แผนการปรับผังองค์กรของ "อสมท" วุ่นอีกแล้ว ถึงขั้น "เรวัติ ฉ่ำเฉลิม" ประธานบอร์ดต้องลงมาเคลียร์เอง เรียกประ-ชุมด่วนนอกรอบที่เชียงใหม่แก้ปัญหา เผยจ้างวัตสันแอนด์ไวแอต 20 ล้านบาท แต่ได้แค่กระดาษ 2 แผ่น หวั่นคนนอกองค์กรเรียงคิวเข้ายึดเก้าอี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้แผนงานการปรับโครงสร้างองค์กรภายในบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ตามนโยบายของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เริ่มมีปัญหาความรุนแรงขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะการลดบทบาทของผู้บริหารเก่าบางคน รวมไปถึงกระแสการนำคนนอกองค์กรเข้ามาบริหารในบางตำแหน่ง จนเกิดความขัดแย้งขึ้นมา ซึ่งล่าสุด นายเรวัติ ฉ่ำเฉลิม ในฐานะประธานบอร์ด อสมท ต้องเรียกผู้บริหารระดับสูงทุกคนเข้าประชุมด่วนที่จังหวัดเชียงใหม่ในช่วงวันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเพื่อเปิดการเจรจากับบอร์ดรวมทั้งหาข้อยุติปัญหาดังกล่าว

นอกจากนั้นยังมีประเด็นปัญหาเรื่องของการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาชื่อว่าบริษัท วัตสันแอนดไวแอต ให้เข้ามารับผิดชอบในการศึกษาการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ให้กับอสมท ในวงเงินว่าจ้างที่มากถึง 20 ล้านบาท ซึ่งสร้างความกังขาให้กับคนในองค์กรอย่างมากว่า ทำไมค่าจ้างต้องสูงขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ผลการศึกษาออกมานั้นไม่คุ้มค่ากลับมีเพียงแค่กระดาษ 2 ใบเท่านั้น โดยเป็นโครงสร้างองค์กรอย่างคร่าวๆ แต่ไม่มีรายละเอียดของการทำงานและความรับผิดชอบของผู้เกี่ยวข้องแต่ละสายหลักๆ

"ถ้าไม่มีรายละเอียดความรับผิดชอบของงาน ไม่มีจ็อบเดสคริปชันที่ชัดเจน รายละเอียดของหน้าที่รับผิดชอบ แล้วอย่างนี้เสียเงินจำนวนมากไปว่าจ้างทำไม ตรงนี้เป็นที่สงสัยของคนในอสมทอย่างมาก"

ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ทางอสมทก็ได้ว่าจ้างทางบริษัท แอคคูลลี่ ไปแล้วในการศึกษาผังโครงสร้างใหม่ ด้วยวงเงินประมาณ 8 แสนกว่าบาทเท่านั้นเอง แถมยังมีรายละเอียดและแนวทางที่มากกว่าครั้งนี้ด้วย แต่ก็ยังไม่เป็นที่สรุป กระทั่งมีการว่าจ้างบริษัทใหม่ตามมา

ผังใหม่ของอสมทซึ่งนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่เปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้คือ จะมี 8 สายงานหลัก คือ 1.สายงานวิทยุและกิจกรรมพิเศษ 2.สายงานโทรทัศน์ 3.สายงานกิจการ สำนักข่าวไทย 4.สายงานการตลาด 5.สายงานวิศวกรรมและเทคโนโลยี 6.สายงานการเงิน 7.สายงานการบริหาร 8.สายงานกิจการพิเศษ

โดยตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่จากเดิมมี 4 อัตรา เพิ่มเป็น 8 อัตรา ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานจากเดิมมี 9 อัตรา เพิ่มเป็น 18 อัตรา ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายจากเดิมมี 24 อัตรา เพิ่มเป็น 48 อัตรา

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า หน่วยงานที่ดูจะมีปัญหามากที่สุดคือ สำนักข่าวไทย ซึ่งเดิมนายนิพนธ์ นาคสมภพ เป็นผู้ดูแลในตำแหน่งผู้อำนวยการ สำนักข่าวไทย แต่ในภายหลังมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งนายมิ่งขวัญได้ลงมาคุมเองทั้งหมดหลังจากที่เข้ามารับตำแหน่งในอสมทได้ไม่นาน พร้อมกันนี้ในช่วงนั้นยังได้ดึงเอา นางสมถวิล จรรยาวงศ์ อดีตเคยบริหารงานที่นิตยสารรีดเดอร์ไดเจสท์ เข้ามาทำงานตำแหน่งผู้ชำนาญการพิเศษ แต่ดูเหมือนว่าที่ผ่านมาจะเข้ามามีบทบาทในส่วนของสำนักข่าวไทยอย่างมาก จนกระทั่งล่าสุดนี้แว่วมาว่าได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จัดโครงสร้างสำนักข่าวไทย และมีกระแสว่าจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักข่าวไทย อีกต่างหากด้วย

นอกจากนั้นนางสาววีรวรรณ วรวุฒย์ เดิมเป็น ตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักข่าวไทย และได้รับการมอบหมายให้ดูแลในช่วงที่นายนิพนธ์ไม่ได้รับผิดชอบ แต่ล่าสุดได้ถูกโยกให้ไปดูแลตำแหน่ง ผู้ช่วยฝ่ายข่าวต่างประเทศเมื่อช่วงต้นเดือนนี้เอง ซึ่งได้สร้างความสับสนในหน่วยงาน

"ตอนนี้คนในอสมทหวั่นวิตกกันอย่างมากว่าตำแหน่งใหญ่ต่างๆ นั้นจะมีคนนอกองค์กรเข้ามาทำงานแทนหลายตำแหน่ง ทั้งๆ ที่คนในเองก็มีความสามารถมากและมีประสบการณ์มานานกลับไม่ได้รับการพิจารณา ซึ่งถ้าหากเป็นเช่นนี้จริงแล้วก็เท่ากับเป็นการทำลายขวัญและกำลังใจของพนักงาน"

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าว "ผู้จัดการรายวัน" ได้พยายามติดต่อนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท เพื่อขอทราบข้อเท็จจริง เกี่ยวกับปัญหาต่างๆในการปรับโครงสร้างแล้วแต่ไม่สามารถติดต่อได้เนื่องจากติดภารกิจ