|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เผยเบียร์ช้างมาร์เกตแคป 2-2.5 แสนล้านบ. เพิ่มขนาดตลาดหุ้นไทยได้ 2% ตลท.ครวญเสียดายโอกาสสร้างงานผลดีเศรษฐกิจ ขณะที่ดัชนีหุ้นรูดปิดต่ำ 700 อีกครั้งหลังรัฐขึ้นดีเซล "โต้ง" ชี้ผลกระทบน้อยตลาดรับรู้แล้ว โบรกฯแนะจับตาเฟดมีผลค่าดอลลาร์แข็ง ส่วนหุ้นน้องใหม่ SMM เหนือจองตามคาด "โสภาวดี"ยืนยันเป้าหมาย 100 บริษัทเข้าตลท.ไม่เปลี่ยนแม้หุ้นซบ ชี้ภายในไตรมาส 2 และ 3 กระจุกตัว
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า หุ้นบริษัทไทยเบฟเวอร์เรจ หรือ เบียร์ช้าง ถ้าเข้ามาจดทะเบียนในตลท.จะช่วยเพิ่มมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (มาร์เก็ตแคป) 2-2.5 แสนล้านบาท ซึ่งจะเป็นหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคป (มูลค่าตามราคาตลาด) สูงสุดติด 1 ใน 5 ทั้งนี้ถ้าพิจารณาด้านเศรษฐกิจการเข้าตลท.ของเบียร์จะเกิดประโยชน์เพราะจะทำให้บริษัทสามารถระดมทุนเพื่อนำเงินไปขยายกิจการซึ่งจะก่อให้เกิดการสร้างงานมากขึ้น
ทั้งนี้เบียร์ช้างจะสามารถเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการตลท.เป็นผู้ตัดสิน
**คาดเบียร์ช้างขยายตลาด 2%
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เบียร์ช้างเข้าตลาดหลักทรัพย์น่าจะเกิดผลดี เพราะเป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่มีมาร์เก็ตแคปประมาณ 1 แสนล้านบาท ซึ่งจะช่วยใหขนาดของตลาดหุ้นขยายได้ประมาณ 2% ถือเป็นการเพิ่มสีสันให้กับตลาดหุ้นไทย รวมทั้งยังสามารถดึงนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนได้ด้วย
ทั้งนี้โดยส่วนตัวไม่นิยมส่งเสริมการดื่มแอลกอฮอล์หรือของมึนเมา แต่ถ้าเบียร์ช้างไม่ได้เข้าในตลาดหลักทรัพย์ของไทยก็จะผลักดันให้ไปจดทะเบียนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ซึ่งเท่ากับว่ายังสามารถระดมทุนและขยายธุรกิจได้ต่อไป
ขณะที่สังคมไทยคนก็ยังคงดื่มเหล้าและเบียร์ไม่เปลี่ยนแปลงดังนั้นจึงถือเป็นเรื่องน่าเสียดายที่บริษัทขนาดใหญ่ของไทยจะไปจดทะเบียนในตลาดต่างประเทศ ปัจจุบันนี้ตลาดหุ้นต่างประเทศหลายแห่งทั้งในยุโรป,สหรัฐ, ญี่ปุ่น, จีนต่างก็มีบริษัทที่ทำธุรกิจแอลกอฮอล์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เช่นเดียวกัน
ขณะที่วานนี้ (22 มี.ค.) ได้มีการชุมนุมหน้าตลาดหลักทรัพย์ประมาณ 20 คน ซึ่งเป็นคนจากสมาคมพุทธศาสน์สัมพันธ์ เพื่อมาสนับสนุนการที่ตลาดหลักทรัพย์เลื่อนการประชุมคณะกรรมการจากเดิมที่กำหนดในวันที่ 23 มีนาคมไปอย่างไม่มีกำหนด
**ดีเซลกดหุ้นปิดต่ำ 700
ด้านการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์วานนี้ดัชนีปิดที่ 699.53 จุด ลดลง 5.50 จุด หรือ 0.78% มูลค่าการซื้อขาย 15,300.29 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,067.30 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 158.90ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 2,226.20 ล้านบาท
