|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ พฤศจิกายน 2526
|
|
ก่อนตัดสินใจซื้อคอมพิวเตอร์มาติดตั้งใช้งานแต่ละครั้ง ว่ากันว่ามีเรื่องที่ผู้ลงทุนจะต้องขบคิดให้ตกมากมายหลายปัญหา และหนึ่งในจำนวนหลายๆ ปัญหาดังกล่าวนั้นก็คือ คำถามที่ว่า “มันคุ้มไหมกับเงินที่ลงไป...”
ในกรณีการติดตั้งคอมพิวเตอร์สำหรับใช้กับงานธนาคารก็เช่นกัน ผู้บริหารระดับตัดสินใจมักต้องการคำอธิบายชนิดมีตัวเลขประกอบเสมอว่า ถ้าติดตั้งแล้ว (เจ้า) เครื่องคอมพิวเตอร์มันจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย. ช่วยแก้ปัญหาประเภทไฟสุมอกและอีกร้อยแปดปัญหาได้อย่างไรบ้าง
ต่อไปนี้เป็นเรื่องเก็บตกจากการสนทนากับดร.ปัญญา เปรมปรีด์ ผู้จัดการฝ่ายคอมพิวเตอร์ธนาคารกสิกรไทย จำกัด ซึ่ง “ผู้จัดการ” เห็นว่าเป็นกรณีที่ช่วยให้ผู้บริหารรับทราบถึงประโยชน์ของการมีคอมพิวเตอร์ไว้ใช้งานอย่างตรงเป้ากรณีหนึ่ง
“เมื่อผมเข้าทำงานที่กสิกรไทยใหม่ๆ ประมาณ 4 ปีที่แล้ว ผมเสนอกับท่านประธานว่า ผมจะทำระบบดิสติบิวเต็ดให้มันเชื่อมติดกันเป็นเน็ตเวิร์ค โดยเริ่มเล็กๆ ก่อน 3 จุด คือที่เสือป่า สีลมแล้วก็พหลโยธิน ซึ่ง 2 จุดแรกเคยเป็นสำนักงานใหญ่มาก่อนส่วนจุดที่ 3 เป็นสำนักงานใหญ่ปัจจุบัน พอเริ่มงานไปได้สัก 6 เดือน ท่านประธานก็ปรารภว่าที่สาขาพัฒนพงศ์งานมันล้นมาก ล้นจนสถานที่คับแคบ จำเป็นต้องขยายซึ่งก็ต้องขยายโดยไปเช่าตึกที่อยู่ฟากตรงข้าม ต้องเสียค่าแป๊ะเจี๊ยะ 5 ล้านบาท”
“ผมก็เสนอว่า น่าจะเอาคอมพิวเตอร์เข้าไปช่วยแก้ปัญหา เพราะเราลงทุนเพียงประมาณ 4 ล้านบาทมันเประหยัดกว่า ท่านประธานก็บอกว่า โอเคเราลองกันดูก็เลยเปลี่ยนแผนแทนที่จะเช่าตึกที่ฟากตรงข้าม เราก็เอาคอมพิวเตอร์เข้าไปตั้งแทน”
เล่าถึงตรงนี้ ดร.ปัญญาเว้นวรรคไว้นิด เหมือนกับรู้ใจว่า “ผู้จัดการ” จะต้องถาม “แล้วมันช่วย แก้ปัญหาได้ไหม...”
“ช่วยได้มากทีเดียว” อีดีพีเมเนเจอร์ของกสิกรไทยตอบสวนมาทันที
"หนึ่ง-ระบบดิสติบิวเต็ดของเรามันทำบัญชีที่สาขานั้น เรียกว่าดำเนินการได้ทันทีเลย มันต่างคนต่างทำไป เพราะมันมีโปรเซสซิ่งพาวเวอร์ มันมีสตอเรจ มีพรินเตอร์ ทำได้สบายและมันเป็นงานที่เชื่อมโยงกับการฝากถอนของลูกค้า เมื่อระบบงานของสาขาทำได้เร็ว บริการที่ให้กับลูกค้าก็เร็วตามไปด้วย แล้วเรายังลดจำนวนพนักงานลงบัญชี จากที่มีประมาณ 6 คนเหลือ 2-3 คน ที่จริง 2 คนก็พอแต่เราให้ไว้ 3 คนเผื่อมันหาที่พิมพ์ไม่เจอต้องใช้คนทำเอา...”
“สอง-มันช่วยลดเนื้อที่ของแบบฟอร์มที่ลูกค้าใช้กรอก ที่เคยมี 5-6 กระบะใหญ่ ๆ หายไปหมด เพราะมันแทนที่โดยคอมพิวเตอร์ที่อยู่ข้างใน”
“สาม-มันลดเนื้อที่ตั้งโต๊ะที่เคยตั้งเป็นแถวแต่เดิมลูกค้ามาติดต่อก็ต้องผ่านจากเคาน์เตอร์ไปโต๊ะ ที่ตั้งเรียงรายลำดับจนถึงโต๊ะสุดท้ายแล้วจึงกลับมาที่เคาน์เตอร์อีกครั้ง พอเอาคอมพิวเตอร์เข้าไปใช้มันตัดขั้นตอนแบบนั้นหมด เพราะจัดการได้ทันทีที่หน้าเคาน์เตอร์ พนักงานก็มานั่งที่เคาน์เตอร์เอาโต๊ะออกไป เอากระบะการ์ดออกไป เอาโต๊ะพนักงานลงบัญชีออกไป มันก็โล่ง สาขาพัฒนพงศ์เราเคยมีพนักงานประมาณ 40 คน เข้าใจว่าเราประหยัดคนไปได้ 2-3 คน ซึ่งดูแล้วอาจจะไม่มาก แต่ที่เราประหยัดมากที่สุดคือเนื้อที่ทำให้เราไม่ต้องเสียค่าเช่าตึกอีก 5 ล้านบาท”
นอกจากนี้ผลที่ติดตามมาอีกประการหนึ่งก็คือ “เนื้อที่ตรงหน้าเคาน์เตอร์ก็ว่าง เพราะระบบเดิมลูกค้าต้องคอยคิว เนื่องจากเรื่องจะต้องเดินไปตามโต๊ะต่างๆ เสียเวลา คนก็แน่น แต่ตอนนี้เขามาติดต่อที่หน้าเคาน์เตอร์งานมันเสร็จตรงนั้น เพียงอย่างมากก็สัก 1 นาที ลูกค้าก็ไม่ต้องคอย เนื้อที่ข้างในที่เคยกันไว้ให้ลูกค้ายืนคอยหรือนั่งคอยก็ว่างลง คล่องตัวไปหมดทุกอย่าง”
|
|
|
|
|