Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน21 มีนาคม 2548
ทางสายใหม่ “กฤษณัน งามผาติพงศ์”ต้องการเดินบนถนน Market Maker             
 


   
www resources

AIS Homepage

   
search resources

แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส, บมจ.
กฤษณัน งามผาติพงศ์
Mobile Phone




เอไอเอสไม่แต่งตั้งผู้บริหารใหม่แทน “กฤษณัน” ให้แต่ละส่วนงานรายงานตรงกับ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ขณะที่ผู้บริหารหนุ่มผันตัวสู่ธุรกิจใหม่ “Market Maker” ขอเป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับการสร้างแบรนด์เล็กให้ยิ่งใหญ่ระดับชาติ พร้อมฝากแนวคิดที่ถ่ายทอดเป็นแผนงานในระยะยาวไว้ อย่าง “โมบายอินเทอร์เน็ต” ที่เอไอเอสเตรียมเปิดตัวในกลางปีนี้

นายกฤษณัน งามผาติพงศ์ กล่าวว่า ภายหลังการลาออกของตนจากตำแหน่ง รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด ในบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส หรือเอไอเอส คงจะไม่มีการแต่งตั้งผู้บริหารคนอื่นเข้ามาแทนในตำแหน่งนี้ แต่ในโครงสร้างหลักยังคงมีตำแหน่งนี้อยู่โดยมี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะรักษาการในตำแหน่ง ซึ่งในทางปฏิบัติ ผู้บริหารแต่ละสายงานสามารถรับผิดชอบงานได้เอง และจะรายงานโดยตรงต่อยิ่งลักษณ์ได้เลย ทั้งนี้โดยจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง

การลาออกของ “กฤษณัน” เป็นไปตามความต้องการตั้งแต่แรกที่เข้ามานั่งตำแหน่งผู้บริการเอไอเอสที่ต้องการมาเพื่อสร้างและปรับเปลี่ยนให้ธุรกิจของเอไอเอสดีขึ้นแค่ช่วงเวลาที่ตั้งใจไว้เท่านั้น โดยมองว่าหลังจากนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้บริหารแต่ละส่วนงานว่าจะปล่อยหมัดเด็ด หรือหมัดแย็บออกมาอย่างไร และในช่วงไหน เพราะแผนงานในระยะยาวทุกอย่างถูกเตรียมไว้พร้อมแล้ว ที่สำคัญต้องขึ้นอยู่กับความกล้าของผู้บริหารแต่ละคนในการจัดการกับเกมการตลาดเอไอเอสมีแผนทุกรูปแบบทั้งรุกและรับ

นอนวอยส์เป็นเซ็กเตอร์หนึ่งที่กฤษณันมองว่าจะทำรายได้ได้อีกมาก เพียงแค่ 2 ปี เอไอเอสมีรายได้ถึง 8,000 ล้านบาท ผู้ที่จะทำตรงนี้ได้ต้องเป็นคนที่เข้าใจเรื่องนอนวอยซ์เป็นอย่างดี ต้องให้ความสำคัญกับ R&D เมื่อถึงเวลาก็ปล่อยโปรดักต์ออกมาแต่ละตัว โดยมองว่าการไม่มี R&D เป็นของตัวเองทำให้ต้องซื้อจากผู้อื่นซึ่งจะเป็นต้นทุนที่สูงมากเมื่อเทียบกับการพัฒนาเอง อย่างที่เอไอเอสให้ความสำคัญกับทีมฟิวเจอร์แล็บ

ก่อนอำลาตำแหน่ง “กฤษณัน” ถ่ายทอดแนวคิดผ่านออกเป็นบริการใหม่ๆ หลายโครงการอย่างที่หลายคนคิดไม่ถึง อย่างการนำมือถือเข้ามาใช้งานแทนโทรศัพท์พื้นฐานหรือฟิกซ์ไลน์ โดยอาศัยจังหวะความไม่พอดีของดีมานด์และซัปพลายของฟิกซ์ไลน์บวกกับศักยภาพของโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ไม่มีขีดจำกัดในการใช้งาน

