"ชุมพล" นำทีม 4 ผู้บริหารระดับสูงของปูนใหญ่ตบเท้าเข้าโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด ทยอยมีผลตั้งแต่ 1 ก.ค. 48 และ 1 ม.ค. 49 ย้ำการบริหารงานไม่สะดุดเนื่องจากมีการวางตัวผู้บริหารที่เข้ามารับตำแหน่งที่ว่างลงไว้แล้ว คาด "กานต์ ตระกูลฮุน" เข้าเสียบตำแหน่งแทน "ชุมพล" ชี้เป็นครั้งแรกที่มีผู้บริหารระดับสูงพ้นตำแหน่งรวดเดียว 6 คน โดยเข้าโครงการนี้ 5 คน และอีก 1 คนเกษียณอายุ

นายอภิพร ภาษวัธน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เคมีภัณฑ์ซิเมนต์ ไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจปิโตรเคมีในเครือปูนซิเมนต์ไทย เปิดเผยว่า ในปีนี้จะมีการปรับโครงสร้างผู้บริหารเครือซิเมนต์ไทยครั้งใหญ่ เนื่องจากจะมีผู้บริหารระดับสูงของเครือซิเมนต์ไทยเข้าโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด (Early Retired) เป็นจำนวน 5 คน ประกอบด้วย นายชุมพล ณ ลำเลียง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) และตน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2549

ส่วนนายดุสิต นนทะนาคร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ค้าวัสดุซิเมนต์ไทย จำกัด นาย อวิรุทธ์ วงศ์พุทธพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิเมนต์ไทยพร็อพเพอร์ตี้ (2001) จำกัด (มหาชน) และนายชลาลักษณ์ บุนนาค กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิเมนต์ไทยโฮลดิ้ง จำกัด จะพ้นจากตำแหน่งในวันที่ 1 กรกฎาคม 2548 ส่วนนายสมบูรณ์ ชัชวาลย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เยื่อกระดาษสยาม จำกัด (มหาชน) ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ แต่จะเกษียณอายุครบ 60 ปี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2549

การปรับเปลี่ยนผู้บริหารระดับสูงของเครือปูนใหญ่ครั้งนี้จะไม่มีผลทำให้การบริหารงานเครือฯสะดุด เนื่องจากได้มีการวางตัวผู้บริหารระดับสูงที่จะเข้ามารับตำแหน่งมาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยนายกานต์ ตระกูลฮุน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ จะเข้ามารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่แทนนายชุมพล ซึ่งเป็นที่รู้กันบรรดาพนักงานของเครือซิเมนต์ไทยว่าเก้าอี้กรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่คงหลีกไม่พ้นภายหลังจากนายกานต์ ตระกูลฮุน ได้รับมอบหมายให้เข้ามาดูแลการเงินของเครือฯ และถือเป็นลูกหม้อเก่าคนหนึ่งของเครือฯ โดยจบปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ (ไฟฟ้า) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโทวิศวกรรมศาสตร์และบริหารธุรกิจจากสหรัฐฯ

ส่วนนายชลณัฐ ญาณารณพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เคมีภัณฑ์ซิเมนต์ไทย จำกัด จะเข้ามาดำรงตำแหน่งแทนนายอภิพรที่พ้นตำแหน่งไป นายเชาวลิต เอกบุตร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เยื่อกระดาษสยาม จำกัด (มหาชน) ก็เข้ามาดำรงตำแหน่งแทนนายสมบูรณ์ที่เกษียณอายุ นายดำริ ตันชีวะวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิเมนต์ไทยโฮลดิ้ง ก็เข้านั่งเก้าอี้แทนนายชลาลักษณ์

สำหรับตำแหน่งที่ว่างของนายอวิรุทธ์ วงศ์พุทธพิทักษ์ นายดุสิต นนทะนาคร และนายกานต์ ตระกูลฮุน ยังไม่ได้พิจารณาว่าจะมีการแต่งตั้งใครเข้ามาดำรงตำแหน่ง เพราะปัจจุบันบริษัท ซิเมนต์ไทยพร็อพเพอร์ตี้ฯที่ดูแลเกี่ยวกับที่ดินของเครือฯนั้นได้มีการจำหน่ายออกไปจำนวนมากในช่วงหลังวิกฤตเศรษฐกิจ เนื่องจากเครือซิเมนต์ไทยมีนโยบายที่ตัดขายธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักออกไป อีกทั้งบางสายงานธุรกิจนายอวิรุทธ์ได้มีการส่งมอบให้นายกานต์ดูแลไปก่อนหน้านี้ ดังนั้นการแต่งตั้งตำแหน่งที่ว่างลงคงขึ้นกับการพิจารณาของคณะกรรมการบริษัทฯ

แหล่งข่าวจากบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด มีมานานกว่า 20 ปี โดยจะมีการนำโครงการนี้มาใช้ในบางปีเท่านั้น ซึ่งโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด ในปีนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่มีผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วมโครงการมาก เนื่องจากผู้บริหารชุดปัจจุบันนี้มีอายุและเข้ามารับตำแหน่งในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน ทำให้เวลาไปก็จะไปพร้อมกันหมด ซึ่งผู้บริหารชุดใหม่ที่จะเข้ามารับตำแหน่งนี้จะมีอายุเฉลี่ยประมาณ 45 ปี ทำให้มีเวลาทุ่มเทบริหารงานให้เครือปูนใหญ่กว่า 10 ปี เช่นเดียวกับทีมบริหารของนายชุมพลที่เข้ามาดูแลในกลุ่มธุรกิจต่างๆกว่า 10 ปีเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม การออกของทีมผู้บริหารระดับสูงของปูนใหญ่ครั้งนี้ ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานมากนัก เนื่องจากที่ผ่านมาในยุคของชุมพล ได้มีการวางระบบงานต่างๆไว้อย่างเป็นระบบรวมถึงทิศทางการดำเนินงานในอนาคต โดยมีการกำหนดกลุ่มธุรกิจที่เครือฯให้ความสำคัญ หลังจากได้นำปูนใหญ่ฝ่าคลื่นวิกฤตเศรษฐกิจในยุคค่าเงินบาทลอยตัวจนปูนใหญ่ขาดทุนมหาศาล จนกระทั่งปีที่ผ่านมาถือเป็นปีที่เครือซิเมนต์ไทยมีผลประกอบการ ดีที่สุดเท่าที่ก่อตั้งมากว่า 80 ปี