Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน14 พฤษภาคม 2545
วอนรัฐคุมสินเชื่อบุคคล กู้ง่าย-ไม่มีหลักประกัน หวั่นศก.ล่มซ้ำรอยเดิม             
 


   
search resources

Banking
Credit Card




หวั่นแข่งปล่อยสินเชื่อบุคคล-บัตรเครดิตสร้างภาระหนี้ให้คนไทยมากขึ้น วอนรัฐหาทางคุม กลัวซ้ำรอยเดิม แต่คราวนี้ไม่มีหลักประกัน ด้านผู้ประกอบการบัตรเครดิตของแบงก์มั่นใจลูกค้าอิออน จีอีฯ

หนีมาซบอก ทั้งได้สะสมแต้ม แถมดอกเบี้ยต่ำกว่า

หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ให้ธนาคารพาณิชย์ผู้ออกบัตรเครดิต สามารถกำหนดคุณสมบัติของผู้มีรายได้ขั้นต่ำได้โดยไม่มีเพดานกำหนด

ส่งผลให้ธนาคารผู้ออกบัตรเริ่มมีการปรับเงื่อนไขรายได้ขั้นต่ำกันบ้างแล้ว เริ่มจากธนาคารกรุงเทพ กำหนดรายได้ขั้นต่ำที่ 1 หมื่นบาท

ส่วนที่มาแรงคือธนาคารกรุงไทยกำหนดรายได้ขั้นต่ำของผู้ถือบัตรไว้เพียง 7,500 บาทเท่านั้น

ทำให้หลายฝ่ายเริ่มแสดงความเป็นห่วงถึงการแข่งขันของบัตรเครดิตที่ออกโดยธนาคารพาณิชย ์และบัตรเครดิตที่ไม่ได้ออกโดยสถาบันการเงิน

เนื่องจากข้อได้เปรียบในด้านสาขาการให้บริการ เงื่อนไขหรือส่วนลดต่างๆ ที่บัตรเครดิตจากธนาคารมอบให้กับลูกค้า ย่อมส่งผลให้เจ้าตลาดระดับล่างอย่างจีอี แคปิตอล และอิออน

ต้องถูกกระทบและจะต้องมีกลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อมัดใจลูกค้าหรืออาจจะขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ

แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ดีที่ผู้บริโภคจะได้ประโยชน์ แต่เป้าหมายของผู้ออกบัตรเครดิตที่เหมือนกันคือการส่งเสริมให้ลูกค้าถือบัตรและใช้จ่ายผ่านบัตรให้มากที่สุด เพราะนั่นคือรายได้ของผู้ออกบัตร

ทั้งจากข้อตกลงร่วมกับเจ้าของสินค้า ที่สำคัญที่สุดคืออัตราดอกเบี้ยจากการผ่อนชำระหรือการผิดนัดชำระ

นักการเงินรายหนึ่งกล่าวว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือเมื่อผู้ถือบัตรถูกยุยงส่งเสริมให้ใช้จ่ายมากขึ้น โดยมีสิ่งของอื่นเป็นตัวล่อแล้ว ก็เท่ากับเป็นการเพิ่มโอกาสของการผิดนัดชำระหนี้มากขึ้น

ซึ่งหมายถึงรายได้จากดอกเบี้ยปรับที่ผู้ออกบัตรจะได้รับ

"ถ้ามองจากธุรกิจธนาคาร เวลานี้ต้องยอมรับว่าสินเชื่อส่วนบุคคล จากบัตรเครดิต จัดได้ว่าเป็นสินเชื่อที่สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับธนาคารเป็นอย่างมาก

เห็นได้จากการที่ทุกแบงก์โหมการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล"

ทั้งนี้เป็นผลมาจากสภาพเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว ทำให้แบงก์ไม่สามารถปล่อยสินเชื่อในโครงการขนาดใหญ่ได้ ดังนั้นจึงต้องหันมาเน้นการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล ที่มีรายได้ต่อคนดี

จึงเป็นหน้าที่ของฝ่ายการตลาดที่ต้องหาวิธีการเพื่อให้มีลูกค้าถือบัตรของธนาคารตนให้มากที่สุด ที่ต้องเดินไปพร้อมกับการกระตุ้นให้เกิดการจับจ่าย

ลูกค้าชั้นดีต้องผ่อนชำระ

"รายได้ของผู้ออกบัตรมาจากยอดการผ่อน ชำระเป็นหลัก ดังนั้นลูกค้าที่ดีที่สุดของบัตรเครดิตคือลูกค้าผ่อนชำระ

ขณะที่ลูกค้าที่ใช้จ่ายผ่านบัตรแล้วชำระภายในระยะเวลาที่กำหนดนั้นผู้ออกบัตรจะมีรายได้จากลูกค้ากลุ่มนี้น้อยมาก ผู้ออกบัตรไม่ต้องการลูกค้าที่มีวินัยทาง การเงินในช่วงแรก

แต่ต้องการให้ลูกค้ามีวินัยในช่วงผ่อนชำระ"

นักการเงินรายเดิมกล่าวแนะนำว่า ผู้ถือบัตรเครดิตจะต้องศึกษาถึงเงื่อนไขต่างๆ ให้ดี เพราะมิฉะนั้นจะต้องเจอค่าปรับ ค่าธรรมเนียมต่างๆ หลายรายการ ที่สำคัญที่สุดคือจะต้องมีวินัยทางการเงิน

