State Tower มีเรื่องเล่าที่น่าสนใจมากมาย เช่นเดียวกับ รัฐวดี บัวเลิศ CEO สาว ผู้มีเรื่องราวในการทำธุรกิจที่มีสีสันไม่แพ้กัน

"มีคนบอกว่าวันนี้ดูอีนแจ่มใสขึ้น" รัฐวดี บัวเลิศ กล่าวอย่างร่าเริงหลังจากนั่งลงใน Mezzaluna ร้านอาหารสไตล์อิตาเลียน บนยอดตึก State Tower ซึ่งหากมองผ่านกระจกใสออกไปจะเห็นทิวทัศน์ของกรุงเทพฯ แม่น้ำพระยา และพื้นที่สีเขียวของอำเภอบางกระเจ้าชัดเจน ท่ามกลางเปลวแดดร้อนจัดยามบ่าย

"เพิ่งเข้าใจที่ผู้ใหญ่เขาเคยบอกว่าประสบการณ์จะช่วยได้ ระหว่างเด็กจบใหม่กับคนที่ทำงานมาแล้ว ต่างกันจริงๆ ตอนนี้แนวทางการทำงานค่อนข้างชัดเจน อีนเป็นคนที่รู้ตัวว่าเราเป็นใคร กำลังจะทำอะไร แล้วจะไปที่ไหน เมื่อมีคำตอบพวกนี้อยู่ในใจ ก็เลยสบายใจเดินหน้าต่อไปได้ ทำไปเรื่อยๆ เท่าที่กำลังจะทำได้อย่างนกน้อยค่อยทำรังแต่พอตัว" เธออธิบายต่อพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

เพราะรังของเธอไม่เล็กเลย ปัจจุบันเธอคือ CEO ของบริษัทแชลเลนจ์ พร็อพเพอร์ตี้ เจ้าของตึก State Tower อาคารหลังใหญ่บนถนนสีลม ที่ต้องรับผิดชอบ การขายพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 300,000 ตารางเมตร

"เดือนหน้าอีนจะไปอเมริกา ไปชอปไอเดียมาทำโครงการใหม่และไปหาเชฟชื่อดังๆ เพราะปลายปีนี้ จะทำกูเม่ต์เฟสติวัล โดยจะเชิญเชฟชื่อดังมา 6 คน เป็นเฟสติวัลใหญ่ประจำปี โดยจะทำที่เดอะโดมเป็นปีแรก" เธอเล่าต่อ

โครงการใหม่ที่ว่าจะเกี่ยวเนื่องกับร้านอาหารแห่งใหม่ ซึ่งในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้น เธอได้ให้บริษัทโบรกเกอร์หาบ้านเก่าในพื้นที่ดินไม่ต่ำกว่า 1 ไร่ ระยะเช่าไม่ต่ำกว่า 10 ปีบนทำเลของถนนสุขุมวิท เพื่อสร้างร้านอาหารในสวนที่ร่มรื่นต่างจากบรรยากาศของเดอะโดม

เป็นการต่อยอดธุรกิจของบริษัทแชลเล้นจ์ ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด บริษัททางด้านบริการ ผู้บริหารร้านอาหารทั้ง 3 แห่ง บน The Dome ซึ่งประกอบไป ด้วย Sirocco ร้านอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน Mezzaluna ร้านอาหารสไตล์อิตาเลียน ร้าน Distil ร้านอาหารในสไตล์ที่หลากหลาย และเดอะโดม ห้องจัดเลี้ยงสัมมนา บนยอดตึกที่มีมุมมอง 360 องศา

ธุรกิจร้านอาหาร เป็นสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้ชื่นชอบเป็นพิเศษ ก่อนขึ้นตำแหน่ง CEO เธอเคยไปทำร้านอาหารเล็กๆ "รักเอย" ในโครงการยิ่งรวยนิเวศน์ บ้าน จัดสรรราคาแพงบนถนนประชาชื่นของราศรี บัวเลิศ ผู้เป็นแม่ และยังเปิดร้านอาหาร "บางรัก" ชั้นล่างของ สเตท ทาวเวอร์อีกด้วย เพียงแต่ 2 ร้านนั้นเป็นร้านอาหารเล็กๆ ทำสนุกๆ ร่วมกับเพื่อนฝูง แต่ร้านอาหาร บนเดอะโดม และโครงการใหม่ที่เธอจะเปิดนั้นมีวิธีคิด ที่แตกต่างกัน

