"บุญชัย เบญจรงคกุล" ท้าประชาพิจารณ์ แอ็คเซ็สชาร์จที่สนามหลวง
ย้ำดีแทคไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการเหมาจ่ายเลขหมายละ 200 บาท เสนอจ่ายให้ทศท.ด้านเดียวในช่วง
50 สต.-1 บาท ตาม
การใช้งานจริง เตรียมประชุมร่วมกับเทเลคอมมาเลเซียและทศท. สัปดาห์หน้าเพื่อความโปร่งใสคาดได้ข้อสรุปใน
1 เดือน ด้านสหภาพฯเตือน ผู้บริหารทศท.ทำอะไรต้องดูข้อกฎหมายให้ดี
นายบุญชัย เบญจรงคกุล ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล
แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือดีแทค กล่าวถึง การเจรจาเรื่องค่าเชื่อมวงจรหรือแอ็คเซ็สชาร์จ
กับองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย(ทศท.) ว่าในสัปดาห์หน้าดีแทคกับทศท. จะเดินทางไปประชุมร่วมกับบริษัท
เทเลคอมมาเลเซีย
เพื่อดูแนวทางปฏิบัติของทางเทเลคอมมาเลเซียในการเก็บค่าแอ็คเซ็สชาร์จ เพื่อหา
ข้อยุติเรื่องการเก็บแอ็คเซ็สชาร์จ หรืออินเตอร์คอนเน็กชั่น ชาร์จ เพื่อ
หาข้อยุติเรื่องการเก็บแอ็คเซ็สชาร์จ
ระหว่างดีแทคกับทศท. ที่ปัจจุบันทศท.เรียกเก็บจากทางดีแทคเลขหมายละ 200
บาทต่อเดือน
ทั้งดีแทคและทศท.รวบรวมข้อมูลปริมาณการใช้งานหรือทราฟิก ในการเข้าไปใช้โครงข่ายของแต่ละฝ่ายเพื่อหาตัวเลขมายืนยันข้อเท็จจริงในช่วง
2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดย
ดีแทคจะยึดในหลักการจ่ายค่าเชื่อม โยงตามปริมาณทราฟิกที่เกิดขึ้นจริง ในอัตราตั้งแต่
50 ส.ต.-1 บาทต่อนาที
"เราไม่ถกเรื่องกทช.จะมีหรือไม่มี เรายึดหลักการว่าทศท.จะเป็น ผู้ดูแลในตอนนี้
ไม่เถียงประเด็นอื่น ดีแทคขอจ่ายตามที่เราใช้ โดยเป็น การจ่ายฝ่ายเดียว
เมื่อมีกทช.ค่อยมาคิดว่าทศท.ควรจ่ายให้เราหรือไม่"
การเปลี่ยนอัตราการคิดแอ็คเซ็สชาร์จดังกล่าว ในความเห็น นายบุญชัย เป็นเพียงการทำให้เกิด
ความเป็นธรรมระหว่างผู้ให้บริการด้วยกัน ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคได้รับผลประโยชน์จากการแข่งขันที่ดีขึ้น
ในขณะที่บริษัทอยู่ได้ ไม่เช่นนั้นบริษัทที่ใหญ่กว่าและมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันก็จะกลืนบริษัทอื่นหมด
"การที่ต้องไปเทเลคอมมาเลเซีย เป็นเพราะทศท.ต้องการคนกลางไม่เช่นนั้นจะทำให้ดูไม่ชัดเจนไม่โปร่งใส
เราจะไปดูว่าเขาปฏิบัติอย่างไรในประเทศเขา"
แนวทางดังกล่าวคาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปภาย ใน 1 เดือน ซึ่งภายหลังจากที่มีกทช.หหรือคณะกรรมการกำกับกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
แนว
ทางนี้จะนำมาใช้คิดการเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างกันของผู้ให้บริการไม่ว่าจะเป็นทีเอหรือทีทีแอนด์ที
นายบุญชัยย้ำว่า หากไม่มีการเปลี่ยนแปลง การคิดแอ็คเซ็สชาร์จ ดีแทคไปไม่รอด
เพราะหาก เทียบกับคู่แข่งจะเห็นต้นทุนที่แตกต่างกันหลายหมื่นล้านบาท
และแนวทางที่ดีแทคเสนอไปเป็นไปตามหลักสากล ซึ่งหากพูดถึงในต่างประเทศ การเชื่อมโยงเครือข่าย
โทรศัพท์พื้นฐาน จะต้องเป็นฝ่ายที่จ่ายให้โทรศัพท์มือถือถึง 7 เท่า แต่ใน
ประเทศไทย
หากจ่ายได้เท่ากันก็ถือเป็นเรื่องที่ดีแล้ว
"เราปฏิบัติตามสากล เราพร้อมเสมอ หากมีการจัดประชาพิจารณ์ เชิญดีแทค
นักวิชาการ ทศท.และผู้ประกอบการรายอื่น ไม่ใช่มาด่ากันข้ามสื่อ โกงชาติ ขโมยเค้ก
จัดกันที่สนามหลวงก็ได้ พูดกันแฟร์ๆ
