|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ พฤศจิกายน 2528
|
|
ประเทศไทยเป็นประเทศกสิกรรมเราจึงมีประชากรส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร
รัฐบาลยุคไหน พรรคการเมืองไหนที่ไม่มีนโยบายช่วยเหลือเกษตรกร ยังไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศนี้ และคงยังไม่เกิดภายในเวลา 100 ปีต่อไป
เพราะความฝังใจของคนไทยโดยเฉพาะคนในเมือง เกษตรกรคือผู้ที่มีอาชีพที่มีรายได้น้อย มีความเป็นอยู่แร้นแค้น บางจังหวัดบางภาคยากจนถึงกับลูกหลานต้องกินดินประทังหิวจนเป็นข่าวตื่นเต้นฮือฮา
ทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้เอามาใช้กับเกษตรกรที่เราเรียกว่าชาวไร่อ้อยไม่ได้เลย
เคยได้ยินไหมครับว่าพอชาวนาจะเริ่มปลูกข้าว โรงสีเอาเงินมาให้ล่วงหน้าจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นต้นทุนในการปลูกหรือบำรุงพันธุ์ข้าวให้ดีขึ้น?
เคยได้ยินไหมครับว่าชาวนาพอจะเริ่มเกี่ยวข้าว โรงสีเอาเงินมาจ่ายราคาข้าวให้ครึ่งหนึ่งเพื่อให้แน่ใจว่าเมื่อเกี่ยวข้าวเสร็จแล้ว จะได้เอาข้าวเปลือกไปขายโรงสีแห่งนั้น?
เคยเห็นไหมครับว่าชาวนาค้าขายข้าวร่ำรวย จนกระทั่งปลูกบ้านอยู่ราวกับวังเป็นเจ้าของโรงแรมชั้นหนึ่ง ขับรถเก๋งวอลโว่ มีคอนวอยรถบรรทุก 10 ล้อไว้ขนข้าวของตัวเองหรือรับจ้างขนของคนอื่นไปขายที่โรงสี? แถมยังใช้บัตรทองอเมริกันเอ็กซ์เพรสด้วย !
เคยเห็นไหมครับว่าชาวนามีหุ้นอยู่ในโรงสี หรือเป็นเจ้าของเสียเอง?
จะเชื่อหรือไม่ถ้า “ผู้จัดการ” จะบอกว่า สิ่งที่ตั้งคำถามไปนั้นเป็นเรื่องจริงที่แสนธรรมดาของเกษตรกรที่เราเรียกว่าชาวไร่อ้อย!
โรงงานน้ำตาลวังขนายที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท ใช้เงินลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท มีชาวไร่อ้อยถือหุ้นอยู่ 90 เปอร์เซ็นต์
กลุ่มโรงงานน้ำตาลบ้านโป่งที่เราเขียนถึงเป็นวรรคเป็นเวรนี่ พื้นเพแค่ชั่วอายุเดียวก็คือชาวไร่อ้อย
ชาวไร่อ้อยนี้เราไม่ได้หมายถึง “คนงาน” ในไร่อ้อย ที่ได้รับค่าจ้างเป็นรายวัน หรือต่อไร่กับงานที่ทำเหมือนกับกรรมกรในโรงงาน
และ “ผู้จัดการ” ก็ไม่ได้มีอคติหรืออิจฉาในความมั่งคั่งของพี่น้องชาวไร่อ้อยเลยแม้แต่น้อย เพราะไม่ใช่ความผิดของพวกท่านที่จะร่ำรวยกว่าเกษตรกรประเภทอื่นจนไม่รู้จะเปรียบเทียบกันอย่างไร?
และเราก็เข้าใจวิวัฒนาการของชาวไร่อ้อยว่ามีวิวัฒนาการที่ต่างกับเกษตรกรแขนงอื่น
แต่ขอร้องสักนิดได้ไหมว่า เวลาราคาน้ำตาลในตลาดโลกมันตก ก็จงอย่าได้บีบให้รัฐบาลถึงกับต้องไปกู้เงินมาพยุงราคาอ้อยแบบปี 2525 ที่ทุกวันนี้ยังไม่มีเงินแม้แต่จะจ่ายดอกเบี้ยคืนธนาคาร
หรือเวลากำหนดราคาอ้อยไม่ได้ราคาสูงเหมือนเคย ด้วยสาเหตุที่พวกท่านทราบอย่างชัดเจน ก็จงอย่ายกขบวนรถบรรทุก 10 ล้อออกมาปิดถนน ประท้วงรัฐบาลว่าไม่ช่วยเหลือเกษตรกร
ด้วยว่าผู้ที่มีอาชีพเกษตรกรเช่นท่าน หรือพี่น้องชาวไทยร่วมชาติของท่าน ต้องกล้ำกลืนกินน้ำตาลที่แพงกว่าชาวโลกถึง 4 เท่าตัวเพื่อช่วยเหลือพวกท่าน โดยความรู้เห็นเป็นใจของรัฐบาลนั้น ยังไม่สาสะใจท่านอีกหรือ ?
คอลัมน์ อุตสาหกรรมการเกษตร
|
|
|
|
|