"วิธีคิดของอีนตั้งแต่แรกในการทำร้านอาหารบนเดอะโดม คือ ต้องการสร้างให้เป็นแลนด์มาร์ก เป็นสัญลักษณ์ของเมืองไทย คนที่มาเมืองไทยต้องมาที่นี่ ไม่อย่างนั้นแล้วเหมือนกับมาไม่ถึง ดังนั้นการบริหารจัดการต้องทำอย่างมืออาชีพ เพราะนี่คือ professional life อีกด้านหนึ่งของอีน"

ทำเลของร้านอาหารบนยอดตึกในเมืองไทยเป็นเพียงส่วนประกอบของจุดขายอย่างหนึ่ง แต่การเทรนคนในเรื่องบริการ ในเรื่องรสชาติของอาหารคือส่วนที่มีความสำคัญที่สุด การทำงานอย่างมืออาชีพของเธอพิสูจน์ได้จากการใช้เงินไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาทต่อครั้ง เพื่อว่าจ้างบริษัททำวิจัยจากอเมริกาเข้ามาทำสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าที่เข้ามาในร้าน เก็บไว้เป็นฐานข้อมูลเพื่อการปรับปรุงอย่างทันท่วงที โดยครั้งแรกทำไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ส่วนรอบที่ 2 จะทำใหม่อีกครั้งในกลางปีนี้

วิธีคิดในการจัดเก็บข้อมูล การทำวิจัย และการนำข้อมูลไปใช้ให้ได้ประสิทธิผลมากที่สุดถูกเตรียมนำไปใช้ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เช่นกัน

"ล่าสุดอีนเพิ่งมีระบบทำงาน 5 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2548 ซึ่งหมายความว่า cost ของอีนจะเพิ่มขึ้นประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเราบอกทุกคนว่าเรายอม อีนบอกว่าได้เลย ทุกโรงแรมในโลกทำงาน 6 วัน นอกจากเชน ของแมริออท แมริออทเป็นที่เดียวที่คิดค้นมาว่าถ้าคนเรามีการพักผ่อนเพียงพอ จะมีสมรรถภาพในการทำงานมากขึ้น และเพราะตัวเองเชื่อเรื่องพวกนี้มากๆ ว่าชีวิตกับการทำงานมันต้องบาลานซ์กัน การมีคุณภาพชีวิตที่ดี ผลผลิตที่ได้จะเต็มเม็ดเต็มหน่วย แล้ววันนี้แมริออทเขาพิสูจน์แล้ว มันได้ผล"

งานบริการคืองานที่ต้องทำด้วยใจ หากอยากได้ใจเขา เราต้องให้ใจเราก่อน คือสิ่งที่เธอคิดและหวังว่า อีกไม่นานเมื่อมีความพร้อมในเรื่องบุคลากรและประสบการณ์ต่างๆ บนร้านอาหารของเดอะโดมมากพอ มันก็จะกลายเป็นฐานที่มั่นคง ให้เธอก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้อย่างมืออาชีพ รวมทั้งเป้าหมายของการตั้งบริษัทบริหารจัดการ ธุรกิจร้านอาหารไปทั่วโลก

เมืองไทยเป็นที่ยอมรับในเรื่องความเป็นสุดยอดของการบริการ เธอตั้งใจจะพิสูจน์ให้เห็นว่าการบริการอย่างมืออาชีพได้มาตรฐานสากลต้องทำอย่างไร

ผ้าขนหนูผืนเล็กที่พนักงานนำมาวางให้เช็ดมือวันนั้น เป็นผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นจัด มีกลิ่น ตะไคร้โชยมาบางเบา เป็นเสน่ห์เล็กๆ น้อยๆ อย่างหนึ่ง ที่รัฐวดีได้วิธีคิดมาจาก "สปา" ซึ่งแต่ละวันกลิ่นหอมของสมุนไพรนี้จะแตกต่างกันออกไป

สิ่งที่รัฐวดี หรือ "คุณอีน" ย้ำนักหนากับพนักงานว่าความแตกต่างของคนที่ตั้งใจทำกับทำไปอย่างนั้นเอง เป็นความรู้สึกที่ลูกค้าสัมผัสได้

วิธีคิดและความตั้งใจการทำธุรกิจร้านอาหารของรัฐวดี บัวเลิศ CEO สาวคนนี้จึงน่าสนใจ และดูเหมือนว่าเป็นเรื่องเดียวที่ราศรี บัวเลิศ ผู้เป็นแม่ได้แต่เฝ้ามองอย่างภูมิใจ และไม่ต้องคอยเป็นพี่เลี้ยงให้อย่างการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์