ส่วนหุ้นบริษัทสยามอินเตอร์มัลติมีเดีย (SMM) เข้ามาซื้อขายเป็นวันแรก ราคาเปิดที่ 2.94 บาทสูงกว่าราคาจองที่กำหนดไว้ 2.65 บาทหลังจากนั้นก็มีแรงซื้อเข้ามาทำให้ราคาขึ้นมาสูงสุดที่ 3.10 บาทต่อมาก็มีแรงเทขายทำกำไรออกมา ทำให้ราคาอ่อนตัวลดลงและมาปิดที่ 2.72 บาทสูงกว่าราคาจอง 0.07 บาทหรือ 2.64%มูลค่าการซื้อขาย 472.76 ล้านบาท
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ กล่าวว่า การที่ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้นจะมีผลกระทบต่อหุ้นที่เข้ามาจดทะเบียนหรือไม่นั้นจะต้องพิจารณาจากปัจจัยหลายด้านทั้งภาวะตลาดหุ้นโดยรวม รวมถึงการกำหนดราคาหุ้น ซึ่งเจ้าของบริษัทและที่ปรึกษาทางการเงินควรที่จะกำหนดราคาไม่สูงเกินไปนัก การที่รัฐบาลปรับตัวราคาน้ำมันดีเซลรวดเดียว 3 บาทไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดมากและในวันนี้สาเหตุที่ดัชนีตลาดปรับตัวลงไม่แรงเป็นเพราะนักลงทุนคาดการณ์อยู่แล้วว่ารัฐบาลจะต้องปรับราคาขึ้นแน่นอนและโดยปกติตลาดหุ้นจะปรับตัวลงแรงก็ต่อเมื่อมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า แม้ที่ผ่านมาตลาดหุ้นจะซบเซาแต่ตลท.ยังไม่ได้มีการปรับเป้าหมายของบริษัทที่จะเข้ามาจดทะเบียนภายในปี 2548 ซึ่งกำหนดไว้ 100 บริษัท โดยจะเป็นบริษัทที่เข้าในตลาด (SET) 60-70 บริษัทและบริษัทที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใหม่ (mai) 30-40 บริษัท ซึ่งภายในไตรมาสแรกของปีมีบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ 9-10 บริษัท และมีหลายบริษัทที่อยู่ระหว่างรองบการเงินประจำปีซึ่งคาดว่าภายในไตรมาส 2 และ 3 นี้จะมีจำนวนบริษัทที่กระจายหุ้นจำนวนมาก เพราะเป็นปีสุดท้ายที่บริษัทจดทะเบียนได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษี ประกอบกับบริษัทต่างๆ มีการขยายตัวจึงจำเป็นที่จะต้องระดมทุนเพื่อขยายกิจการ
**จับตาเฟดขึ้นดอกเบี้ย
นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธการลงทุน บล.พัฒนสิน เรื่องน้ำมันคงกระทบต่อตลาดหุ้นเพียงระยะสั้น เรื่องที่มีน้ำหนักมากกว่า คือการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ซึ่งอาจจะส่งผลให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น และมีการโยกย้านเงินเพื่อเก็งกำไรในตลาดเงินมากขึ้นด้วย ซึ่งประเด็นดังกล่าวต้องดูทิศทางของธนาคารกลางสหรัฐฯเรื่องการประชุมขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นายอดิพงษ์ ภัทรวิกรม ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธการลงทุน บล.ไทยพาณิชย์ จำกัด กล่าวว่า การปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลคงไม่มีผลต่อภาพเศรษฐกิจมากนัก ซึ่งภาพรวมของ GDP ประเทศก็คงไม่ได้รับผลกระทบ โดยในส่วนของกลุ่มที่น่าจะได้รับผลกระทบ จะเป็นกลุ่มที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับรับเหมาก่อสร้าง สินค้าพื้นฐาน และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับประชาชนในต่างจังหวัด เช่น ธุรกิจเช่าซื้อ
|
|
|
|
|