Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤศจิกายน 2528








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤศจิกายน 2528
วรรณ ชันซื่อ กับการเมือง เขาชอบผู้มีอำนาจอย่างสฤษดิ์ ธนะรัชต์             
 

   
related stories

วรรณ ชันซื่อ ทำงานเงียบ ๆ รวยเงียบ ๆ

   
search resources

วรรณ ชันซื่อ




วรรณ ชันซื่อ สนใจเรื่องการเมืองมาก

แต่ก็เป็นความสนใจในฐานะผู้สังเกตการณ์ความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง มิใช่จะสนใจในแง่ที่อยากกระโจนเข้าไปเล่นการเมืองด้วย

“โดยขนาดของธุรกิจของผม มันมีความจำเป็นที่จะต้องติดตามการเมืองอย่างใกล้ชิด เพราะฉะนั้นต้องสังเกตว่าการเมืองจะไปทางไหน เราจะได้ปรับตัวของเราให้สอดคล้อง อย่าไปสะดุดเข้า ธุรกิจของผมหลายอย่างถ้ามันสะดุดกับการเมืองแล้ว มันพัง...” วรรณพูดกับ “ผู้จัดการ”

ก็คงจะจริง เพราะอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันและอุตสาหกรรมหนักอีกหลายแห่งที่เป็นการร่วมทุนกับญี่ปุ่นนั้น จะดำเนินไปได้ราบรื่นหรือมีปัญหาก็มักจะขึ้นอยู่กับนโยบายของกลุ่มผู้ มีอำนาจทางการเมืองในแต่ละยุคอยู่แล้ว

วรรณ ชันซื่อ ผ่านอุณหภูมิร้อนหนาวทางการเมืองมาหลายยุค ตั้งแต่ยุคจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ยุคจอมพลถนอม-จอมพลประภาส ยุค 14 ตุลาคม 2516 จนกระทั่งยุคปัจจุบัน

ถ้าจะให้เขาเปรียบเทียบแต่ละยุค

“ต้องยุคสฤษดิ์ครับ ยุคนั้นธุรกิจเฟื่องฟูมาก แต่จะเฟื่องฟูไปในทางถูกหรือผิดเป็นอีกเรื่องนะ เพราะจอมพลสฤษดิ์ท่านก็มุ่งแต่จะส่งเสริมอุตสาหกรรมเด่น ๆ ทำแล้วเห็นผลงาน อุตสาหกรรมขนาดกลางและเล็กท่านไม่ค่อยสนใจ แต่พูดถึงภาพรวม ๆ ต้องสมัยท่าน”

สำหรับวรรณ ชันซื่อ แล้ว จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นผู้ปกครองประเทศที่เขาประทับใจในความสามารถมากที่สุด

“มีความเด็ดขาดและมีความแน่นอน คือนักธุรกิจนั้นกลัวอย่างเดียว การไม่ตัดสินใจอะไรเด็ดขาด เพราะเขาไม่รู้ว่าจะตามอย่างไร ธุรกิจมันต้องเดินตามแนวที่รัฐบาลวางไว้ รัฐบาลทำแนวอย่างนี้และทำทุกอย่างเพื่ออิมพลิเมนต์แนวอันนี้ ธุรกิจก็จะเดินตามแนวนี้ไป นักธุรกิจเขาปรับตัวได้เสมอ ขอให้กำหนดแนวที่ชัดเจนออกมาเท่านั้น และกำหนดแล้วต้องอิมพลิเมนต์แนวนั้นอย่างเข้มแข็ง ถ้ารัฐบาลแกว่งไปแกว่งมาหรือวางแนวทางไว้หลวม ๆ แล้วไม่มีมาตรการที่จะอิมพลีเมนต์อย่างจริงจัง นักธุรกิจก็จะลำบากใจ” วรรณให้เหตุผล

และเมื่อให้เขาเปรียบเทียบกับแนวนโยบายของรัฐบาลชุดปัจจุบัน วรรณหัวเราะอย่างขบขัน ก่อนขอตัวที่จะต้องแสดงความเห็นใด ๆ ออกมา

อย่างไรก็ตาม ยุคที่วรรณ ชันซื่อ ยอมรับว่าหนักใจที่สุดก็คือยุค 14 ตุลาคม 2516 ภายหลังการหมดอำนาจของรัฐบาลถนอม-ประภาส

“มันคุมกันไม่ติดเลย โดยเฉพาะปัญหาแรงงาน” เขากล่าวและบอกว่าดีใจมากที่ประเทศไทยผ่านสถานการณ์ในช่วงนั้นมาได้โดยไม่บอบช้ำมาก

นอกจากจะติดตามการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างใกล้ชิดแล้ว วรรณ ชันซื่อ ก็ยังมีโอกาสเข้าใกล้ชิดกับผู้มีอำนาจในแต่ละยุคอีกหลายคน

อย่างเช่นในยุคจอมพลสฤษดิ์ วรรณ ชันซื่อ ก็เป็นนักธุรกิจคนหนึ่งที่ได้เข้าพบจอมพลสฤษดิ์อยู่บ่อย ๆ เพราะอย่างน้อยก็มีปัญหาในเรื่องโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ที่จะต้องปรึกษาหารือกัน

“ผมสังเกตว่าท่านเป็นคนรับฟังความเห็นแม้จะดูเป็นเสียงนกเสียงกา อย่างผมตอนนั้นอายุก็แค่ 30 กว่า ๆ แต่เมื่อผมแสดงความเห็นไปบางเรื่องท่านจะรับฟังและก็เคยปฏิบัติตามความเห็นของผม” วรรณเล่าเรื่องตัวเขากับจอมพลสฤษดิ์

ส่วนในยุคจอมพลถนอม-จอมพลประภาส วรรณบอกว่า “จอมพลถนอมผมไม่ค่อยสนิทกับท่าน คงมีแต่ท่านจอมพลประภาส เพราะท่านก็เคยมีหุ้นอยู่ที่ไทยออยล์ ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นหุ้นของกระทรวงการคลังไปแล้ว ก็ได้พบปะกับท่านบ่อยกว่า”

และสำหรับปัจจุบันก็เป็นเรื่องที่ไม่ได้ปิดลับว่า วรรณ ชันซื่อ นั้นมีความใกล้ชิดอย่างมากๆ กับพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เสนาธิการทหารบกคนปัจจุบัน

เป็นความใกล้ชิดที่เกิดจากหลานชายคนหนึ่งของวรรณ ชันซื่อ เผอิญไปแต่งงานกับบุตรสาวของพลเอกชวลิต

“นี่ก็ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน แล้วครับ ไม่ได้พบกันเลย อย่างมากก็แค่โทรศัพท์คุยกันนิดหน่อย คุณชวลิตตอนนี้คงกำลังยุ่งอยู่ แต่ก่อนหน้านั้นก็พบกันเป็นประจำ” วรรณพูดให้ฟัง


คอลัมน์ PROFILE   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us