เอไอเอสเปิดตัวสมาร์ทโซลูชันที่จับกลุ่มธุรกิจที่เป็นออฟฟิศและบ้าน โดยการนำโทรศัพท์มือถือใช้งานแทนฟิกซ์ไลน์ และที่ผนวกสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นไว้ด้วยไม่ว่าจะเป็นแฟกซ์ อินเทอร์เน็ต มัลติมีเดียอื่นๆ โดยในอนาคตอันใกล้จะขยายไปสู่กลุ่มผู้ใช้ตามบ้านโดยตรง

“ต่อไปนี้ทุกอย่างที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตจะสามารถขึ้นมาอยู่บนมือถือได้หมด”

ขั้นตอนต่อไปของเอไอเอสคือจะทำให้อินเทอร์เน็ตเป็นคอลเน็ตเวิร์ก ลิงก์ทุกอย่างผ่านอินเทอร์เน็ต โปรโตคอล (IP) คุมการใช้งานผ่านอุปกรณ์ได้ทุกชนิด

“กลางปีนี้จะได้เห็นโมบายอินเทอร์เน็ตแบบสมบูรณ์ ซึ่งเอไอเอสมีแผนจะลอนช์ประมาณเดือนพฤษาคมนี้”

รูปแบบการใช้งานคือเข้าไปที่ WWW ซึ่งต่อไปจะใช้เบอร์โทร.เป็น URL และเป็นวอยซ์โอเวอร์ไอพี (VOIP)

“ทุกอย่างถูกวางไว้หมดแล้ว เพียงแต่บางเกมต้องรอ บางเกมต้องรุก” กฤษณัน กล่าวบทบาทใหม่

กฤษณันกล่าวว่า หลังออกจากเอไอเอส ก็คงไม่ได้หยุดทำงานไปเลย จะมีบ้างเป็นในลักษณะที่ปรึกษารับทำเป็นโปรเจกต์ให้กับนักลงทุนที่ต้องการทำให้เงิน 20 บาท งอกเงยเป็นหลักหมื่นบาทได้”ผมจะเป็น Market Maker”

กฤษณันมองว่า ทุกวันนี้ไม่มีใครที่เป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดอย่างจริงจัง ไม่มีใครเป็นที่ปรึกษาด้านการสร้างแบรนด์อย่างจริงจัง เมื่อเห็นโอกาส กฤษณันจึงหันมาจับธุรกิจลักษณะนี้ โดยมีแนวคิดที่ว่า ซัปพลายเออร์ต่างชาติแม้จะพูดว่าทำเพื่อผู้บริโภคแต่ที่สุดแล้วก็ขนกำไรกลับประเทศด้วยกันทั้งนั้น จึงมุ่งให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ให้กับคนไทย ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นสินค้าอะไร อาจเป็นคอนซูเมอร์โปรดักต์ก็ได้ หรือแม้แต่สินค้าเทเลคอมยี่ห้อเล็กๆ ยี่ห้อใหม่ที่ต้องการสร้างแบรนด์ สร้างตลาดก็ยินดี

“วันนี้ขอสร้างชีวิตครอบครัวให้มากยิ่งขึ้น มาถึงวันนี้เรื่องเงินไม่สำคัญ แต่ของทำสิ่งที่เรียกว่าสนุก และท้าทายก็พอแล้ว”

จากประสบการณ์ด้านการตลาดไม่ว่าจะเป็นสินค้าคอนซูเมอร์โปรดักต์จากบอร์เนียว หรืองานด้านเทเลคอมในระดับผู้บริหารโนเกีย ที่ผ่านมากฤษณันมีประสบการณ์ด้านการตลาดหลายด้าน อย่างที่บอร์เนียวหรือที่โนเกียในตำแหน่งผู้บุกเบิก โนเกียเซาท์อีสต์เอเชียทั้งหมด

“เราพร้อมที่จะสร้างให้แบรนด์เล็กๆในวันนี้ขึ้นมายิ่งใหญ่ในระดับโลก แบรนด์ต้องจับต้องได้ ไม่ใช้แค่การโฆษณา”

ท้ายสุดนักบริหารไฟแรงอย่าง”กฤษณัน” มองว่า ยุคต่อไปจะเป็นยุคของซอฟต์แวร์เพราะซอฟต์แวร์จะกลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญหากประเทศไทยหันมาให้ความสำคัญกับซอฟต์แวร์และมาพัฒนาเรื่องนี้อย่างจริงจัง ประเทศไทยจะพัฒนาไปอีกไกล ดูอย่างประเทศอินเดียเป็นตัวอย่าง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us