|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ เมษายน 2548
|
|
ข่าวคราวการตัดสินใจลาออกของ กฤษณัน งามผาติพงษ์ รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานการตลาด แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ซึ่งมีผลอย่างเป็นทางการเมื่อสิ้นเดือนที่ผ่านมา ถูกตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์รายวันและรายสัปดาห์ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาหลายฉบับพร้อมๆ กัน เป็นนัยให้เห็นความสำคัญของชายผู้นี้อย่างเสียมิได้
กฤษณันถือเป็น Market maker ที่หาตัวจับยากคนหนึ่ง ในระยะเวลาการทำงานหลายสิบปี กฤษณันประสบความสำเร็จในการเป็นผู้บุกเบิก ตลาดและเป็นผู้นำตลาดของสินค้านั้นๆ มาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการบุกเบิกทำตลาดมือถือโนเกียตั้งแต่ยุคมือถือกระติกน้ำ ในเมืองไทยและประเทศในแถบเอเชียร่วมกับทีมผู้ผลิตต่างชาติ ก่อนตัดสินใจออกจากโนเกีย ทั้งๆ ที่มีโอกาสเป็นผู้บริหารอันดับ 4 ในระดับโลก ด้วยยอดขาย ของโนเกียในไทยกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ
แม้เขาจะเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งใหม่ในเอไอเอสได้เพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่การเปลี่ยนลักษณะการดำเนินธุรกิจของเอไอเอส ที่หวังกำไรจากการให้บริการทางเสียงอย่างเดียวมาเป็นการสร้างธุรกิจจากบริการอื่นที่ไม่ใช่เสียงหรือ non-voice ทำให้เอไอเอสสร้างรายได้เพิ่มขึ้นนับหมื่นล้านบาทต่อปี
การลาออกด้วยเหตุผลส่วนตัวของกฤษณัน ทำให้ผู้บริหาร ระดับสูงอย่างยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และบุญคลี ปลั่งศิริ ปฏิเสธไม่ได้ ขณะที่แนวโน้มการยุบตำแหน่งของกฤษณัน โดยให้ผู้บริหารในระดับ Business Unit รายงานตรงผ่านไปยังยิ่งลักษณ์โดยตรงเป็น สิ่งที่ค่อนข้างชัดเจน
แนวความคิดในการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี และสามารถ สร้างรายได้ หรือทำกำไรได้จริงของกฤษณัน ยากยิ่งนักที่จะหาใครในวงการเข้ามาแทนที่ หลายครั้งที่ผู้ถนัดทางด้านเทคโนโลยี มักไม่ใช่นักวางแผนทางการตลาด อย่างที่กฤษณันเป็น
วันนี้กฤษณันตั้งใจออกไปทุ่มเทให้กับครอบครัวอย่างเต็มที่ หลังจากใช้เวลาทำงานกับเอไอเอสถึงวันละ 18 ชั่วโมง โดยปฏิเสธ ที่จะหวนกลับมารับตำแหน่งเดิมหากเสร็จสิ้นภารกิจกับครอบครัว หรือรับตำแหน่งที่ปรึกษาให้กับเอไอเอสอย่างที่ผู้บริหารบางคนเสนอให้ เพราะเห็นว่าแนวทางที่ตัวเองสร้างรากฐานเอาไว้ให้กับบริษัทน่าจะทำให้บริษัทสามารถเดินไปได้อีกไกล โดยเฉพาะการสร้างรายได้จากบริการเสริมมากมาย ประกอบกับคู่แข่งยังคงให้ความสำคัญกับบริการเสริมในระดับเริ่มต้น และแข่งขันกันลดราคามากกว่าที่เอไอเอสเป็นอยู่ น่าจะทำให้เอไอเอสได้เปรียบกว่า ค่ายอื่นอยู่แล้ว
กฤษณันยังเปรียบตัวเองเป็น "เป็ด" ที่ทั้งเดินบนดินว่ายน้ำ และบินได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเขาก็สามารถปรับตัวเองได้ตลอดเวลา และถือว่าภารกิจหลักที่เคยสัญญาไว้กับเอไอเอส คือ การมาเพื่อเปลี่ยนธุรกิจได้เสร็จสิ้นไปแล้ว พร้อมทั้งเปรยว่าหากมีโอกาสเขาเองอยากเป็นเจ้าของธุรกิจรับสร้างไอเดีย หรือทำการ ตลาดให้กับสินค้าของใครก็ได้ที่ต้องการทำตลาดสินค้าราคา 20 บาทแต่ขายได้ราคานับหมื่นของตัวเอง แต่ยังรับปากไม่ได้ว่าจะนานแค่ไหนถึงจะเปิดธุรกิจของตัวเองได้
งานหนักของกฤษณันเสร็จสิ้นไปแล้ว งานหนักของคนที่ยังอยู่ยังไม่เสร็จสิ้นแต่อย่างใด
|
|
|
|
|