Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ เมษายน 2548








 
นิตยสารผู้จัดการ เมษายน 2548
Metro Madrid หนึ่งในรถไฟฟ้าต้นแบบ             
โดย ธนิต แก้วสม
 





ผู้ใดได้เดินทางมาที่เมืองมาดริด ถ้ามีโอกาสได้ใช้รถไฟฟ้า ก็ต้องประทับใจกับรถไฟฟ้าใต้ดินของที่นี่อย่างแน่นอน การออกแบบรถ ราคาค่าโดยสาร เครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วทั้งเมือง ระบบความปลอดภัยและระบบการให้บริการ ล้วนเป็นปัจจัยที่สร้างความประทับใจได้ทั้งสิ้น และผลลัพธ์ที่น่าประทับใจที่ได้รับจากระบบที่สมบูรณ์นี้ก็คือ เราสามารถสูดอากาศที่สดชื่นและบริสุทธิ์ได้แม้จะอยู่กลางตัวเมืองมาดริด

มาดริดเริ่มระบบรถไฟฟ้านี้เมื่อปี 1919 โดยกษัตริย์ Alfonso XIII เป็นประธานเปิด ในวันที่ 17 ตุลาคม โดยสายแรกวิ่งระหว่าง Puerta del sol และ Cuatro caminos มีระยะทางยาว 3.48 กิโลเมตร ประกอบด้วย 8 สถานี การเริ่มต้นในครั้งนั้นถือว่าประสบความสำเร็จ อย่างมาก ในช่วงหนึ่งปีแรกมีผู้ใช้บริการถึง 14 ล้านคน อีกหกปีต่อมามีการเพิ่มระยะทางเป็นสี่เท่า คือ จากเดิม เป็น 14.6 กิโลเมตร แม้ว่าในช่วงสงครามกลางเมือง ระหว่างปี 1936-1939 ก็เปิดให้บริการปกติ พร้อมกับมีการเพิ่มเส้นทางเป็นระยะๆ เมื่อมีการขยายงานเพิ่มมากขึ้น รัฐบาลก็ได้เข้ามาร่วมทุนด้วยกับบริษัท Metro ในบางช่วงบริษัทก็ประสบปัญหาการเงินบ้างเช่นกัน เนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้น การลงทุนในโครงการขยายเส้นทางใหม่อย่างต่อเนื่องและราคาบริการที่ค่อนข้างต่ำ แต่รัฐบาลก็ได้เข้ามาช่วยเหลือให้พ้นจากสภาวการณ์ดังกล่าวได้ทุกครั้ง จนกระทั่งในปี 1983 Metro มีระยะทางวิ่งมากกว่า 100 กิโลเมตร

ต่อมาในปี 1986 เทศบาลเมืองมาดริดก็ได้เข้ามาเป็นเจ้าของบริษัท Metro อย่างเต็มตัว ส่งผลให้การพัฒนาเส้นทางใหม่เป็นไปแบบก้าวกระโดด ในปี 1999 เมโทรวิ่งไปถึงสนามบิน Barajas ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมือง 15 กิโลเมตร พร้อมกับเส้นทางใหม่ไปเขตชานเมืองอีกหลายจุด จนถึงปีดังกล่าว ระยะทางรวมได้กลายเป็น 171 กิโลเมตร กับ 158 สถานี

ในปี 2000 มีการเริ่มโครงการขนาดยักษ์ คือ Metro Sur ถือว่าเป็นโครงการสาธารณะพื้นฐานที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป เป็นโครงการรถไฟใต้ดินชานเมืองฝั่งใต้ของมาดริด เป็นรูปวงแหวนขนาดใหญ่ ความยาว 40.7 กิโลเมตร เชื่อมโยง 5 เขตที่อยู่อาศัย โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย และยังมีส่วนเชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้าหลักของเมือง เป็นครั้งแรกที่มีการใช้หัวขุดเจาะอุโมงค์ 7 เครื่อง ไปในเวลาเดียวกัน ว่ากันว่าถ้าเอาปริมาณ ดินทั้งหมดที่ขุดขึ้นมาได้กองรวมกัน ก็จะได้กองดินขนาดมหึมาเลยทีเดียว มีการนำรถไฟแบบล่าสุดมาใช้ มีความสะดวกและความปลอดภัยสูง ทำความเร็วได้ถึง 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ดังกล่าว จำนวนหนึ่ง ล้านกว่าคนที่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากโครงการ Metro Sur ซึ่งได้เปิดให้บริการในปี 2003 เฉพาะโครงการ Metro Sur นี้ใช้เงินลงทุนไปทั้งหมด 1,143 ล้านบาท

