|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ เมษายน 2548
|
|
ปีนี้นับเป็นปีที่ 3 แล้ว ที่จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา เปิดห้องประชุมเทเวศร์ เพื่อต้อนรับเหล่าบรรดาผู้สื่อข่าว ซึ่งไปร่วมฟังการแถลงข่าว ประจำปีของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
เพียงแต่บรรยากาศของการแถลงข่าวปีนี้ แตกต่างไปจากใน 2 ครั้งแรก ที่มีการจัดเก้าอี้สำหรับผู้สื่อข่าวในลักษณะวางเรียงแถวแบบเดียวกับห้องประชุมและผู้บริหารของสำนักงาน ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ทุกคนขึ้นไปบนเวที เพื่ออธิบายถึงผลการดำเนินงานที่ผ่านมาใน 1 ปี
แต่ปีนี้การจัดโต๊ะเก้าอี้เป็นลักษณะโต๊ะชุดแบบห้องอาหารและบนเวทีมีเพียงจิรายุในฐานะผู้อำนวยการเพียงคนเดียว ที่ขึ้นมาเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าตลอดปี 2547 ที่ผ่านมา สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้ทำอะไรไปแล้ว และกำลังมีแผนที่จะทำอย่างไรต่อไปในปี 2548
"บทบาทเพื่อสังคม" คือทิศทางหลักสำหรับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ที่จะมุ่งเน้นดำเนินการในช่วงต่อจากนี้
"ปีนี้หลังจากที่เราสามารถยืนอยู่ได้แล้ว จึงต้องเน้นงานทางด้านสังคมมากขึ้น เพราะเรามีกำลัง มีความมั่นคงที่จะทำได้" เป็นคำประกาศของจิรายุที่ให้ไว้กับผู้สื่อข่าว
นับจากวิกฤติที่เกิดขึ้นในปี 2540 เป็นต้นมา สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการแก้ไขปัญหาในกิจการที่ได้ไปลงทุนเอาไว้ โดยเฉพาะธุรกิจหลัก 2 แห่ง คือปูนซิเมนต์ไทย ธนาคารไทยพาณิชย์
การแก้ปัญหาทางการเงินของทั้ง 2 กิจการ เริ่มประสบความสำเร็จ จนกลับมาสร้างกำไร และจ่ายเงินปันผลคืนให้กับสำนักงานทรัพย์สินได้ใหม่ ตั้งแต่ปี 2546
คำว่า "ยืนอยู่ได้ มีกำลัง และมีความมั่นคง" ที่จิรายุกล่าวไว้ หมายถึงปัจจุบันสำนักงานทรัพย์สินฯ มีรายได้ในแต่ละปีเพียงพอสำหรับการนำมาใช้ในบทบาทเพื่อสังคม
ปี 2547 ที่ผ่านมา สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มีรายได้รวมประมาณ 5,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้กว่า 90% เป็นรายได้จากเงินปันผลของปูนซิเมนต์ไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และเทเวศประกันภัย ที่เหลืออีกประมาณ 8% หรือประมาณ 400 ล้านบาท เป็นรายได้จากค่าเช่าที่ได้รับจากประชาชน และหน่วยงานของราชการที่เช่าที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินฯ อยู่
รายได้ดังกล่าว เพียงพอต่อการผันมาสร้างประโยชน์เพื่อสังคมโดยรวม ตามเจตนารมณ์ที่ต้องคำนึงถึงการส่งเสริมประโยชน์ ส่วนรวมตามรอยพระยุคลบาท
สำหรับขอบเขตของบทบาททางสังคมของสำนักงานทรัพย์สินฯ ได้กำหนดไว้ 6 กลุ่มงานด้วยกันประกอบด้วยงานด้าน ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม การศึกษาและเยาวชน งานด้านประชา สงเคราะห์ การฝึกอาชีพ และการกีฬา โดยมียุทธศาสตร์เพื่อความยั่งยืน การสร้างเครือข่ายความร่วมมือ และการประสานประโยชน์ระหว่างกลุ่ม
ตัวอย่างบทบาททางสังคมที่จิรายุยกขึ้นมาเป็นตัวอย่างในการแถลงข่าวครั้งนี้ อาทิ การพัฒนาตลาดนางเลิ้ง นโยบายให้ความเป็นธรรมกับผู้เช่า และยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมในการทำสัญญาเช่าใหม่ รวมถึงโครงการตั้งศูนย์ฝึกอาชีพพัฒนาคุณภาพชีวิต
"ปีที่แล้ว เราก็บอกเรื่องบทบาททางสังคม แต่สื่อสนใจเรื่องเศรษฐกิจมากกว่า เรื่องหุ้น เรื่องปูนซิเมนต์ไทย เลยไม่มีใครลงข่าวด้านสังคมของเรา" จิรายุบอก
การแถลงข่าวปีนี้จึงเน้นเฉพาะเรื่องบทบาททางสังคมเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น
|
|
|
|
|