และต้องบริหารเงินของตนเองให้ได้ หากไม่ต้องการจ่ายดอกเบี้ยก็ต้องหาเงินไปชำระให้ตรงตามที่กำหนด

นักการตลาดของผู้ออกบัตรเครดิตรู้ถึงจุดอ่อนของคนไทยเป็นอย่างดี และเพิ่มการ ส่งเสริมให้ใช้จ่ายมากขึ้น โอกาสของการผิดนัดชำระก็ยิ่งมากขึ้นตามไปด้วย

"แม้ว่าเหตุผลที่ธนาคารแห่งประเทศไทยอนุญาตให้ธนาคารผู้ออกบัตรกำหนดเงื่อนไขของผู้ถือบัตรได้เอง โดยระบุว่าเพื่อให้เกิดการเป็นธรรมในการแข่งขันนั้น ก็ควรจะต้องมีการควบคุมบางเรื่อง

หรือถ้าจะกล่าวว่าบัตรนอนแบงก์นั้นไม่สามารถควบคุมได้เพราะสังกัดกระทรวงพาณิชย์ เรื่องนี้ทางแบงก์ชาติก็น่าจะหารือร่วมกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อรวมกันหากทางควบคุมการปล่อยสินเชื่อ"

แหล่งข่าวกล่าว

การกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศ ด้วยคนไทยด้วยกันถือเป็นเรื่องที่ดีที่จะช่วยฟื้นสภาพเศรษฐกิจของประเทศได้

แต่การฟื้นด้วยวิธีที่ให้คนเป็นหนี้เพิ่มนั้นทางการควรจะต้องพิจารณาเรื่องนี้ด้วยความรอบคอบ

อย่าลืมว่าสินเชื่อประเภทนี้เป็นสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน หากเศรษฐกิจไม่ฟื้น ผู้กู้หรือผู้ผ่อนชำระไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ขึ้นมาระบบการเงินของประเทศก็จะเกิดขึ้นมาอีกครั้ง

ที่สำคัญคือเรื่องปัญหาทางสังคมที่จะตามมาหลังจากการที่ต้องถูกทวงหนี้

โยกถือบัตรฯธนาคาร

การประกาศเปิดศึกชิงลูกค้าบัตรเครดิตของธนาคารพาณิชย์ในระดับล่าง จากบัตรเครดิต ที่ไม่ได้ออกโดยสถาบันการเงิน(Non-Bank) โดยบัตรกรุงไทยได้ลดรายได้ขั้นต่ำผู้ถือบัตรเครดิตเหลือเพียง 7,500

บาทต่อเดือน และจะมีธนาคาร ผู้ออกบัตรอีกไม่น้อยกว่า 3 รายที่จะใช้กลยุทธ์เดียวกันนี้

"เราเชื่อว่าจะมีลูกค้าที่ถือบัตรอิออน และบัตรของจีอีฯ เปลี่ยนมาใช้บริการบัตรเครดิตที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์มากขึ้น" แหล่งข่าวจาก วงการบัตรเครดิตกล่าว

หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ผ่อนปรนกฎเกณฑ์ให้กับธนาคารพาณิชย์ สามารถกำหนดเงื่อนไขผู้มีรายได้ที่ประสงค์จะถือ บัตรเครดิตได้เอง กรณีของบัตรกรุงไทย ที่กำหนด รายได้ขั้นต่ำที่ 7,500

บาทต่อเดือน ถือได้ว่าอยู่ในระดับเดียวกับข้อกำหนดของผู้ถือบัตรอิออน ที่ออกโดยบริษัท อิออนธนสินทรัพย์(ไทยแลนด์) จำกัด(มหาชน) คือ 7,000 บาท

พนักงานของบัตรกรุงไทยกล่าวว่า แม้ว่าเราจะลดคุณสมบัติของผู้ถือบัตรลงมาเหลือแค่ 7,500 บาท แต่เงื่อนไขทางสิทธิประโยชน์ต่างๆ ก็ยังเหมือนเดิม เช่น การใช้จ่ายผ่านบัตรทุก 25 บาท จะได้คะแนน 1

คะแนน เพื่อนำไปใช้แลกของรางวัลได้ รวมทั้งส่วนลดอื่นๆ อีก

ที่สำคัญคือ เรายังคิดดอกเบี้ยกรณีผิดนัดชำระหรือผ่อนชำระที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดีประเภทรายย่อย(MRR) บวก 10% ต่อปี หรือ 17.75% ขณะที่บัตรเครดิตนอนแบงก์จะคิดดอกเบี้ยที่ไม่เกิน 15%

ต่อปี ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดเรื่องการกู้ยืม แต่บัตรเหล่านี้เลี่ยงโดย ใช้คำว่าค่าธรรมเนียมแทน ซึ่งแท้ที่จริงก็คือดอก เบี้ยนั่นเอง ส่วนใหญ่จะเริ่มที่ร้อยละ 2 ขึ้นไป

เบ็ดเสร็จแล้วจะต้องจ่ายดอกเบี้ยประมาณ 36% ต่อปี

จากความแตกต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยน่าจะเป็นแรงจูงใจหลักให้มีการย้ายไปถือบัตรเครดิตที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ ส่วนเรื่องการสะสมแต้มเพื่อแลกสินค้าก็จะเป็นปัจจัยรอง

แต่ก็ต้องถือว่าเป็นจุดดึงดูดที่ดี เพราะบัตรนอนแบงก์ยังไม่มีการออกกลยุทธ์นี้

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us