ดาต้าแมทจะเพิ่มทุนอีก 360 ล้านบาท เพื่อนำเงินไปชำระหนี้ เพราะต้องการให้ส่วนผู้ถือหุ้นเป็นบวก
และจะขอย้ายหมวดจากฟื้นฟูกิจการไปเทรดในหมวดปกติ เผยจะขอ ตลท.เพิ่มหมวดใหม่
IDC
หรือดูแลรักษาข้อมูล ขณะที่หุ้นอีกจำนวน 1 ใน 3 รองรับการขยายธุรกิจและเตรียมพร้อมสำหรับการ
หาพาร์ตเนอร์ ด้วยวิธีการแลกหุ้นและร่วมดำเนินทางธุรกิจ
มากกว่าการนำเงินเข้ามาลงทุนเพื่อหวังกำไรเพียงอย่างเดียว ขณะนี้เจรจาอยู่หลายราย
คาดสรุป ได้ไม่เกิน 6 เดือน แจงรายได้ของบริษัทปีน้าไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท
นายมนู อรดีดลเชษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดาต้าแมท จำกัด (มหาชน) หรือ
DTM เปิดเผยว่า ในปีนี้ดาต้าแมทต้องการขยายงานเพิ่มขึ้นอีก และบริษัท
ก็เตรียมพร้อมสำหรับเงินทุนที่จะใช้ในการขยายงาน ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบในการเพิ่มทุนอีกประมาณ
360 ล้านบาท หากดาต้าแมทมีความต้องการใช้เงินทุนก็ทำการเพิ่มทุนได้ทันที
เนื่องจากแผนการลงทุนของดาต้าแมท คือการเข้าซื้อกิจการทั้งในและต่างประเทศ
ซึ่งจะต้องซื้อบริษัทซื้อบริษัทอื่นที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน โดยอาศัยความชำนาญที่แตกต่างเข้ามารวมกัน
จะเป็นการ
เสริมสร้างความแข็งแกร่งในการทำธุรกิจ ซึ่งจะทำ ให้การขยายทางธุรกิจมีความมั่นคงและยั่งยืน
เพราะหากดาต้าแมทต้องลงทุนเองทั้งหมด จะทำให้การเติบโตของบริษัทเป็นไปได้ช้า
สำหรับการออกหุ้นเพิ่มทุนนั้น เป็นเหตุผลที่ ต่อเนื่องมาจากการออกหุ้นเพิ่มทุนครั้งก่อนจำนวน
400 ล้านบาท ซึ่งในครั้งนั้นเป็นการเพิ่มทุนเพื่อปรับโครงสร้างหนี้และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
แต่หากจะขายงานเพิ่มอีกก็ต้องใช้เงินทุนเพิ่มเช่นกัน ดังนั้นการเพิ่มทุนที่ได้ขอไว้กับผู้ถือหุ้นไว้แล้วจำนวน
ดังกล่าว โดยเงินทุน 1 ใน 3
ส่วนจะกันไว้สำหรับให้กับผู้ร่วมทุนต่างชาติหรือในประเทศที่จะเข้ามาร่วมมือทางธุรกิจกัน
แต่อีกบางส่วนจะกันไว้สำหรับการขยายงาน ซึ่งเมื่อได้เงินจากการลงทุนแล้ว
ก็จะนำเงินที่เป็นทุนกลับไปลงทุนหมุนเวียน
"การเพิ่มทุนครั้งนี้ของเรา จะอาจมีการกระจายหุ้นทั้งในรูป PO และ
PP แต่ในส่วนของการเพิ่มทุนนั้น เราต้องการให้ผู้ที่จะมาร่วมทุนกับเราเพื่อเป้าหมายในการร่วมทำธุรกิจ
นำหุ้นมาแลกกันจะดีกว่า
เพราะจะส่งผลให้การทำธุรกิจยั่งยืน มากกว่าที่จะให้นำเงินมาลงทุนเพื่อหวังกำไรเท่านั้น
