|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
ตลาดหุ้นไทยซึมลงปิดต่ำ 700 จุด แต่วอลุ่มหด แค่ 1.4 หมื่นล้าน ต่างชาติยังขายต่อ 1.6 พันล้าน หุ้นกลุ่มเหล็กคึกคักขึ้นสวนตลาด "วิจิตร" มั่นใจมาร์เกตแคปตลาดหุ้นแตะ 7 ล้านล้าน ก่อนรัฐบาลใหม่ครบวาระสูงกว่าจีดีพี ได้หุ้นขนาดใหญ่ดันเม็ดเงินลงทุนเมกะโปรเจกต์ 1.5 ล้านล้าน ขณะที่กองทุนวายุภักษ์กันเงิน 1 หมื่นล้านบาท ไว้เพื่อลงทุนในหุ้นทีพีไอ และหุ้นรัฐวิสาหกิจที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์
บรรยากาศการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวานนี้ (15 มี.ค.) ดัชนีปรับขึ้นในช่วงเช้าก่อนจะมีแรงขายเข้ามาในช่วงบ่าย ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 696.84 จุด ลดลง 3.38 จุด หรือ 0.48% มูลค่าการซื้อขาย 14,069.57 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,602.31 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 530.94 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 1,071.36 ล้านบาท
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า การปรับลดลงของดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ เนื่องจากอยู่ในช่วงที่มีการพักฐานหลังจากที่หุ้นขึ้นมาระยะหนึ่ง บวกกับยังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุน ขณะที่ปัจจัยลบเรื่องราคาน้ำมันยังคงกดดันตลาดอยู่ ส่วนปัญหาภัยแล้งอาจกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุนในระยะสั้นๆ
"ดัชนีคงปรับลงไม่มาก เพราะช่วงที่ผ่านมาการลดลงของตลาดมาจากมีการเตือนในบทวิเคราะห์หลายโบรกเกอร์แนะนำให้นักลงทุนเริ่มทยอยขายทำกำไรออกมา ประเมินดัชนีวันนี้จะมีแนวรับที่ 690 จุด และแนวต้านที่ 700 จุด" นายวรุตม์กล่าว
ส่วนหุ้นกลุ่มเหล็กวานนี้คึกคักและปรับตัวขึ้นสวนทางตลาดรวมที่ทรุดตัวลง รับข่าวดีที่รัฐบาลอนุมัติให้มีการขึ้นราคาเหล็กอีก 300 บาทต่อตัน
นายวิจิตร สุพินิจ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ตั้งเป้ามูลค่าตลาดรวม (มาร์เกตแคป) ตลาดหุ้นไทยที่ 7 ล้านล้านบาท ภายใน 3-5 ปี ซึ่งจะอยู่ในระดับเดียวกับสินเชื่อเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ และจะสูงกว่า GDP อยู่ที่ระดับ 5 ล้านล้านบาท โดยจะมาจากการระดมทุนของรัฐบาล เพื่อใช้ในการลงทุนสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน (Mega Projects) 1.5 ล้านล้านบาท
สำหรับแผนการดำเนินงานของตลาดหลักทรัพย์ฯก็ยังคงเน้นทำตามแผนพัฒนาตลาดทุน 5 ปี ซึ่งที่ผ่านมาดำเนินการมาแล้ว 3 ปี โดยการที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ กลับมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็มีบทบาทสำคัญที่จะทำให้ตลาดทุนมีการพัฒนาในทุกๆ ด้านอย่างต่อเนื่อง เช่น การเพิ่มและการสร้างสินค้าที่มีคุณภาพ บริษัทจดทะเบียนมีธรรมาภิบาล
รวมถึงสร้างระบบการซื้อขายที่จะสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนเข้ามาซื้อขาย และการกำกับดูแลการซื้อขายเพื่อป้องกันการซื้อขายที่ไม่ถูกต้อง รวมถึงการขยายฐานนักลงทุน ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยมีความเข้มแข็งมากขึ้น ประกอบกับทุนการที่รัฐวิสาหกิจมีแผนในการเข้ามาจดทะเบียนในตลท. ก็จะช่วยเพิ่มมาร์เกตแคปเพิ่มขึ้น และสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนมากขึ้น
"หากเปรียบเทียบกับประเทศมาเลเซียถือว่า GDP ประเทศไทยยังสูงกว่า แต่ในด้านของมาร์เกตแคปนั้นตลาดหุ้นมาเลเซียมีการเติบโตที่มากว่าประเทศไทย เพราะมาเลเซียได้มีการรวมธุรกิจน้ำมันต่างๆเข้ามาจดทะเบียน" นายวิจิตรกล่าว
นายพิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า ขณะนี้กองทุนวายุภักษ์จะไม่นำเงินกองทุนที่ยังเหลืออยู่ 1 หมื่นล้านบาท มาลงทุนซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เพิ่ม เนื่องจากต้องจากต้องกันเงินไว้สำหรับเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทีพีไอ รวมทั้งหุ้นรัฐวิสาหกิจที่อยู่ระหว่างการแปรรูป
ขณะที่แหล่งข่าวจากกองทุนวายุภักษ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการเข้าไปลงทุนในหุ้นทีพีไอว่า ขณะนี้คณะกรรมการการลงทุนของกองทุนวายุภักษ์ยังไม่ได้พิจารณาเข้าไปลงทุนในหุ้นทีพีไอ และยังไม่มีการเข้าไปทำดิวดิลิเจนท์ ซึ่งคงต้องรอให้บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และธนาคารออมสินเข้าไปทำการตรวจสอบสถานะทางการเงิน (ดิวดิลิเจนท์) หลังจากนั้นทางวายุภักษ์ก็จะเข้าไปทำการตรวจสอบสถานะการเงิน
"คณะกรรมการการลงทุนยังไม่มีการแก้เกณฑ์ การเข้าไปลงทุนในทีพีไอ แต่ทางกองทุนวายุภักษ์ก็มีความสนใจที่จะเข้าไปลงทุน อย่างไรก็ตามราคาหุ้นทีพีไอจะต้องไม่เกิน 3 บาทต่อหุ้น ถ้าราคาสูงกว่านี้ก็คงจะไม่เข้าไป เพราะกองทุนวายุภักษ์จะต้องดูแลผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยเป็นสำคัญ แม้ว่าทางรัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องการให้เข้าไปช่วยเหลือทีพีไอ ก็คงจะต้องมีการชี้แจงถึงเหตุผล อีกอย่างกองทุนวายุภักษ์มีทางเลือกอื่นมากมาย มีหุ้นหลายตัวที่สามารถให้เลือกลงทุนได้ หากทีพีไอยังไม่สามารถแก้ปัญหาภายในได้ก็คงจะปฏิเสธ" แหล่งข่าวรายเดิมกล่าว
นายศรีภพ สารสาส ประธานบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการ (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับเงินลงทุนในหุ้นรัฐวิสาหกิจนั้นกองทุนวายุภักษ์หนึ่งได้จัดเตรียมไว้จำนวนหนึ่งแต่แรกแล้วแต่ไม่ขอเปิดเผยตัวเลขทั้งหมด ส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นไทยนั้นกองทุนวายุภักษ์ลงทุน ตั้งแต่ดัชนี 600 กว่าจุด เมื่อราคาหุ้นปรับขึ้นมาก็ทยอย และทยอยซื้อบ้างถ้าหุ้นตัวใดราคาต่ำ
|
|
 |
|
|