เราไม่ยอมเลิกลาเรื่องนี้ โดย ที่มาตีขลุมว่าเราชั่วหรือเราไม่ดี"
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ดีแทค ยังจ่ายค่าเชื่อม วงจรตามปกติ เพราะจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา
ที่มีการขู่ว่าจะตัดการเชื่อมโยงเครือข่าย ทำให้ลูกค้าดีแทคใช้งานไม่ได้
ทำให้ยอดลูกค้าในช่วงนั้น หายไป 80-
90% แต่ในขณะนี้เหตุการณ์ได้กลับคืน ภาวะปกติแล้ว
"ผมขอย้ำว่าเราปฏิบัติตามสิ่งที่ชอบธรรม ผมไม่มีหุ้นในดีแทคสักหุ้นเดียว
แต่เป็นสิ่งที่บริษัทที่มีธรรมาภิบาลที่ดีต้องทำ แต่หากมีการประชุมกันนานเกินควร
ก็ถือว่าเราถูกรังแกจนอยู่ ไม่ได้ ทนมา 10 ปี
ถ้าวันนี้ เราจะล้มหายตายจาก ต้องทำความจริงให้ปรากฏ"
นายบุญชัย ให้ความเห็นว่าเวลานี้ อุตสาหกรรมโทรคมนาคมไม่โปร่งใส เพราะยิ่งโปร่งใส
ประชาชนจะได้ประโยชน์โดยเฉพาะจากการคิดราคาเดียวทั่วประเทศ สำหรับดีแทค การคิดราคา
ทั่วประเทศ
สำหรับดีแทคการติดตามราคาเดียวทั่วประเทศ หรือถูกกว่าคู่แข่ง 4 เท่า เกิดขึ้นจาก
การที่ชุมสายโทรศัพท์มือถือกำหนดตัวไว้อย่างนั้นจริงๆ การคิดเป็นโซนถือเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค
โกงผู้บริโภค
เพราะสัญญาณโทรศัพท์มือถือจะวิ่งบนเครือข่ายโทรศัพท์มือถือแล้วไปเชื่อมต่อกับชุมสายโทรศัพท์ของทศท.เป็นโลคัล
คอล หรือการโทร.ในพื้นที่ การคิดอัตรานาทีละ 12 บาท 18 บาท
จึงถือเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค
"หากไม่ได้รับความเป็นธรรม ผมจะซีเรียส ในแบบของผม จะร้องให้ชาวโลกรู้ว่าเราถูกเชือดคอ"
อย่างไรก็ตาม นายบุญชัย ยังมีความหวัง เพราะเชื่อว่านายสุธรรม มลิลา ผู้อำนวยการทศท.
เป็นผู้หนึ่งที่เข้าใจในเรื่องดังกล่าวดี
"ผมคิดว่าผอ.พอเข้าใจว่ามันตรงไปตรงมา ตามแบบที่คุยกัน คิดว่าน่าจะได้ข้อสรุป
แล้วนำเรื่องเข้าบอร์ดทศท.ต่อไป"
นายมิตร เจริญวัลย์ ประธานสหภาพ แรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย
(สรท.) กล่าวว่า ขณะนี้เข้าใจว่าคน ในวงการโทรคมนาคมมีทั้งเห็นใจดีแทค และทั้งไม่เห็นใจดีแทค
พอๆกัน
เพราะในวันแถลงข่าวการไม่จ่ายเงินค่าแอ็คเซ็สชาร์จนั้น มีอดีตปลัดกระทรวงคมนาคม
นายศรีภูมิ ศุขเนตร ใน ฐานะประธานกรรมการยูคอมร่วมแถลงข่าวด้วย
ทำให้คนที่รู้ว่าดีแทคหรือยูคอมขายคลื่นความถี่ที่ได้รับจากกระทรวงคมนาคมไปให้กับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่
1800 รายอื่นถึง 2 ราย เป็นเงินกว่า 5,000 ล้านบาท ก็คงไม่เห็นใจดีแทค
หรือไม่เห็นใจนายบุญชัย
แต่คนที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง ความลึกลับซับซ้อนในกระทรวงคมนาคมที่อนุมัติความถี่ให้เกินความจำเป็นให้กับดีแทค
คงมีความเห็นใจกับดีแทคหรือเห็นใจนายบุญชัยที่ได้รับความไม่เป็นธรรมดังกล่าว
"อย่างไรก็ตาม ต้องศึกษาความเป็นไปไดในทางกฎหมายด้วย หากจะดำเนินการอะไรไป
ผมว่าผู้อำนวยการทศท.จะเกษียณอายุในอีก 2 หรือ 3 เดือนข้างหน้า หากท่านจะทำอะไร
ต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดี มิใช่เกษียณไปแล้วจะไม่มีเวลาพักผ่อน เพราะต้องใช้เวลาที่เหลือในบั้นปลายชีวิตไปแก้ต่างคดีความในศาล
ง่ายที่สุด ในขณะนี้
ปลอดภัยทุกฝ่ายไม่ต้องพยายามล็อบบี้ให้ควบรวมทศท.กับการสื่อสารให้เหนื่อย
เปลี่ยน สัญญาสัมปทานไปอยู่ไปอู่ภายใต้ทศท. ทุกอย่างจะเป็นธรรมเท่ากันหมด"