ขณะนี้เรามีการเจรจากับบริษัททั้งในและต่างประเทศ บางบริษัทมีการเซ็น MOU
แล้ว แต่ยังตกลงกัน
ไม่ได้เพราะเรื่องราคาหุ้นที่ยังไม่แน่นอน และการ ทำธุรกิจของเราก็ต้องมุ่งไปทั้งในและต่างประเทศ"
นายมนูกล่าว
สำหรับการเพิ่มทุนในครั้งนี้ จะทำให้เกิด DILUTION EFFECT กับผู้ถือหุ้นแน่นอน
แต่การเกิดภาวะดังกล่าว ก็ทำให้ฐานใหญ่ขึ้นผู้ถือหุ้นไม่น่าจะมีปัญหา
แต่การเจรจาราคาหุ้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาเพราะหาข้อสรุปได้ยาก และกว่าจะเริ่มปฏิบัติงานร่วมกันและรับรู้รายได้เข้ามาต้องใช้เวลาพอสมควร
และการเพิ่มทุนของดาต้าแมทในครั้งนี้ เป็นผลมาจากการดำเนินงาน หลังจากที่หุ้นของบริษัทได้กลับมาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในหมวดฟื้นฟูกิจการหรือ
REHABCO
ซึ่งแผนการดำเนินงานของดาต้าแมทในปีนี้นั้น จะเน้นในการทำธุรกิจหลักที่บริษัทมีความชำนาญ
นั่นคือการบริการวางระบบ จัดหา ติดตั้ง ให้คำปรึกษาและบริหารโครงการ สารสนเทศ
ตลอดจนระบบเครือข่าย ซึ่งใช้บุคลากรของบริษัทที่เหลืออยู่ประมาณ 300 คน
รวมทั้งการหาผู้ร่วมทุนเข้ามาด้วย
โดยดาต้าแมทเน้นการทำธุรกิจ 4 ภาค คือ ภาคการเงิน โทรคมนาคม การสื่อสารและภาครัฐบาล
ที่หันมาให้ความสำคัญกับการวางระบบเครือข่าย ซึ่งดาต้าแมทมีวิสัยทัศน์ในการประกอบกธุรกิจ
เพื่อให้บริษัทของไทยเป็นบริษัทที่มีศักยภาพ ระดับโลก ด้วยนวัตกรรมและการบริหาร
เพื่อใช้ประโยชน์จากทรัพยากรด้านสารสนเทศให้คุ้มค่าที่สุด
อย่างไรก็ตาม ดาต้าแมทก็เข้าร่วมประมูลงานต่าง ๆ ที่บริษัทเข้าร่วมประมูลทั้งในและต่างประเทศ
ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างที่ดาต้าแมทยื่นประมูลงานของธนาคากรุงไทย มูลค่าประมาณ
1 พันล้านบาท
และเดือนที่ผ่านมาดาต้าแมทก็ชนะงานประมูลงานให้กับธนาคารแห่งมูลค่า 200
ล้านบาท ซึ่งดาต้าแมท ยังมีโครงการอีกประมาณ 10 แห่งที่กำลังจะยื่นเรื่อง
เข้าประมูล แต่งานประมูลมีขนาดไม่ใหญ่นัก
สิ่งที่ดาต้าแมท ต้องเร่งดำเนินการ คือการ หาข้อสรุปในการหาผู้ร่วมทุนที่มีความสามารถ
เข้าร่วมงานกัน โดยเฉพาะบริษัทที่มีเครือข่ายฐานข้อมูลอยู่แล้ว ขณะนี้เจรจาอยู่
3
บริษัทคาดว่าจะสรุปผลได้ในอีกไม่เกิน 6 เดือน
นายมนูกล่าวว่า นอกจากเรื่องที่กล่าวมาแล้ว ในปีนี้ดาต้าแมทวางเป้าหมายที่จะออกจากการ
เป็นบริษัทที่หุ้นซื้อขายในหมวดฟื้นฟูกิจการ เพราะหากบริษัทเพิ่มทุนแล้วนำเงินไปชำระหนี้บางส่วน