Metro Madrid ใช้เวลา 86 ปี จึงมีระบบรถไฟฟ้าที่สะดวกสบายให้ชาวมาดริดได้ใช้ในวันนี้ และได้ใช้เวลาเท่านี้จึงจะมีตัวเลขน่าสนใจดังต่อไปนี้ 12 สาย 227 กิโลเมตร 190 สถานี 1,223 บันไดเลื่อน 282 ลิฟต์ ผู้ใช้บริการ 615 ล้านคน (ปี 2004)

ความประทับใจแรกสำหรับผู้ที่เพิ่งเดินทางมาถึงมาดริด คือ เมื่อลงเครื่องบินก็สามารถนั่งรถไฟฟ้าจากสนามบินเข้ามายังตัวเมือง ในเวลาเพียง 15 นาที โดยจ่ายค่าเดินทางเพียง 1.15 ยูโร หากต้องการเที่ยวต่อในมาดริด ก็สามารถซื้อตั๋ว 10 เที่ยว ในราคาเพียง 5.80 ยูโร ความประทับใจอันต่อมาคือ มีทั้งเครื่องขายตั๋วอัตโนมัติและจุดขายตั๋ว โดยเฉพาะเครื่องขายตั๋ว สามารถจ่ายได้ทั้งแบบหยอดเหรียญ ธนบัตร และบัตรเครดิต และหากต้องการขึ้นมาดูทิวทัศน์ด้านบน ก็จะพบว่า ตั๋วเมโทรกับตั๋วรถเมล์ เป็นตั๋วใบเดียวกัน ใช้ร่วมกันได้ สำหรับผู้ที่มาใหม่หากมีเวลามากก็ไม่ต้องกลัวหลงทางเพราะว่าเป็นแบบราคาเดียวตลอดสาย จะขึ้นกี่สาย ไปมากี่ครั้งก็จ่ายแค่ครั้งเดียว (ถ้าไม่เผลอเดินออกจากสถานี) สำหรับผู้อยู่อาศัยประจำก็สามารถ ประหยัดได้หลายรูปแบบ อาทิ ตั๋วเดือน ตั๋วปี ตั๋วเยาวชน ตั๋วคนชรา เป็นต้น ระบบเครือข่ายขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงทุกจุดของเมือง ทำให้สามารถเดินทางไปทั่วมาดริด ได้ในเวลาเพียงวันเดียว

ในส่วนของระบบสัญลักษณ์ ป้ายบอกทาง ระบบ การจัดระเบียบผู้โดยสาร เป็นระบบที่เข้าใจง่าย เสียเวลาศึกษาแผ่นพับเส้นทางการเดินรถสักสิบนาที ก็สามารถเข้าใจได้ทั้งระบบ

ในด้านความปลอดภัย นอกจากระบบความปลอดภัยที่ติดตั้งมากับตัวรถและในตัวสถานีแล้ว ก็จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและยามเอกชน ลาดตระเวนอยู่เกือบ ในทุกขบวน

ลักษณะพิเศษอีกอย่างหนึ่งของเมโทรมาดริดคือ มักจะมีศิลปินพเนจร มาขับร้องให้ความเพลิดเพลิน แก่ผู้โดยสารอยู่เสมอๆ ทั้งในขบวนรถและบริเวณทางเดินในสถานี

ถือได้ว่า Metro Madrid มีส่วนสำคัญอย่างมาก ที่ทำให้เมืองมาดริด พัฒนามาได้จนถึงทุกวันนี้ ทำให้เมืองมาดริดที่มีประชากร 4 ล้านกว่าคน เป็นเมืองที่มีอากาศสดชื่น สะอาด ไม่มีควันดำ ไม่มีมลพิษ ไม่มีทางด่วนสองชั้นสามชั้นบดบังทัศนวิสัย มีรถติดน้อยมาก จนทำให้ชาวมาดริดมีความมั่นใจที่จะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิก ปี 2012

มาดริดเริ่มต้นเมื่อปี 1919 ใช้เวลา 86 ปี จึง สร้างรถไฟใต้ดินได้ 12 สาย กับระยะทาง 227 กิโลเมตร กรุงเทพฯ เริ่มสายแรกเมื่อปี 2004 กับระยะทางเริ่มต้น 20 กิโลเมตร

เมื่ออ่านมาถึงจุดนี้ บางทีอาจจะทำให้ผู้อ่านมีจินตนาการที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับอนาคตของกรุงเทพมหานคร ในช่วงห้าสิบปีหรือหนึ่งร้อยปีข้างหน้า หรือไม่ก็อาจเกิดข้อสงสัยหลายประการเกี่ยวกับระบบการพัฒนาเมืองของประเทศไทยในช่วงหนึ่งศตวรรษที่ผ่านมา   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us