลื่อนเอเยนซี่นิรนามนี้อยู่อะไรทำให้ยักษ์ใหญ่อย่างไทยรัฐมีพื้นที่ว่างให้เสมอกับคนที่ชื่อประกิต อภิสารธนรักษ์
ย้อนกลับไปเมื่อประกิต อภิสารธนรักษ์ ทำงานอยู่ที่ดีทแฮล์มแผนกมีเดีย เขาต้องติดต่อกับสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ ทุกอย่างไม่มีปัญหาสำหรับเขาซึ่งมักจะสวมบทบาทเล่าปี่ แต่กับหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของไทยแลนด์เขาไม่อาจลงโฆษณาโดยตรงได้ ต้องผ่านคนกลาง มันเหมือนหนามแหลมที่ทิ่มตำใจเขาอยู่ตลอดเวลา ประกิตค้นหาสาเหตุอยู่เป็นเวลานานจึงพบว่าเกิดการขัดแย้งกันขึ้นระหว่างไทยรัฐกับดีทแฮล์ม ข่าวทุกข่าวที่ดีทแฮล์มส่งไปไทยรัฐลง ตระกร้าโฆษณาทุกชิ้นของดีทแฮล์มถ้าจะลงต้องผ่านคนกลาง
ประกิตต้องสวมบทบาททูตเพื่อเจรจาระงับศึกซึ่งนำความเสียหายมาให้เขาและบริษัท ดีทแฮล์มอย่างใหญ่หลวงเพราะสินค้าของดีทแฮล์มเป็นสินค้าประเภท CONSUMER PRODUCT เป็นส่วนใหญ่ซึ่งต้องลงหนังสือพิมพ์จึงจะครอบคลุมไปทุกสื่อ ยิ่งช่วงนั้นสื่อโทรทัศน์ยังไม่มีเครือข่ายครอบคลุมทั้งประเทศดังเช่นทุกวันนี้
ประกิตก้าวเข้าไปหาผู้จัดการฝ่ายโฆษณาทันที "ผมเข้าไปบอกคุณแอ๊ดซึ่งเวลานี้ก็ยังอยู่ว่าตอนนี้มันก็เหมือนการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ ผมอยากจะเข้าขอเจรจา แล้วผมก็เข้าไปหา ผ.อ.กำพล ผ.อ.บอกว่าเอาละผมตกลงแต่ว่าไม่มีส่วนลดนะ หลังจากนั้น 6 เดือน ผ.อ.บอกคุณเอาไป 5% และอีกครึ่งปี ผ.อ. บอกว่าคุณเอา 10% เท่าคนอื่น"
หลังจากนั้นความสัมพันธ์ระหว่างไทยรัฐกับประกิตก็ได้เริ่มก่อตัวขึ้นเป็นความสัมพันธ์ลักษณะพึ่งพาที่ฝ่ายหลังโอนอ่อนเข้าหาฝ่ายแรก และนี่เป็นสายสัมพันธ์ที่จะมีประโยชน์ต่อธุรกิจของเขาในอนาคต ซึ่งมาปรากฏชัดเจนเมื่อเขาเปิดดำเนินธุรกิจของเขาเอง
วันที่ 25 มกราคม 2521 กำพล วัชรพลก็เป็นประธานเปิดบริษัทประกิตแอนด์แอสโซซิเอทส์ และประกิตยกย่องกำพลมากจนชักชวนกำพล มาลงหุ้นด้วยในการเพิ่มทุนครั้งที่สองซึ่งปรากฏว่ายิ่งลักษณ์ วัชรพล ลูกสาวกำพลถือหุ้น 25 หุ้น เป็นความสัมพันธ์ที่ลุ่มลึกและยาวนานอย่างที่คนสองคนพึงมีต่อกัน
ที่บอกว่าประกิตมีจุดแข็งที่มีเดียนั้นจุดใหญ่ก็คือไทยรัฐนี่เอง แม้กระทั่งเมื่อประกิตก่อตั้งบริษัทห้องอัดเสียงทอง เมื่อปี 2523 ป๊ะกำพลก็เป็นคนตัดริบบิ้นและเมื่อมีการเพิ่มทุนครั้งแรกประกิตก็ชักชวนกำพล, ประณีตศิลป์ และยิ่งลักษณ์ วัชรพล ให้มาลงหุ้นด้วย เพราะฉะนั้นเวลาที่เทปของห้างเสียงทองออกมาไทยรัฐก็มีส่วนช่วยโปรโมทด้วยไม่แปลกเพราะช่วยเสียงทองเท่ากับช่วยตัวเอง
เมื่อครั้งที่ประกิตแอนด์แอสโซซิเอทส์ทำโฆษณาชุดเด็กกินดินแล้วถูกรัฐมนตรีท่านหนึ่งจะเล่นงานเพราะหาว่าทำโฆษณาเกินจริง ประกิตก็ได้ไทยรัฐ ช่วยเหลือเอาไว้จึงรอดมาได้
ไม่แปลกที่จะบอกว่าไทยรัฐเป็นไม้ตายของประกิตที่ช่วยให้ประกิตโตขึ้นมาถึงวันนี้ได้และถึงทุกวันนี้ก็ไม่เปลี่ยนเพราะคนอย่างป๊ะกำพล รักใครรักจริง ว่ากันว่าอย่างนั้น
|
|
|
|
|