ได้หมดก็ทำให้บริษัทมีสภาพที่ดีกว่าปัจจุบันได้ ซึ่งดอกเบี้ยค้างชำระที่ดาต้าแมทติดค้างกับธนาคารอยู่นั้น
ธนาคารจะตัดเป็นหนี้สูญคืนยกเลิกให้ทั้งหมด แต่บริษัทต้องนำเงินไปชำระหนี้ที่มีอยู่ประมาณ
500 กว่าล้านบาท ซึ่งจะส่งผลต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่จะเป็นบวก จึงจะสามารถขอย้ายออกจากหมวดฟื้นฟูกิจการได้
โดยดาต้าแมท ไม่ต้องการย้ายเขาไปอยู่ในหมวดของเครื่องใช้ไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์เหมือน
ที่ผ่านมาแล้ว เพราะปัจจุบันการทำธุรกิจเกี่ยวกับการ วางระบบเครือข่ายต่างๆเปลี่ยนไปมาก
หากดาต้าแมท
จะขอย้ายหมวดแล้วจะยื่นเรื่องเพื่อให้ตลาด หลักทรัพย์ฯ เพิ่มหมวดซื้อขายหุ้นอีกหนึ่งคือ
หมวด IDC (INTERNET DATA CENTER) หรือ ดูแลรักษาข้อมูล โดยบริษัทที่น่าจะอยู่ในหมวดดัง
กล่าวคือ บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) หรือ SVOA บริษัท เมโทรซิสเต็มส์
คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MSC และบริษัท อินเตอร์เน็ต (ประเทศไทย)
จำกัด(มหาชน) หรือ INET ด้วย แต่
นั่นหมายถึงว่าจะต้องมีบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในทำนองเดียวกันนี้อีก 2-3
บริษัทที่ต้องจดทะเบียนเพิ่มอีก
สำหรับผลการดำเนินงานของดาต้าแมทในปีนี้นั้น ระยะเวลา 3 เดือน รายได้ของดาต้าแมทยัง
จะมาจากการดำเนินธุรกิจหลักของบริษัทคือการ ให้บริการกับลูกค้ากลุ่มเดิมที่เคยให้บริการกัน
มาตั้งแต่เมื่อครั้งที่เกิดวิกกฤตทางการเงิน ดังนั้นรายได้จึงจะมีเพียง
300 ล้านบาทต่อปีเท่านั้น และรายได้ของดาต้าแมทยังจะอยู่ในระดับนี้ต่อไปจน
ถึงปีหน้า
เนื่องจากการเจรจากับผู้ร่วมทุน ตลอดจนการดำเนินธุรกิจและหาลูกค้าใหม่ ๆ
นั้น จะต้องใช้เวลาในการเจรจากว่าจะหาบทสรุปและเริ่มปฏบัติงาน ร่วมกันได้
และกว่าจะสร้างรายได้เข้ามาย่อมใช้เวลาจนถึงสิ้นปี ดังนั้น รายได้ที่จะรับรู้ในงบการเงินรวมจึงจะเกิดขึ้นในปีหน้า
"รายได้ไตรมาสแรกปีนี้ไม่ต่างจากปีก่อน และตัวเลขรายได้จะเปลี่ยนไปหลังจากไตรมาส
3 ปีนี้ แต่โดยรวมแล้วภาพของรายได้ของเราก็จะไม่เปลี่ยนไปจากช่วงที่เกิดวิกฤต
เนื่องจากฐานลูกค้าเรายังเป็นกลุ่มเดิมที่คงใช้บริการกับเรามาตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤต
และส่วนที่เสียไปคือสถาบันการเงิน 56 แห่งที่ถูกปิดตัวไป" นายมนูกล่าว